สวัสดีครับ แฟนคลับของ iPM ทุกท่าน หลังจากห่างหายกันไปนาน เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วม ผมเชื่อเสมอว่า “ในทุกปัญหามีทางออก” ขอร่วมแสดงความเสียใจกับผู้ประสบอุกภัยทุกท่านด้วยนะครับ แต่อย่าพึ่งเบื่อ เซ็ง หรือสิ้นหวังกันครับยังไงถ้าใครเบื่อ ๆ ไม่มีที่เที่ยว ที่ซื้อของ ก็ลองท่องเว็บดูครับ สั่งของออนไลน์แสนสะดวก สบาย ไม่ต้องลุยน้ำหรือเปลืองค่ารถออกมาซื้อเองด้วย สำหรับหลาย ๆ คนที่เจอผมในวันนี้คงกำลังอยากจะหาเคสใหม่เปลี่ยนโดยแน่แท้ ซึ่งจะถูกใจท่านหรือปล่าว ผมตอบได้คำเดียวครับว่า “ไม่รู้” – -* แต่สิ่งที่ผมเขียนต่อไปนี้จะว่ากันไปตามจริงครับ ดีก็บอกดี ไม่ดีก็บอกไม่ดี โดยสำหรับวันนี้มีร้านค้าออนไลน์ ใจกล้า ใจดี ^^ ได้ร่วมส่งสินค้ามาให้เราทดสอบกันครับ ส่วนผลจะเป็นไงจะถูกใจหลาย ๆ ท่านหรือไม่ เราลองมาติดตามบทวิจารณ์จากทีมงานกันดูครับ สำหรับเคส iPad 2 “Kajsa Preppie Collection
“Kajsa Preppie Collection” สามารถหาซื้อได้ตามห้างทั่วไป
หรือที่ BBiPhone.com จะอยู่ที่ราคา 1,790 บาท
ด้านหลังแสดงลักษณะการใช้งานต่าง ๆ โดยเท่าที่อ่านคร่าว ๆ คือ มีฟีเจอร์ Build-In Magnets คือมีการฝังแม่เหล็กไว้ภายในอีกทีทำให้สามารถใช้ฟีเจอร์ Smart On-Off โดยไม่ต้องกดปุ่ม Power เพื่อให้ Sleep/UnSleep ได้ เช่นเดียวกับเคส SmartCover ของ Apple เอง และตัวเคสเองยังสามารถพับตั้งได้ถึง 2 ระดับด้วยกัน
เมื่อแกะกล่องออกมาจะเจอเคสเนื้อในมีลักษณะคล้ายซองเอกสารครับ มันทำให้ผมนึกถึงสมัย Steve Job เปิดตัว Macbook Air เลย ที่ใส่ซองเอกสารมาดูธรรมดามาก ๆ แต่ทำผมอึ้งไป 10 วินาที O,o!
(ภาพประกอบตอนเปิดตัว Macbook Air) นี่ล่ะครับซองลักษณะประมาณนี้เลย อาจไม่เหมือนเป๊ะ ๆ แต่อารมณ์ได้อยู่
ใส่ iPad จากด้านในเคสครับ โดยตัวนี้รองรับเฉพาะ iPad 2 เท่านั้น หากใครใช้ iPad 1 อย่าดันทุรังซื้อไปเลยครับ เสียของเปล่า ๆ ;( อ้อ … ตัวเคส Kajsa Preppie Collection สามารถติดตั้งได้ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ยัด iPad ลงไปแล้วเสียบแผ่นลิ้น (ไม่รู้เรียกอะไรดี – -*) ยัดลงไปก็จะแน่นมาก ๆ ครับ ไม่หลุด ไม่ร่วงแน่นอน เพราะลำพังองศาการถือของมันก็แทบไม่เปิดโอกาสให้ร่วงอยู่แล้ว
เมื่อเสียบแผ่นลิ้น (ขออีกรอบ … ไม่รู้เรียกอะไรดี – -*) ก็จะเรียบร้อยแบบนี้ครับ
การพับของเคส Kajsa Preppie Collection นั้นแบ่งออกเป็น 2 Step ครับ ไม่เหมือนเคสทั่วไป คือ ขั้นแรกนำฝาจากด้านซ้ายมาปิดก่อน ซึ่งจะปิดได้ทั้งจอจากนั้นค่อยนำด้านขวามาปิดทับตามแล้วรัดตามครับ
เสร็จแล้วก็รัดยางที่ติดอยู่กับฝาเครื่องเข้าด้วยกันครับ ไม่แน่นเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับหลวมจนหลุด
ด้านหลังเรียบ ๆ ครับ คล้ายซองเอกสาร หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าเป็นหนังแต่ไม่ใช่นะครับ เป็นวัสดุที่ทำจากยูรีเทน งงล่ะสิ … ผมก็งงครับ อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ถ้าใครอยู่ในวงการกระเป๋าน่าจะพอเข้าใจ ข้อดีของยูรีเทนคือทำความสะอาดง่าย น้ำหนักเบา และจับกระชับมือครับ
