รีวิว – เคส iPad 2 “Kajsa Denim Collection”

จากความเดิมตอนที่แล้วที่ผมได้แนะนำ รีวิว – เคส iPad 2 “Kajsa Preppie Collection” น่าจะเป็นที่ถูกใจของหลาย ๆคน แต่วันนี้ผมมีตัวที่เด็ดกว่านั้นมานำเสนอครับ นั่นก็คือ “Kajsa Denim Collection” โดยทั้งคู่นั้นเป็นเคสจาก Kajsa เหมือน ๆ กัน แต่คนละคอลเลคชั่นกัน ซึ่งจะให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน ส่วนเรื่องความละเอียด ความเนี๊ยบนั้นยังคงเดิม เรียกได้ว่าไม่ทำให้เสียชื่อ Kajsa เลยจริง ๆ หากใครต้องการซื้อเป็นของขวัญ ของฝาก ในช่วงวันปีใหม่นั้นเป็นไอเดียที่ดีเลยครับ สำหรับผมนั้นก็ได้เตรียมไว้แล้วเช่นกัน ซึ่งผมก็เลือกเคสตัวนี้แหล่ะครับ สวยดี … แถมคนที่เราซื้อให้นั้นก็ได้ใช้งานจริง ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะผ่านไปกี่วันเมื่อเขามองเคสก็จะนึกขึ้นได้ว่า “อ๋อ … ได้ตอนปีใหม่จาก บลา ๆ ๆ ๆ” ต่างจากพวกกระเช้าของขวัญที่กินแล้วก็หมดกัน หากใครกำลังหาอะไรที่พิเศษ ๆ อยู่ ลองเปลี่ยนของขวัญปีใหม่บ้างก็ไม่เลวครับ ปีใหม่ ๆ ลองทำอะไรใหม่ ๆ อาจจะถูกใจผู้ให้ ประทับใจผู้รับ มากกว่าทุกครั้งก็ได้ ^^

“Kajsa Preppie Collection” สามารถหาซื้อได้ตามห้างทั่วไป
หรือที่ BBiPhone.com จะอยู่ที่ราคา 1,790 บาท

รูปแบบแพคเกจยังมาเหมือนเดิมครับ เป็นกล่องพลาสติกใสเหมือนเดิม เช่นเดียวกับตัว รีวิว – เคส iPad 2 “Kajsa Preppie Collection”

ส่วนเนื้องานนั้นทำมาจากผ้ายีนส์แท้ ๆ ครับ เหนียวและทนเอามาก ๆ สำหรับคอยีนส์ คนชอบลุยไม่ควรพลาดเลย งานดูเก๋ ๆ เท่ห์ ๆ ในแบบอเมริกัน รอยเย็บต่าง ๆ เก็บได้ดีมาก ๆ ครับ

ด้านข้างมีที่เก็บปากกาสำหรับ Stylus ด้วย หากใครอยากได้แต่ยังไม่มี สามารถหาซื้อได้ ที่นี่ เลยครับ เหมาะกับสาว ๆ ที่ไว้เล็บหรือไม่ก็ผู้ที่ต้องการความนิ่งในการสัมผัส และไม่ทิ้งคราบลายนิ้วมือ

ด้านในนั้นมีการบุกันกระแทกเป็นอย่างดี ทำให้สินค้าส่งถึงมือลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์

เมื่อติดตั้งเคสนั้นเคสตัว Kajsa Denim Collection นั้นจะติดตั้งเช่นเดียวกับ รีวิว – เคส iPad 2 “Kajsa Preppie Collection” คือเสียบเคสเข้าจากด้านข้าง แต่ความพิเศษที่มากกว่านั้นก็คือ จะมีแถบเทปกาว (ตีนตุ๊กแก) มาช่วยเพิ่มความปลอดภัยอีกขั้น

ด้านในจะเป็นวัสดุกำมะหยี่อย่างดี ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากการถอดและสวมใส่เคส เป็นอย่างดี โดยด้านในอาจจะต้องระวังเล็กน้อย เพราะตัวกำมะหยี่จะไม่ทนทานเท่ากับวัสดุผ้ายีนส์ที่อยู่ด้านนอก

ตีนตุ๊กแกที่ว่าครับ ช่วยปกป้อง iPad เราอีกขั้น จากที่ว่าเดิม ๆ แค่สอดเข้าไปมันก็แน่นอยู่แล้ว ได้ตีนตุ๊กแกมาช่วยนี่ยิ่งเพิ่มความมั่นใจเข้าไปอีกขั้นนึง

เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว จะเป็นดังภาพ รับรองได้ว่าเขย่าให้ตายยังไงก็ไม่มีทางที่จะหลุดร่วงลงมาได้อย่างแน่นอน เท่านั้นยังไม่พอฟังชั่นที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเคส iPad2 แล้วนั่นก็คือฟังชั่น “Sleep Mode” หรือก็คือเมื่อปิดฝาเครื่องแล้ว จะเหมือนกับเรากด Lock เครื่องโดยทันที (ช่วยประหยัดแบตฯ) ส่วนถ้าเปิดฝาเครื่องนั้น เครื่องก็จะทำงานทันทีไม่ต้องเสียเวลา Slide to Unlock

สรุปว่าเคสนี้ประกอบด้วย 3 วัสดุคือ ผ้ายีนส์ 10oz, หนังแท้, กำมะหยี่ ทำให้โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต่างจากเคสพลาสติกทั่ว ๆ ไป เนื่องจากทำส่วนต่าง ๆ ล้วนทำขึ้นจากด้วยวัสดุชั้นยอดทั้งนั้น จะจับจะถือก็สะดวก กระชับมือ

