in ,

iPhone 6, 6 Plus และ iTunes Error 53 ฝันร้ายของผู้ใช้งาน

SEM-Tempered-Glass-iPhone6-16

อัปเดต 1 (20/2/59) 

“หาก Touch ID  ของ iPhone 6 และใหม่กว่าเสีย สามารถ restore iOS ได้แล้ว(ตั้งแต่ 9.2.1 ขึ้นไป) โดยไม่ติด Error 53 เนื่องจาก Apple ปล่อย iOS 9.2.1 ตัวพิเศษแก้ปัญหา Error 53 สำหรับ iPhone 6, 6s (Plus) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว “

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus สมาร์ทโฟนเรือธงของ Apple ที่จำหน่ายเป็นหลัก ณ ตอนนี้ ภายใต้ความสวยงามและประสิทธิภาพการทำงานที่น่าประทับใจที่มีมาให้นั้น มันกลับซ่อนสิ่งหนึ่งที่อาจจะสร้างฝันร้ายให้กับผู้ใช้งานซึ่งรอโอกาสฟื้นขึ้นมาทำร้ายตัวคุณสักวัน

 

นับวัน Apple ยิ่งออกแบบอุปกรณ์ให้มีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นผลที่ตามมาคือ ระบบการทำงานที่ซับซ้อนที่ยากต่อการแฮ็คและอีกจุดหนึ่งคือความสามารถที่จะซ่อมนั้นลดลงและแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เรียกได้ว่าถ้าเจออาการนี้ ณ ปัจจุบันไม่มีทางแก้ไขแบบทั่วไป แต่มีเพียงทางเดียวนั่นคือ ส่งเคลมกับทาง Apple เท่านั้น

ความน่ากลัวที่ผมหมายถึงก็คือ Touch ID ของ iPhone 6, 6 Plus มันน่ากลัวยังไงหนะเหรอ อยากรู้ไปดูกัน

Touch ID หรือตัวสแกนนิ้วมือนั้นมีตั้งแต่สมัย iPhone 5s แล้ว แต่มาในรุ่นของ iPhone 6, 6 Plus นั้นสิ่งที่น่ากลัวก็คือ ถ้า Touch ID เสียไม่ว่าจะกรณีใดๆ เครื่องนั้นจะไม่สามารถอัปเดต, รีสโต ซอฟต์เวอร์ชันใหม่ได้ 

สาเหตุ คือ ระหว่างขั้นตอนการรีสโตรนั้นระบบจะตรวจสอบว่า Serial ของ Mainboard กับ Touch ID ว่าตรงกันไหม ถ้าไม่ตรงก็หรือว่าเช็คไม่ได้ก็จบ ผลคือ รีสโตไม่เสร็จครบ 100% พร้อมแสดง Error 53 และที่จะเครื่องติดค้างที่หน้า recovery mode โดยไม่สามารถทำอะไรต่อได้เลย

สาเหตุที่ Touch ID เสียที่พบบ่อย

อาการของ Touch ID เสียนั้นสังเกตง่ายๆ คือจะไม่สามารถเพิ่มลายนิ้วมือได้ซึ่งผมได้เขียนบทความเรื่องนี้เอาไว้แล้วให้ลองศึกษาเพิ่มดูนะครับ ทั้งนี้สาเหตุที่พบบ่อยๆ เลยคือ

  • เครื่องตกน้ำแล้วนำไปซ่อมพบว่าโอกาสสูงมากๆ ที่ Touch ID จะใช้การไม่ได้ หลังจากนั้นผู้ใช้รู้เท่าไม่ถึงการณ์นำเครื่องไปอัปเดต iOS เวอร์ชันใหม่ ผลที่ได้คือ Error 53 ค้างและไม่มีทางแก้
  • หน้าจอแตก โดยให้ทางร้านบางร้าน(ย้ำครับบางร้าน) เปลี่ยน ซึ่งหากช่างคนไหนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไปทำการเปลี่ยนปุ่ม Touch ID ใหม่(ซึ่งบางครั้งมาพร้อมชุดจอ) ส่งผลให้ Touch ID ที่มาพร้อมกับตัวเครื่องนั้นไม่อยู่แล้ว ก็จะวนเข้าสู่ปัญหาเดียวกัน ทางแก้คือ หาปุ่ม Touch ID เก่ามาใหม่
  • กรณีที่ปุ่ม Touch ID เสียเอง(อันนี้คิดล่วงหน้าหากหมดประกัน 1 ปีแล้ว) ซึ่งส่งผลให้อัปเดต รีเซต รีสโตรเครื่องไม่ได้อย่างแน่นอน ทางเดียวหากอยากใช้งาน iPhone เครื่องนี้ให้สมบูรณ์คือเคลมเครื่องใหม่นั่นเอง
  • สาย Touch ID ขาด จากกรณีเครื่องตก แตก รถเหยียบ  ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน

