in , ,

รีวิว – เคส iPad2 จาก Targus รุ่น 360 ROTATING STAND

เคส iPad2 ส่วนใหญ่ในปัจจุบันมักจะติดปัญหาอยู่หน่อยนึง คือจะเป็นแนวนอน(เวลาตั้ง)เสียส่วนใหญ่ ซึ่งจริง ๆ แล้วเคสแนวตั้งนั้นก็มี เช่น Ozaki รุ่น iCoat Versatile Vertical ฯลฯ ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ก็คือเคสมักจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่แนวตั้งก็แนวนอนไปเลย เช่นพวก SmartCover อย่างเก่งก็มีแค่ปรับองศาได้ แต่ผมยังไม่เคยเจอเคสไหนที่สามารถจะตั้งให้ได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้งได้เลย

ถามว่าการใช้งานจริงมีผลไหม มันก็คือมี การใช้งาน iPad ส่วนมากหลาย ๆ แอพฯ ออกแบบมาให้ใช้งานในแนวตั้ง ไม่ว่าจะเป็นพวก Facebook, Twitter, Safari หรืออื่น ๆ การใช้แนวตั้งดูเหมือนจะสามารถแสดงผลได้ดีและมากกว่า แต่ก็อย่าลืมว่าในหลาย ๆ งานและหลาย ๆ แอพฯ ก็เหมาะที่จะใช้แนวนอนมากกว่าเช่นกัน เช่นพวก Video, Youtube ฯลฯ

ดังนั้นจึงเป็นที่มาของการกำเนิดเคสที่โลกรอคอย โดยนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของโลกถึง 4 ชั่วอายุคน (ไม่ใช่ละ = =”) เคส Targus ได้ตอบสนองเกือบความต้องการทุกอย่างของคุณ ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องติดตามดูได้ในรีวิวนี้ครับ “รีวิว – เคส iPad2 จาก Targus รุ่น 360 ROTATING STAND”

ด้านบนของเคสบอกถึงสรรพคุณของเคส รวมทั้งรูปภาพเพื่อให้เข้าใจว่าสามารถหมุนได้ 360 องศาจริง ๆ

ด้านหลังมีหลายภาษาประกอบ โดยวัสดุที่ใช้เป็นมิตรต่อโลกสามารถรีไซเคิลได้ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม … โลกร้อนต้องช่วยกันนะครับ อย่าลืม !

ตัวเคสนั้นมีขนาด (ยาว x หนา x กว้าง) อยู่ที่ 25 x 1.8 x 19.5 cm วัสดุที่ใช้เป็นหนังสังเคราะห์ นำหนักอยู่ราว ๆ 3 ขีด นิด ๆ โดยสีที่ผมจะใช้รีวิวเป็นสีส้ม/ดำ และนอกจากนี้ยังมีสี ดำ/ฟ้า อีกด้วย (ส่วนสีอื่นมีอีกไหมผมไม่แน่ใจเหมือนกัน ต้องลองเช็คที่ร้านดู)

ด้านในของตัวเคสจะมีโฟมอย่างหนารองอยู่ มั่นใจปลอดภัยถึงมือลูกค้าอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ยังมีกันชื้นถึง 2 ซอง่ และกระดาษรองหลังอีก 1 แผ่น ขนาดบรรจุภัณฑ์ยังตั้งใจขนาดนี้ ตัวเคสจะบรรจงขนาดไหนต้องตามอ่านครับ

ตัวเคสทั้งตัวเป็นหนังสังเคราะห์หมดครับ ยกเว้นฝาหลังบริเวณที่สัมผัสกับเครื่อง(จุดเสียวซะด้วย !)เป็นพลาสติก คาดว่าคงจะเป็นข้อจำกัดของวัสดุ ส่วนจะเป็นรอยไหมคงต้องดูระยะยาวครับ แต่หากใครกังวลมาก ๆ ก็ไปติดกันรอยหลังเครื่องได้ครับ แต่ผมเดาว่าไม่เป็นรอยหรอก(ของซื้อมาใช้คิดอะไรมากมาย?)

