รีวิว – Rearth Ringke Fusion "เคสใสที่สมบูรณ์แบบ"

สำหรับการประเดิมเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus หลายคนคงกำลังมองหาเคสดี ๆ อยู่เป็นแน่แท้ และเพื่อไม่ให้ผิดหวังผมจึงได้คัดสรรเคสสุดเทพอีกหนึ่งตัวมารีวิวกัน (ไม่เจ๋งจริงไม่รีวิวอยู่แล้ว) สำหรับตัวนี้เป็นเคสที่ผมใช้อยู่ในตอนนี้ด้วย … อยากรู้ว่ามันเจ๋งยังไงมาดูกัน

Rearth Ringke Fusion สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ BBiPhone มีทั้งหมด 4 สี (Cystal View, Smoke Black, Black, Mint)

• สำหรับ iPhone 6 ราคา 990 บาท
• สำหรับ iPhone 6 Plus ราคา 1,090 บาท

พิเศษ !!! สำหรับ Deal รอบนี้จัดให้ชาว iMod เท่านั้น เมื่อซื้อเคส Rearth Ringke Fusion สำหรับ iPhone 6 / iPhone 6 Plus / Galaxy Note 4 เท่านั้น

• ลด 5% สำหรับสั่งซื้อเคสนี้จำนวน 1 ชิ้น >> รหัสคูปอง คือ BBIPHONE5%
• ลด 10% สำหรับสั่งซื้อเคสนี้จำนวน 2 ชิ้นขึ้นไป >> รหัสคูปอง คือ BBIPHONE10%
• รหัสคูปองไม่สามารถใช่เป็นส่วนลดกับสินค้ายี่ห้อ/รุ่นอื่นได้
• พิเศษ! สำหรับยอดสั่งครบ 1,500 บาท แถมที่วางโทรศัพท์ Line Collection จำนวน 1 ชิ้น
• ระยะเวลาโปรโมชั่น 20 – 30 พ.ย. 57

โปรโมชั่นจัดหนักจัดเต็มกันขนาดนี้อย่าลืมนะครับว่ามีเวลาจำกัดถึง 30 พ.ย. 57 นี้เท่านั้นเอง และเป็นโปรโมชั่นพิเศษที่จัดขึ้นมาเพื่อชาว iMod โดยเฉพาะ (อย่าลืมไปอุดหนุนกัน)

สำหรับตัวที่ผมใช้รีวิวนี้จะเป็นสี Cystal View ครับ (ซ้ายสุด) เหมาะทั้งกับไอโฟนสีขาว, ดำ หรือแม้กระทั่งทอง ส่วนสีอื่น ๆ ก็อาจแตกต่างกันเล็กน้อยเฉพาะที่ขอบเท่านั้น

Rearth ยี่ห้ออะไรน่ะไม่เห็นรู้จัก?

ทุกคนทราบดีว่าผมรีวิวแต่เคสแบรนด์เท่านั้น พวกเคสละเมิดลิขสิทธิ์จะไม่แนะนำเลย เพราะถูกก็จริงแต่มาตรฐานไม่มี (แต่ประเด็นคือไม่อยากสนับสนุนด้วย) สำหรับแบรนด์ “Rearth” นี้คนไทยอาจไม่ค่อยคุ้นหูเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้วมันติด Top Selling ของ Amazon เลยนะ

สรุปแล้วคือ “Rearth” เป็นแบรนด์สัญชาติเกาหลีครับ เรื่องคุณภาพการออกแบบรวมถึงวัสดุก็ไว้วางใจได้แน่นอน

สำหรับกล่องจะเป็นในรูปแบบ Eco ซึ่งลดวัสดุที่ไม่จำเป็นออกไปให้น้อยที่สุด อาจดูไม่หรูหราสมราคานักแต่ยังไงเสียเราก็ไม่เก็บกล่องกันอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?

สองวัสดุในหนึ่งเดียว

เคสตัวนี้มาพร้อมกับ Shock Absorption Technology Corner ซึ่งจะช่วยปกป้องในการกระแทกได้เป็นอย่างดี วัสดุขอบข้างเป็น TRU Bumper อย่างดี (กึ่งแข็งกึ่งนิ่ม) ส่วนตัวฝาหลังเป็น TPU ชนิดพิเศษที่เคลือบสารกันรอยขีดข่วนอีกด้วย สรุปก็คือเป็นเคส Hybrid ที่รวบรวม 2 วัสดุหลอมรวมเป็นชิ้นเดียว (งานขั้นสูงแบบนี้เราไม่มีทางเจอได้ในเคสจีนแดงอย่างแน่นอน)

ออกแบบได้ตามใจคุณ

เนื่องจากเป็นเคสใสด้านหลังคุณจึงออกแบบอะไรก็ได้แบบ DIY หลักการก็คือนำแผ่นต้นแบบนี้ไปทาบกับรูปแล้วก็ตัดเลยครับ จะเป็นรูปหมา … รูปแมว … รูปกิ๊ก … ก็แล้วแต่จะจินตนาการเลย เหมาะสำหรับคนขี้เบื่อที่ชอบเปลี่ยนลายบ่อย ๆ ทีนี้เปลี่ยนกันจนขี้เกียจตัดเลยทีเดียว

