เปรียบเทียบระหว่าง AirPods 4 กับ AirPods Pro 3 ตัวธรรมดากับตัวโปรรุ่นล่าสุดจาก Apple นอกจากดีไซน์ และราคาที่ต่างกันแล้วยังมีอะไรอีกบ้าง
เทียบกันชัด ๆ ซื้อรุ่นไหนดีระหว่าง AirPods 4 กับ AirPods Pro 3
AirPods 4, Apple มีการเพิ่มฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม $50 (ประมาณ 1,750 บาท) ซึ่งทำให้ AirPods รุ่นนี้ใกล้เคียงกับ AirPods Pro มากกว่าที่เคยเป็นมา อย่างไรก็ตาม หลังจากการอัปเดตครั้งใหญ่ของ AirPods Pro 3 ที่เพิ่งเปิดตัวล่าสุด
AirPods Pro 3 มีการปรับปรุงเล็กน้อยให้ใกล้เคียงกับ AirPods 4 มากขึ้น เช่น การใช้ไฟ LED แสดงสถานะแบบซ่อน และปุ่มจับคู่แบบสัมผัส (Capacitive) แต่รุ่นนี้ยังเพิ่มฟีเจอร์ระดับสูงใหม่ ๆ เข้ามา เช่น การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกาย พร้อมด้วยระบบ ANC ที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างมาก และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของหูฟังที่ยาวนานขึ้นด้วย

Apple ได้เปิดตัวการอัปเดตครั้งใหญ่สำหรับ AirPods 4 ในปีที่แล้ว ได้รับดีไซน์ที่ประณีตขึ้น เพื่อความสบายในการสวมใส่, ชิป H2, ความทนทานต่อฝุ่น เหงื่อ และน้ำ, การเชื่อมต่อ 5GHz, ระบบช่องระบายอากาศเพื่อปรับความดัน, ระบบปรับระดับเสียงตามบุคคล (Personalized Volume), ระบบแยกเสียงพูด (Voice Isolation), พอร์ต USB-C และรองรับคำสั่ง “Siri” ซึ่งคล้ายกับ AirPods Pro 2 และ AirPods Pro 3
การเพิ่มเงิน $50 (ประมาณ 1,750 บาท) ฟีเจอร์ที่คล้ายกับ AirPods Pro ก็ยิ่งมากขึ้นไปอีก ด้วยฟีเจอร์ ANC, โหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency mode), Adaptive Audio, Conversation Awareness, รองรับการชาร์จด้วยที่ชาร์จ Apple Watch และลำโพงในเคสสำหรับ Find My
คุณควรเลือกรุ่นไหน?
AirPods 4 ปัจจุบันมีความคล้ายคลึงกับ AirPods Pro มาก โดยฟีเจอร์หลักเกือบทั้งหมดในราคาที่ต่ำกว่า ด้วยเหตุนี้ AirPods 4 จึงควรเป็นตัวเลือกเริ่มต้นสำหรับผู้ซื้อส่วนใหญ่ หากคุณมี AirPods Max อยู่แล้ว และกำลังมองหาหูฟังเสริมสำหรับใช้ขณะออกกำลังกายหรือเดินทาง AirPods 4 ก็เป็นตัวเลือกที่เสริมกันได้อย่างดีเยี่ยม
ควรซื้อ AirPods Pro 3 ก็ต่อเมื่อ…
คุณพอใจกับการสวมใส่แบบ In-ear Fit: การสวมใส่แบบใส่ในหู (In-ear fit) ของ AirPods Pro ให้คุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวนที่ดีกว่า แต่ก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบายหูเล็กน้อยเมื่อใช้งานต่อเนื่องเป็นเวลานาน แม้ว่า AirPods 4 จะมี ANC แต่ก็ไม่ได้มีประสิทธิภาพเท่ากับ AirPods Pro 3 เนื่องจากขาดดีไซน์แบบ In-ear ดังนั้น หากการตัดเสียงรบกวน คือสิ่งที่คุณให้ความสำคัญที่สุด AirPods Pro 3 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยสามารถตัดเสียงรบกวนได้ดีกว่า AirPods 4 มากถึง 4 เท่า
สิ่งที่ดีขึ้นใน AirPods Pro 3
นอกเหนือจากคุณภาพเสียง และ ANC ที่ดีกว่าแล้ว ตัว AirPods Pro 3 ยังมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของหูฟังที่ยาวนานขึ้นเล็กน้อย, Conversation Boost, การควบคุมระดับเสียงด้วยการสัมผัส (Touch Controls), รองรับที่ชาร์จ MagSafe, ฟีเจอร์ Precision Finding ด้วยชิป U2 และห่วงคล้องสาย (Lanyard loop) รวมถึงฟีเจอร์ช่วยป้องกัน ทดสอบ และช่วยเหลือด้านการได้ยิน
ฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญที่สุดในรุ่นล่าสุดคือ การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกาย ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณไม่ได้สวมใส่ Apple Watch ผู้ใช้หลายคนสามารถยอมจ่ายเงินเพิ่ม $70 (ประมาณ 2,450 บาท) เพื่อใช้ AirPods Pro 3
ส่วน AirPods 4 ยังคงเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปส่วนใหญ่ และจะดีกว่าสำหรับผู้ที่ไม่ชอบจุกซิลิโคนแบบใส่ในหูของ AirPods Pro 3