ด้านหลังของเคส มีตัวล็อคเพื่อรองรับการปรับมุมมองตามการใช้งาน ซึ่งแน่นอนว่าตรงนี้ก็ทำจากหนังแท้ ๆ เช่นกัน ทำให้ทนต่อการใช้งาน และยังคงความสวยงามอยู่เสมอแม้เวลาจะผ่านไปแรมปี

หลายคนอาจสงสัยว่ามีรอยเปื้อนอะไรอยู่ด้านข้าง จริง ๆ แล้วไม่ใช่ครับ เป็นรอยสกรีนคำว่า “Amekazi” เป็นศัพท์ภาษาญี่ปุ่นอีกทีหนึ่ง แปลว่า “American casual” หรือก็คือ “สบาย ๆ สไตล์อเมรักัน” ตัวอักษรทำมาให้ดูเก่า ๆ เซอร์ ๆ จากโรงงานเลย ถึงแม้จะใช้ไปนาน ๆ แล้วก็ยังดูดีอยู่ ไม่เลอะเทอะหรือสกปรก โดยวัสดุที่สกรีนนั้นเป็นยางแบบเดียวกับที่เขาใช้สกรีนกางเกงยีนส์เลย

เมื่อตั้งเคสแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ โดยโหมดนี้เหมาะสำหรับการรับชม VDO และก่อนดู Youtube ทั่ว ๆ ไป โดยอาจจะทำให้พิมพ์ลำบาก เนื่องจากความชันขององศาการตั้งเคสนั้นเอง วิธีแก้ไขปัญหาไม่ยากครับ เพราะเพียงแค่จับเคสตัวนี้นอนลงอีกด้านก็จะได้องศาที่พอดิบพอดีกับการใช้งานแล้ว

ภาพจากด้านหลังครับ ส่วนแผ่นหนังที่ยื่นออกมานั้นเป็นฝาแม่เหล็กสำหรับล็อคฝาเครื่องครับ แม่เหล็กแรงสูงอยู่เหมือนกันเห็นเล็กพริกขี้หนูแบบนี้อย่าได้ดูถูกเชียว สามารถล็อคฝาเครื่องได้อยู่หมัดเชียวล่ะครับ

มาซูมดูความงามกันใกล้ ๆ เลยครับ บริเวณแผ่นหนังล็อคองศานั้น ก็ยังมีการปั๊มโลโก้ของ Kajsa อีกด้วย (ไม่ใช่เคส Noname นะจะบอกให้)

บริเวณกล้องเจาะตาไก่ได้อย่างพอดิบพอดี ดูดีมีดีไซน์มากว่าการเจาะรูเฉย ๆ มากเลย ซึ่ง Kajsa นั้นสร้างผลงานออกมาได้สมบูรณ์แบบเหลือเกิน เท่านั้นยังไม่พอเห็นรอยเย็บของมันไหมครับ? ดูปราณีตสวยงามมากมายยิ่งนัก

ตรงบริเวณที่เหน็บปากกา Stylus หรือจะเหน็บปากกาธรรมดาก็ได้ แล้วแต่ความชอบเลยครับ จะเห็นได้ว่าตัวเคสนั้นจะมีขนาดใหญ่กว่าตัว iPad2 เล็กน้อย เพื่อการปกป้องที่สมบูรณ์แบบ

แค่คำว่าสวยอย่างเดียวนั้นยังไม่พอ ต้องใช้งานได้จริงด้วย ช่องต่าง ๆ สำหรับการใช้งานทาง Kajsa ก็ได้เก็บรายละเอียดไว้อย่างดี ดังนั้นเรื่องการใช้งานวางใจได้ครับ สวยอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้งานได้จริงด้วยนี่คือสิ่งที่ผมมองเห็นจากเคสของ Kajsa ส่วนเรื่องความหนาที่หลาย ๆ คนกังวล ผมขอบอกว่าเคสตัวนี้ไม่หนามาก แต่ก็ไม่บางครับ ความหนาเมื่อใส่เคสแล้วอยู่ราว ๆ 1.8 เซนติเมตรครับ ขนาดกระชับมือและถือง่ายด้วย

อันนี้ผมลองเปรียบเอาปากกาเขียน CD ธรรมดา ๆ มาใส่ดูครับ ค่อนข้างสวยงามและเข้ากันดีอยู่เหมือกัน ถ้าหากได้ปากกา Stylus แจ่ม ๆ ซักอันนี่โอเคเลย

สรุป : ตัวเคส Kajsa Denim Collection เป็นเคสที่สวยงามเอามาก ๆ ประกอบกับความทนทาน ทำให้เป็นเคสที่ผมเลือกเพื่อจะใช้เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับคนที่ผมรักอย่างแน่นอน ประกอบกับเป็นคนที่ชอบอะไรที่เป็นลายยีนส์อยู่แล้วทำให้การแต่งตัวของผมนั้นเข้ากับเคสนี้เป็นพิเศษ เพราะทุกวันนี้ก็ใส่ Converse ลายยีนส์และก็สะบายกระเป๋ายีนส์อยู่แล้วด้วย สำหรับคนที่กำลังหาเคสที่สวยและทนทานเอามาก ๆ แบบที่ใช้งานได้จริงผมขอแนะนำตัวนี้เลยครับ (เพราะถ้าทำยีนส์ขาดได้นี่ก็ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าอะไรแล้ว)

ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)

• Facebook
• Twitter
• Line