ตัวฝาพับบริเวณที่สัมผัสกับจอของเครื่อง หนาและใหญ่มาก ๆ เมื่อเทียบกับ iROO เคสชนิด Folio ที่มีความบางที่สุดในโลก (The Slimmest folio case in the world) ไม่ว่าจะเป็นล่อนคู่(ไม่ใช่กระเบื้องนา -*-)แต่ก็มีข้อดีที่ว่ามันจะปกป้องเคสได้ดีมาก ๆ หากใครเป็นคนซุ่มซ่าม หรือต้องการซื้อเคสมาเพื่อใช้งานจริงแนะนำตัวนี้มากกว่าครับ iROO มันเหมาะที่จะพกพามากกว่า ถึงจะกันอะไรได้ไม่มากแต่ก็บางและคล่องตัวกว่า

มาเทียบกันดูจากวัสดุ ความบางกับเคส iROO จะเห็นว่าขนาดความหนาต่างกันมมาก แต่เรื่องไซต์ยังไงก็เท่ากันอยู่แล้วครับ แล้วก็ห้ามพยายามยัด iPad1 ลงไปเพราะมันไม่มีทางยัดได้

เมื่อใส่เคสกับ iPad แล้วจะเป็นแบบนี้ สามารถหมุนได้แต่ก็ไม่ถึงกับ Free ยังมีแรงต้านนิด ๆ ของตัวล็อคหมุน สามารถหมุนได้ 360 องศาตามชื่อเคส ไม่ต้องกลัวหักแน่นอนครับ เพราะลองโยกดูให้แล้ว

หากพลิกเครื่องมาดูด้านหลังจะเห็นแบบนี้ โชว์ตรา Apple หราเลย(แบบที่หลายคนชอบ)อีกอย่างมันเป็นช่องตัวล็อคหมุ่น ทำให้ได้ช่องพอดิบพอดีเลย(หวังว่าคงไม่มีใครกลัวตรา Apple เป็นรอยนะ = =”)เพราะตัวโลโก้จะแทบไม่มีโอกาสได้สัมผัสกับพื้นเลย

ปุ่มปรับเสียงที่ถูกเจาะมาอยากดีและบรรจง ทำให้กดได้ง่ายและไม่ลำบากจนเกินไป

ส่วนทางด้าน Port สาย Sync ก็ใช้งานได้ไม่มีปัญหา ส่วนบริเวณด้านลำโพงได้เว้นไว้ให้เสียงออกถึง 100% ทำให้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

(แนวนอน) ตัวล็อคเคสสามารถปรับองศาการดูได้ถึง 3 ระดับ โดยพื้นฐานหนา มั่นคง แข็งแรง แม้มีคนมาจนก็ไม่ตก แต่หากหลุ่นลงพื้นก็ไม่อาจทำให้ iPad2 ของเราเสียหายได้ เพราะการปกป้องอย่างดีจาก Targus

(แนวนอน) เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นภาพดังนี้ ด้วยสีสันที่โดดเด่นจะทำให้ทุกสายตาต้องมองมา

(แนวนอน) ด้านหลังยังให้อารมณ์หรูหรา และมีความภูมิฐานด้วยความที่เป็นหนัง ทำให้สามารภทำความสะอาดได้ง่าย เพียงแค่ใช้ครีมทำความสะอาดหนังทั่ว ๆ ไปเช็ดออก คราบไม่ฝังลึกเหมือนเนื้อผ้า

ช่องเจาะในส่วนกล้องนั้นได้เจาะาพอดีแบบเป๊ะ ๆ … ทำให้สามารถใช้งานกล้องได้อย่างพอดีไม่มีปัญหาและไร้สิ่งบดบังภาพ ส่วนเรื่องแสงสะท้อนนั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะ iPad ไม่มีแฟลช

(แนวตั้ง) เหมาะสำหรับดูเว็บและใช้งานแอพฯ ทั่ว ๆ ไปซึ่งเคสน้อยแบรนด์นักที่จะสามารถเอียงแบบนี้ได้ และยังไม่เคยเจอเคสไหนที่สามารถเอียงได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนแบบ Targus