apple-genius-bar

ทางป้องกันและแก้ไข

ณ ปัจจุบันผมได้สอบถามไปยังทีมช่างที่ชำนาญการซ่อม iPhone ของไทยหลายๆ คนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ยังไม่มีทางซ่อมได้ในทางปฏิบัติ” นั่นหมายความว่า เกิดอาการนี้มาก็ขอบายก่อนช่วงนี้ อัปเดตใหม่พบกว่าแก้ Error 53 นั้นทำได้แล้วแต่น้อยคนนักที่จะทำได้เพราะต้องแก้ไขหลายจุด ไม่ว่าจะเปิดที่ตัว Touch ID เองหรือว่าที่สายแพรหลังจอที่เชื่อมไปยังบอร์ด ฯลฯ ดังนั้นค่าซ่อม Error 53 นั้นจึงค่อนข้างสูงระดับ 4-5000 บาทขึ้นไป

แล้วจะป้องกันแก้ไขอย่างไรดีหละ?

  • หากเครื่องตกน้ำมาแต่ยังไม่เคยซ่อมร้านนอก แนะนำว่าให้เคลมกับศูนย์ที่ซื้อมา จะเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนเครื่องประมาณ 13,000+ บาทขึ้นไป จะได้เครื่อง Refurbished มาใช้งาน อย่างน้อยก็สบายใจได้ว่าอุปกรณ์ทุกอย่างทำงานได้ดีโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีอาการอื่นแทรกซ้อนมาอีก หรือถ้าเครื่องใหม่มีปัญหาจริงก็ยังมีโอกาสเปลี่ยนกับทาง Apple ได้
  • หากเครื่องเคยซ่อมมาแล้วและเจออาการ Error 53 แล้ว ทางออกคือ “ขายทำอะไหล่” หรือหาร้านนอกเก่งแก้ไขให้เท่านั้นจริงๆ ที่ทำได้ เพราะว่าทาง Apple จะไม่รับเคลมกรณีที่เครื่องผ่านการแกะซ่อมจากที่อื่นแล้ว
  • หากพบว่า Touch ID ใช้การไม่ได้ เพิ่มลายนิ้วมือไม่ก็แต่เครื่องยังใช้งานได้อยู่ แนะนำว่า ห้ามอัปเดต รีสโตร์ หรือว่า รีเซต iPhone เด็ดขาด ถ้าเครื่องอยู่ในประกันก็ให้เคลม ถ้าไม่อยู่ในประกันก็ห้ามทำอย่างที่บอกนะครับ เพื่อจะได้ใช้เครื่องต่อไป

นี่แหละความน่ากลัวของ iPhone 6, 6 Plus และรุ่นที่ใหม่กว่าที่ผมกังวลและเป็นห่วงผู้ใช้หลายคนที่เจอปัญหาและอาจจะเจอปัญหาในอนาคตที่อยากจะเตือนพร้อมทั้งแนะนำว่าควรจะแก้อย่างไรให้ถูกทางเพื่อจะได้เสียหายน้อยที่สุด

กล้องไม่โฟกัส

นอกจากปัญหาเรื่อง Touch ID แล้วก็น่าจะเป็นห่วงรองลงมาอีกปัญหาคือ อาการกล้องไม่โฟกัสแม้ว่าจะพยายามแตะที่หน้าจอเพื่อปรับโฟกัสแล้วก็ตาม อาการนี้ถือว่าไม่น่าห่วงมากเท่าอันแรก ทางแก้ไขนั้นหากอยู่ในประกันก็เคลมกับศูนย์หรือถ้าหมดประกันก็สามารถซ่อมกับทางร้านข้างนอก

Apple Care+ สำหรับ iPhone ในประเทศไทย?

applecare-iphone

อีกใจหนึ่งก็อยากฝากไปถึง Apple เหมือนกันว่า จะเป็นไปได้ไหมที่ iPhone จะสามารถซื้อประกันเพิ่มได้เป็น 2 ปี เหมือนกับที่ Apple ได้ทำในกับประเทศอื่นๆ

คิดแบบนี้คือถ้าเกิดว่า iPhone 6, 6 Plus ผมใช้งานไปปีเศษๆ แล้วเกิดอยู่ดีๆ Touch ID เจ๊งเอาดื้อๆ  แบบนี้ก็ไม่ไหว เคลมก็หมื่นกว่าแล้วเครื่องที่เคลมมาก็ประกันอีก 90 วัน แล้วถ้าโชคร้ายอีกวันที่ 91 เกิด Touch ID เสียอีก แบบนี้ก็ต้องเคลมใหม่ ซึ่งไม่ต่างอะไรเลยกับซื้อเครื่องใหม่อีกเครื่องเลยนะภาระก็จะมาตกกับผู้บริโภคโดยตรงถึงเวลานั้นคงจะมีเสียงบ่นพรำตามกันมาแน่ๆ