หลายคนอาจกังวลเรื่องขนแมวหรือรอยขีดข่วน และอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นว่าตัว Case iPhone 6/6 Plus ได้เคลือบสารกันรอยขีดข่วนเอาไว้ด้วย แต่ทั้งสี่มุมของเคสก็ได้ยกระดับอีกเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ตัวเคสสัมผัสกับพื้น และสำหรับตัวเคสนั้นจะมีซีลพลาสติกมาจากโรงงานนะครับ ก่อนใช้อย่าลืมแกะออกเดี๋ยวจะไม่ใสกิ๊กกัน (มันเนียนมากจนผมเองก็แทบแยกไม่ออก)

เท่านั้นยังไม่พอด้านหน้าก็ได้นูนขึ้นมาอีกเล็กน้อย เพื่อที่ว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุหน้าจอจะได้ไม่สัมผัสพื้น (แต่ถ้าพื้นไม่เรียบอันนี้ก็ซวยไปนะ)

พอกันทีกับปัญหากล้องนูน !!!

สำหรับดีไซน์ของไอโฟนหกหรือหกพลัส ที่ผมไม่ชอบอย่างคือ “กล้องนูน” มันเป็นรุ่นแรกที่ให้ความรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย แต่พอใส่ Case ตัวนี้แล้วปัญหาจบเลยทีเดียว

ระดับความหนาของเคสตัวนี้อยู่ที่ 1.2 มม. เรียกได้ว่าไม่หนาเกินจำเป็นและไม่บางเกินกว่าจะปกป้อง

พร้อมจุกกันฝุ่นกันความชื้นในตัว

อย่างทีทราบกันดีว่า Apple ได้ใส่แผ่นวัดความชื้นไว้ที่พอร์ตหูฟังและพอร์ตสายชาร์จ บางครั้งด้วยอุบัติเหตุหรือความซวยอะไรก็แล้ว แต่ดันไปทำให้แผ่นวัดความชื้นเจ้ากรรมเป็นสีแดง เป็นอันว่าหมดประกันไปโดยไม่มีข้อโต้แย้ง

แต่สำหรับ Rearth Ringke Fusion นั้นได้ฝังตัวนี้มาให้ในตัวเลย แถมที่สำคัญปิดและเปิดได้ง่ายมาก (มีช่องไว้สำหรับให้ใช้เล็บงัด)

ตรงนี้สามารถแกะได้ง่ายมากด้วยมือเดียวก็สามารถใช้ได้ ซึ่งบอกตามตรงว่าผมค่อนข้างประทับใจมาก ในตอนแรกก็กังวลอยู่มากว่ามันจะขาดมั้ย? ใช้ไปนาน ๆ มันจะย้วยหรือเปล่า? ตัวนี้บอกเลยครับว่าเป็นงานชิ้นเดียวกับเคสที่เหนียวและทนมาก (คาดว่าทนแน่นอน)

พร้อมช่องสำหรับคล้องของฟรุ้งฟริ้ง !!!

ตัวเคสได้ออกแบบมาเผื่อสำหรับคล้องสายคล้องข้อมือ (หรือถ้าไม่หนักจะคล้องคอก็ตามแต่) สำหรับสาว ๆ คงชอบเป็นแน่แท้เพราะเอาไว้ห้อยอะไรฟรุ้งฟริ้งดุ้งดิ้งได้ด้วย

หลังจากอวยมาเยอะทีนี้ลองใช้งานจริงเป็นเวลา 2-3 วันพบว่า ขนาดของมันอยู่ในเกณฑ์พอดี ๆ แต่บางคนอาจบอกว่าไม่ค่อยถนัดมือเท่าไหร่ (แต่สำหรับผมแล้วชอบแบบนี้แหล่ะไม่หนาเทอะทะ) วัสดุเป็นแบบผิวเรียบมันเงา หากมือคุณเปียกเหงื่อหรือน้ำอาจทำให้ลื่นเล็กน้อยซึ่งก็เป็นเรื่องปกติ (แต่ก็ลื่นน้อยกว่าจับ iPhone เพียว ๆ นะ)

สรุป

ใช้งานจริงแล้วค่อนข้างประทับใจ แต่ส่วนตัวที่ไม่ชอบอาจเป็นจุกกันฝุ่นของมัน ซึ่งวันนึงผมเสียบหูฟังและที่ชาร์จบ่อยมาก เลยทำให้เกิดความรำคาญเล็กน้อย แต่ถึงอย่างไรดีหากเปรียบเทียบข้อดีแล้วถือว่าวัสดุตัวนี้ออกแบบมาได้สมบูรณ์แบบตัวหนึ่งเลยทีเดียว แถมยังได้โชว์ความเป็น iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ออกไปให้โลกเห็นอีกด้วย

ขอขอบคุณ : BBiPhone สำหรับการสนับสนุนสินค้าเพื่อรีวิว

• Facebook
• Twitter
• Line