(แนวตั้ง) ด้านหลังอีกมุมหนึ่งครับ โดยรวมแล้วก็เหมือนกับแนวนอน เพียงแค่เปลี่ยนด้านเท่านั้นเอง

ข้อเสียอีกอย่างของเคส Targus ตัวนี้ก็คือ(ปกติผมวิจารณ์ทั้งข้อดีและข้อเสียอย่างเป็นกลาง ซึ่งเคสนี้ก็เช่นกัน)ยางไนล่อนที่ใช้รัดเคสนั้นมีความแน่นเกินไป นอกจากจะทำให้แกะเพื่อเปิดเคสได้ยาก ยังได้ให้เคส(ที่มาจากโรงงาน)โก่งอีกด้วย แต่ปัญหาเคสโก่งเพียงแค่จับงอกลับ 2-3 ครั้งก็คงสภาพเดิมแล้ว ส่วนยางไนล่อนผมได้ทดสอบคุณภาพด้วยการยืด-หดแบบสุด ๆ เป็นจำนวน 100 ครั้งแล้วปรากฎว่ายังใช้งานได้ดี คงไม่มีปัญหาภายใน 1-2 ปีแน่นอน(ปกติใช้แค่ครึ่งปีหรือ 3 เดือนผมก็เปลี่ยนเคสใหม่ละ เบื่อ….)

ความหนาของเคส(รวมฝา)เมื่อได้ติดตั้งเคสแล้วจะมีความหนาอยู่ที่ 2 เซนฯ กว่า ๆ

ความหนาของเคส(รวมฝา) ณ ส่วนที่หนาที่สุดรวมฝาบริเวณที่หนาที่สุด(เพราะเป็นขาตั้ง)เมื่อได้ติดตั้งเคสแล้วจะมีความหนาอยู่ที่ 2 เซนฯ ครึ่ง

เมื่อจับถือเคสจะมีลักษณะเป็นอย่างนี้ โดยจะสามารถใช้งานพิมพ์ได้นิด ๆ แต่ไม่ค่อยดีนัก สำหรับผมว่าองศาที่เอียงมันยังน้อยเกินไป(เกือบแบนราบ)เมื่อถือเคสแล้วจับถนัดกระชับมือ ส่วนขาล็อคนั้นสามารถยึดเครื่องได้เป็นอย่างดี ไม่มีอาการดีดทำให้เครื่องตกหล่น หรือหลุดร่วงแต่อย่างใดถือว่าผ่านด้านความปลอดภัยครับ 😀

สรุป

Targus รุ่น 360 ROTATING STAND เป็นเคสที่แข็งแรงเป็นอย่างมาก เนื่องจากหนาและมีส่วนที่รองรับแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี จุดเด่นของเคสอยู่ที่สามารถหมุนได้ 360 องศา ทำให้ได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน สะดวกต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก ตัวเคสเก็บงานได้ดีระดับกลาง ๆ สีดูโดดเด่นและดูมีระดับ แต่เนื่องด้วยความที่เป็นเคสที่หนาทำให้อาจจะพกพาลำบาก ควรหากระเป๋าเหมาะ ๆ มาใส่เพื่อพกพาด้วยมากกว่าที่จะเดินถือเคสไปไหนมาไหน เพราะอาจจะทำให้ล้านิ้วและข้อมือได้

ตัวเคสมีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ iStudio*, iBeat*, .Life และตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ในราคา 2,190 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับตัวแทนจำหน่ายทั้งหมดได้ที่ 02-634 4201

*สำหรับ iStudio และ iBeat ไม่ได้มีวางจำหน่ายทุกสาขา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขด้านบน


ขอขอบคุณ บริษัท ทาร์กัส เอเชีย แปซิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับสินค้าทดสอบครับ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย yugioh2500

หากตรงไหนแปลหรือเขียนผิดสามารถชี้แนะได้ครับ
ติดต่อ-สอบถาม-พูดคุย-แลกเปลี่ยนกันได้ที่
Twitter: @yugioh2500

One Comment