ผมไม่ทราบว่าทำไมถึงไม่มี Apple Care+ สำหรับ iPhone บ้างในไทย หากมองว่าเพราะจำหน่ายผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายมันก็ไม่ใช่เพราะที่ US ก็ยังทำได้เลย ถ้าหาก Apple จะทำจริงๆ เหมือนกันที่มีให้ Mac ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดีนะครับ หากผู้ใหญ่ทาง Apple ได้อ่านก็ขอเถอะครับลองผลักดันให้มีโปรแกรมนี้หน่อยครับ หรือถ้ามันทำไม่ได้จริงๆ ก็อย่างจะทราบเหตุผลว่าเพราะอะไร เพราะจุดนี้ผมเองไม่ทราบจริงๆ

บทความที่เขียนถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ ผมไม่ได้พยายามที่จะพาดพิงถึงใครหรือกลุ่มใดเป็นหลัก ทั้งนี้ความเห็นที่เขียนลงไปเกิดจากประสบการณ์ที่ได้เจอและทราบมาและอยากจะบอกเล่าให้ผู้อ่านได้ฟัง

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Attapon Thaphaengphan

ศิษย์เก่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม. ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง iPhoneMod.net ตั้งแต่ปี 2009
อดีต Dell Technical Support รู้จัก ​Apple เพราะ Macbook Pro และใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่น 3G จนถึงปัจจุบัน

6 Comments

  1. ผมเจอมาแล้วครับ ซื้อมาหนึ่งวันครับที่ศูนย์ TRUE ต้องส่งเคลมหนึ่งอาทิตย์ครับ
    IPHONE 6 PLUS 64GB ศูนย์เปลี่ยนเครื่องใหม่ครับ

  2. ผมเห็นด้วยกับบทความ เคยลองถามตามร้านที่ได้รับสิทธิ์ของ Apple เขาก็แจ้งว่ายังไม่มีโปรแกรมนี้เข้ามา

    • เราต้องร่วมกันส่ง feedback ไปหา apple ขอให้พิจารณาให้มี apple care+ สำหรับ iphone

  3. เกดในฐานะสาวกแอปเปิ้ล ยืนยันว่ายังชอบค่ะ ถ้ามีปัญหาในระยะประกัน เปลี่ยนเครื่องใหม่ทันที กรณีตกน้ำหล่น ถ้าในระยะประกันซื้อเครื่องใหม่ในราคา50% และถ้าเลยประกันสามารถซื้อประกันต่อได้ปีล่ะ 999 บาทเพื่อรักษาสิทธิ์ กระณีพังแล้วเราจะเอาเครื่องใหม่ต่อในราคา50% เครื่องเก่าเราจะไม่มีคำว่าขายทิ้งเคลมอย่างเดียว ข้อดีของเค้าส่วนเรื่องไอดี ถ้าเครื่องหายเราสั่งปิดเครื่องจากไอดีได้ทันทีหากมีความลับใดๆ ไม่รั่วแน่นอน และสามารถสั่งเปิดเครื่องเมื่อได้เมื่อเจอเครื่องจากไอดีเดิม อ้อส่วนใหญ่เรื่องต่อประกันคนจะไม่ทราบ

  4. ผมเจอสดๆร้อนๆ ก่อนบทความนี้จะขึ้นครับ เมื่อวันที่ 04/06/2015
    อาการคือ touch id เสีย แต่เป็นกรณีที่อยู่ดีๆก็เสียครับ
    ตอนเช้าใช้งาน touch id ปกติทุกอย่าง พอวางโทรศัพย์แล้วหยิบขึ้นมา touch id ไม่ทำงาน เข้าไปตรวจสอบที่ setting > general > touch id พบว่า disable อยู่ พอกด enable จะขึ้น error message “ailed – Unable to complete Touch ID setup. Please go back and try again” (หากใครเจอแบบนี้ ให้เตรียมส่งเครมได้เลยครับมันเจ๊งแล้ว)

    ผมก็ลองเข้าเว็บบอร์ดของ apple เอง ทาง suuport เค้าแจ้งว่าถ้าขึ้น error แบบนี้ให้ลอง reset เครื่องถ้ายังไม่ได้ให้ทำการ restore ผมก็เลยลอง restore เท่านั้นแหละครับจบกันเลย restore ไปได้ครึ่งนึง error 53 หมดทางแก้ เข้าศูนย์ apple ที่ digital gateway สยามทันที
    เพิ่งได้รับเครื่องใหม่มาแต่เป็นเครื่อง model สำหรับซ่อมกล้ับมาเรียบร้อย ใช้เวลา 7 วันทำการครับ