ด้านหลังมีการเจาะรูลำโพงไว้อย่างสวยงามและเป็นระเบียบ ส่วนรูเสียบสาย Sync สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาใด ๆ ครับ เนื่องจากมีการเก็บงานที่ดี และเว้นที่ว่างไว้มากพอ
ตรงส่วนบริเวณรูกล้องก็เช่นกัน วางศูนย์กลางได้พอดีเป๊ะ ทำให้สามารถถ่ายภาพได้เลย โดยไม่ต้องถอดเคส
ช่องเสียบรูหูฟัง หรือแม้กระทั่งไมโครโฟนในตัวก็ยังเจาะรูให้เสียงสามารถเข้าได้โดยง่าย เป็นเคสที่พิถี พิถันเป็นอย่างมาก
ด้านในบริเวณผิวสัมผัสจอ ไม่ได้เป็นวัสดุแข็ง ๆ แต่เป็นลักษณะคล้ายผ้ากำมะหยี่ละเอียดขนสั้นมาก ซึ่งผมก็ไม่รู้อีกนั่นแหล่ะว่ามันคืออะไร แต่ว่าเท่าที่ได้ลองใช้และสัมผัสดู ขอบอกได้เลยว่าไม่ได้ทำร้ายหน้าจอ iPad ของคุณอย่างแน่นอน ^^
ตั้งเคสสามารถพับเพื่อใช้งานได้ถึง 2 ระดับ และนี่คือระดับแรกที่สามารถใช้งานได้ในแนวราบเอียงนิด ๆ ซึ่งไม่สูงและไม่ต่ำมากจนเกินไป โดยส่วนตัวแล้วผมว่าองศาของเคส SmartCover นั้นค่อนข้างที่จะเตี้ยไปนิด ทำให้ต้องก้มคอออกมามากผิดปกติ ซึ่งเคสตัวนี้นั้นออกแบบมาได้ดีเลยทีเดียว คือไม่เตี้ยและไม่สูงจนเกินไป = =”
มุมจากด้านข้างจะสังเกตุได้ว่าสามารถเหยียดแขนแล้วพิมพ์ได้สบาย ๆ เลยทีเดียว >,<
เมื่อเคสตั้งขึ้นนั้นเจาะเหมาะกับการใช้งานจำพวกดูหนังมากกว่า เนื่องจากจะมีความสูงมากขึ้นอีกนิด ทำให้ไม่ต้องก้มดูให้ปวดคอ แต่หากจะพิมพ์อะไรล่ะก็มุมนี้คงจะไม่สะดวกนัก เพราะต้องงอมือผิดธรรมชาติ ;(
ภาพจากด้านข้างครับ การพับเคสจะไม่เหมือนแบบแรกเลย แต่เรื่องความมั่นคงนี่ขอชมเลย ฐานแข็งแรงมาก ต่อให้พื้นสะเทือนระดับแผ่นดินไหว 5 ริกเตอร์ก็ไม่หล่นง่าย ๆ (เวอร์ไปไหน = =”)
ข้อเสียอีกอย่างหนึ่งที่ผมเจอขอเคสนี้ก็คือ ปุ่มปรับเสียง และปุ่มล็อคเสียงนั้นกดลำบากมาก เนื่องจากอยู่ตรงมุมเคสและทำให้กดยากสำหรับคนที่มีนิ้วมือใหญ่แบบผม แต่ถ้าหากใครนิ้วเล็กหรือมีเล็บอยู่บ้าง ผมว่าคงไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่ครับ ^^
พอเอาไปวางไว้ในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชั้นหนังสือ หรือว่าเฟอร์นิเจอร์สำนักงาน/บ้าน ต่าง ๆ ก็ดูเข้ากันเป็นอย่างดี เนียน ๆ ไปคงไม่มีใครสังเกตุ ซึ่งโอกาสหายก็คงลดลงด้วย (มั้งนะ ;P)
สรุป : ตัวเคส Kajsa Prepie Collection นั้นเป็นเคสที่แปลกแหวกแนว และสวยเอาเสียมาก ๆ (ผมยังชอบเลย) ที่ดูเผิน ๆ อาจจะเหมือนกระเป๋าเอกสาร แล้วพอเปิดมาอาจทำให้คนรอบข้างตะลึง เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยชอบทำอะไรเหมือนคนทั่วไป ต้องการเคสที่สะท้อนบุคคลิกของตัวเอง ส่วนวัสดุนั้นผมให้เต็มครับ ทำความสะอาดง่าย และทนทานดี น้ำหนักเบาอีกทั้งไม่หนาจนเกิดไป ส่วนข้อเสียนั้นอย่างที่บอกเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ถ้าคนนิ้วใหญ่อาจจะกดปุ่มปรับเสียงลำบากหน่อยเท่านั้นเอง นอกนั้นงานดีไม่มีที่ติ
ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)
ตอนปิดฝาจอดับได้แบบ สมาร์ทโคปเวอร์ไหมอ่า
ดับครับ
อยากได้อันนี้ สั่งเลยๆ อิอิ
ผมสั่งได้มางไหนอะคับ เอาเลยคับ รบกวนติดต่อกลับทางเมลด้วยนะคับ ขอบคุณคับ
BBiPhone.com หรือตามเว็บไซต์ด้านบนได้เลยครับ
วางแนวตั้งได้ไหมคะ