in , ,

Apple เปิดตัว AirPods Pro 3 มาพร้อมฟีเจอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ และการเผาผลาญแคลอรี่

9 กันยายน 2025 นอกจาก Apple จะเปิดตัว iPhone 17 แล้ว ยังได้เปิดตัวหูฟังรุ่นใหม่ AirPods Pro (รุ่นที่ 3) ด้วยในงาน Awe Dropping (ตื่นตาเต็ม ๆ) มาชมกันว่ามีสิ่งใหม่อะไรบ้าง

Apple เปิดตัว AirPods Pro 3 มาพร้อมฟีเจอร์ตรวจจับการเต้นของหัวใจ และการเผาผลาญแคลอรี่

ไฮไลท์เด่นของ AirPods Pro 3

  • บางเบา หูฟังน้ำหนัก 5.55 กรัม และรวมเคสชาร์จ 43.99 กรัม
  • ฟีเจอร์การตรวจจับ ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ และแคลอรีที่เผาผลาญระหว่างออกกำลังกาย
  • Chips set: ชิปหูฟัง Apple H2, ชิป Apple U2 ในเคสชาร์จ MagSafe (USB‑C)
  • Intelligent noise control: ควบคุมเสียงรบกวนอัจฉริยะได้ดียิ่งขึ้นจากรุ่นก่อน
  • ฟีเจอร์แปลภาษาสด Live Translate
  • iOS 26 ที่รองรับกิจกรรมการออกกำลังกาย มากถึง 50 ประเภท
  • รองรับการบีบก้าน เพื่อเล่น หยุดเลื่อนเพลง รับสาย วางสาย เปิดกล้อง iPhone และสลับโหมดการฟัง
  • ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งเมื่อเปิดโหมดตัดเสียงรบกวน (ANC) และ 10 ชั่วโมง ในโหมดช่วยฟัง (Transparency Hearing Aid)
  • เชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.3
  • รองรับการตัดเสียงรบกวน ANC
  • รองรับ Adaptive Audio
  • รองรับ Conversation Awareness
  • รองรับ Transparency Mode
  • ทนฝุ่น เหงื่อ และน้ำ IP57
  • เคสชาร์จ MagSafe (USB-C) พร้อมลำโพงและช่องคล้องสาย
  • แถมจุกหูฟังซิลิโคน (5 ขนาด: XXS, XS, S, M, L)
  • เคสชาร์จและหูงฟัง มีส่วนผสมจากวัสดุพลาสติกรีไซเคิล

ดีไซน์แบบอินเอียร์ใหม่ที่กระชับพอดีกับผู้คนมากขึ้น

Apple ได้ศึกษาสแกนรูปแบบหูของผู้คนกว่า 10,000 ครั้ง ศึกษาผู้ใช้กว่า 100,000 AirPods Pro 3 จึงเป็นรุ่นที่ใส่ได้กระชับที่สุดที่เคยมีมา ขนาดหูฟังจะเล็กลง แต่เพิ่มจุกหูฟังพร้อมชั้นโฟมถึง 5 ขนาด XXS, XS, S, M, L แถมมาพร้อมภายในกล้อง เพื่อให้ได้เลือกสวมให้เหมาะกับผู้ใช้มากขึ้น ออกแบบมาให้สามารถทนฝุ่น เหงื่อ และน้ำที่ระดับ IP57 เหมาะสำหรับการออกกำลังกายที่หนักหน่วงกับสภาพอากาศต่าง ๆ

การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ

AirPods Pro 3 มีการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟที่เหนือกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยใช้สถาปัตยกรรมเสียงอะคูสติกแบบมัลติพอร์ตที่ควบคุมการไหลของอากาศได้อย่างแม่นยำ รวมถึงไมโครโฟนที่สามารถตรวจจับเสียงรบกวนต่ำพิเศษและระบบเสียงเชิงคำนวณขั้นสูง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมจุกหูฟังแบบใหม่ที่มีชั้นโฟมช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการแยกเสียงรบกวนแบบพาสซีฟ

AirPods Pro 3 สามารถตัดเสียงรบกวนได้มากกว่า AirPods Pro 2 ถึง 2 เท่า และมากกว่า AirPods Pro รุ่นเดิมถึง 4 เท่า ทำให้มอบประสบการณ์การฟังที่ดื่มด่ำยิ่งขึ้นทั้งในการเดินทาง, ที่ทำงาน หรือที่บ้าน พร้อมทั้งเพิ่มระยะเวลาการฟังเพลงขณะเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนได้นานสูงสุดถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งนานขึ้นจากรุ่นก่อนหน้าถึง 33%

AirPods Pro 3 รองรับ Active Noise Cancellation (การตัดเสียงรบกวน), Adaptive Audio (ปรับเสียงตามสภาพแวดล้อม),  Conversation Awareness (จับการสนทนา) และ Transparency Mode (การช่วยฟัง)

ใช้ชิป Apple H2 และ Apple U2

ตัวผู้ฟังทั้งสองใช้ชิป Apple H2 ช่วยสร้างคุณภาพเสียงรอบข้างสมจริงแบบ 3D ลดความผิดเพี้ยนในขณะการใช้งาน และตัวเคสชาร์จใช้ชิป Apple U2 เป็นชิปเทคโนโลยีให้ความสามารถในการหาตำแหน่ง ระบุตำแหน่งของอุปกรณ์

การใช้งาน และการชาร์จ

  • ฟังได้นานสุด 24 ชั่วโมงร่วมกับเคสชาร์จ
  • ฟังได้นานสูงสุด 10 ชั่งโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแบบช่วยฟัง (Transparency Hearing Aid)
  • ฟังได้นานสูงสุด 8 ชั่งโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้งแบบตัดเสียงรบกวน (ANS)
  • รุ่น AirPods Pro 3 สามารถชาร์จด้วยที่ชาร์จ MagSafe ของ Apple Watch ได้

ฟีเจอร์ด้านการออกกำลังกาย

AirPods Pro 3 เพิ่มเซ็นเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหว วัดระดับอัตราการเต้นของหัวใจ และการเผาผลาญแคลอรี่ ในขณะสวมใส่ และออกกำลังกาย โดยหูฟังจะเชื่อมต่อกับแอปออกกำลังกายบน iPhone เพื่อเก็บข้อมูล รายงานผลค่าระดับต่าง ๆ สามารถติดตามการออกกำลังกายได้มากกว่า 50 ประเภท และใช้งานฟีเจอร์ใหม่ Workout Buddy ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเฉพาะบุคคลระหว่างออกกำลังกาย

การควบคุมการใช้งาน

ตัวก้านหูฟังสมารถใช้งานเพื่อควบคุมเพลง, การโทร, การใช้งานกล้อง และการใช้งานของ Siri ได้ โดยรายละเอียดมีดังนี้:

  • บีบหนึ่งครั้ง เพื่อเล่นหรือหยุดพักสื่อ
  • บีบหนึ่งครั้ง เพื่อรับสาย ปิดเสียงหรือเปิดเสียง
  • บีบหนึ่งครั้ง เพื่อใช้รีโมทกล้อง
  • บีบสองครั้ง เพื่อวางสาย
  • บีบสองครั้ง เพื่อข้ามไปข้างหน้า
  • บีบสามครั้ง เพื่อข้ามไปข้างหลัง
  • บีบค้างไว้ เพื่อสลับระหว่างโหมดการฟัง
  • เลื่อนขึ้นหรือลงเพื่อปรับระดับเสียง
  • การตอบโตกับ Siri โดยพูดว่า “หวัดดี Siri“ เพื่อทำสิ่งต่างๆ อย่างเล่นเพลง โทรออก หรือเรียกดูเส้นทาง

ฟีเจอร์ Live Translate

ฟีเจอร์ การแปลภาษาสด (Live Translation) ใน AirPods Pro 3 ช่วยให้การสนทนาระหว่างบุคคลที่พูดคนละภาษาเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ โดยอาศัยพลังจากระบบเสียงเชิงคำนวณและ Apple Intelligence ผู้ใช้สามารถสื่อสารแบบแฮนด์ฟรีผ่าน AirPods ได้เลยทันที

หากคู่สนทนาไม่ได้ใช้ AirPods ผู้ใช้สามารถใช้ iPhone เป็นหน้าจอแนวนอนเพื่อแสดงคำแปลแบบเรียลไทม์ได้ นอกจากนี้ เมื่อผู้ใช้ทั้งสองฝ่ายใส่ AirPods และเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ ระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟจะช่วยลดเสียงรบกวนของอีกฝ่าย ทำให้ผู้ใช้มีสมาธิกับคำแปลได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจุบัน ฟีเจอร์นี้รองรับภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, โปรตุเกส และสเปน และจะเพิ่มอีก 4 ภาษาภายในสิ้นปีนี้ ได้แก่ อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี และจีน (ตัวย่อ)

AirPods Pro 3 กับสิ่งแวดล้อม

Apple 2030 คือแผนการอันมุ่งมั่นของบริษัทที่จะทำให้ฟุตพริ้นต์ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ด้วยการลดการปล่อยก๊าซจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากแหล่งใหญ่ที่สุดทั้ง 3 แหล่งอย่างวัสดุ ไฟฟ้า และการขนส่ง AirPods Pro 3 ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล 40% ซึ่งประกอบด้วยโคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่ และพลาสติกรีไซเคิล 65% ในเคส โดยการผลิตทั่วทั้งซัพพลายเชนนั้นใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 40% เช่น ลมและแสงอาทิตย์ AirPods Pro 3 ได้รับการออกแบบมาให้ใช้งานได้ยาวนาน พร้อมทั้งตรงตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในเรื่องประสิทธิภาพการใช้พลังงานและเคมีที่ปลอดภัย ส่วนบรรจุภัณฑ์กระดาษก็ทำจากเยื่อไม้ 100% และนำไปรีไซเคิลได้ง่ายอีกด้วย

ราคาและการวางจำหน่าย

  • AirPods Pro 3 จะวางจำหน่ายในราคา 8,490 บาท โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 19 กันยายน 2025

ที่มา: Apple

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Sasithakan Sritonthip

Modern Management, College of Art Media and Technology , Chiangmai University