in ,

9 สิ่งที่ผู้ใช้ iPhone “ไม่ชอบ” เกี่ยวกับ iPhone (อัปเดต 2024)

iPhone เป็นสมาร์ตโฟนที่ขายดีอันดับต้น ๆ ของโลก มีผู้ใช้งานอยู่จำนวนมหาศาล มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่จะมีอะไรบ้างล่ะที่ผู้ใช้ iPhone รู้สึกไม่ชอบและอยากให้มีการปรับปรุง?

9 สิ่งที่ผู้ใช้ iPhone “ไม่ชอบ” เกี่ยวกับ iPhone

ตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมา iPhone ได้กลายเป็นสมาร์ตโฟนที่หลายคนชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์หรือซอฟต์แวร์ที่เรียบง่าย แต่ในทางกลับกันก็มีบางสิ่งที่ผู้ใช้ไม่ค่อยชอบ

iPhone อาจจจะยังไม่ใช่สมาร์ตโฟนที่สมบูรณ์แบบ ผู้ใช้หลายคนเห็นตรงกันว่า Apple ยังมีสิ่งที่ต้องปรับปรุงอีกมาก และบางครั้ง Apple ก็ใช้เวลานานเกินไปในการปรับปรุงสิ่งที่แฟน ๆ เรียกร้องมาหลายปี

ถึงแม้คุณจะรัก iPhone มากแค่ไหน แต่เราทุกคนคงอาจมีความเห็นตรงกันว่า ยังมีบางสิ่งที่เราอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน iPhone และตั้งตารอว่า Apple จะปรับเปลี่ยนให้ในอนาคตหรือไม่

1. รอยบาก หรือ Dynamic Island

ไม่ว่าจะเป็นรอยบากของ iPhone หรือ Dynamic Island ผู้ใช้หลายคนยังคงไม่พอใจกับการที่ Apple ใช้พื้นที่ของหน้าจอไปกับการดีไซน์ลักษณะนี้ แม้ว่า Dynamic Island จะดูดีกว่าและทำงานได้ดีกว่ารอยบาก แต่ก็ยังบังพื้นที่บางส่วนของหน้าจอ และสิ่งที่เราเจอบ่อบคือ Dynamic Island ยังแสดงขึ้นมาในตอนที่เราอัดวิดีโอหน้าจอด้วย

แม้ว่าเราจะต้องใช้รอยบากหรือ Dynamic Island เพื่อใช้ฟีเจอร์ Face ID แต่ก็มีสมาร์ตโฟน Android บางรุ่นที่ไม่ต้องมีรอยบากแต่ยังใช้การจดจำใบหน้าได้

2. การปรับแต่งที่จำกัด

iPhone ยังมีตัวเลือกการปรับแต่งที่จำกัดเมื่อเทียบกับ Android ถึงแม้ว่า iOS 18 จะเพิ่มฟีเจอร์การปรับแต่งใหม่ ๆ เช่น การวางวิดเจ็ตและไอคอนได้ทุกที่บนหน้าจอ การเปลี่ยนสีไอคอน การปรับแต่ง Control Center แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางอย่างที่ iPhone ยังไม่สามารถทำได้

3. Siri ยังไม่ฉลาดเท่าที่ควร (โดยเฉพาะภาษาไทย)

นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ใช้ iPhone บ่นกันอยู่บ่อย ๆ Siri ในภาษาอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากภาษาอังกฤษอาจจะยังไม่ฉลาดพอที่จะทำให้ผู้ใช้พอใจได้ แต่สิ่งนี้น่าจะเปลี่ยนแปลงในปลายปี 2024 นี้

ด้วย iOS 18 ที่มี Apple Intelligence และ Siri เวอร์ชันอัปเกรด สิ่งที่จะทำให้ Siri ฉลาดขึ้นกว่าเดิม เข้าใจบริบทของคำขอที่ผ่านมาและบริบทอื่น ๆ และเข้าใจขอขอส่วนตัวของผู้ใช้

แน่นอนว่า หากคุณไม่มี Mac หรือ iPad ที่ใช้ Apple Silicon, iPhone 15 Pro หรือ iPhone 15 Pro Max, หรือ iPhone 16 รุ่นใหม่, คุณจะไม่สามารถใช้ Apple Intelligence ได้ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ iPhone รุ่นเก่าจะไม่สามารถลอง Siri ที่ฉลาดขึ้นของ Apple ได้

4. การแก้ไขคำอัตโนมัติ

ถึงแม้ว่า Apple จะพยายามปรับปรุงการแก้ไขคำอัตโนมัติมาตลอดหลายปี แต่ดูเหมือนว่าการแก้ไขคำอัตโนมัติยังไม่ทำงานไม่ถูกใจผู้ใช้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ไปเลย เพราะบางครั้ง แทนที่จะทำให้การพิพม์ของเราสะดวกขึ้นแต่กลับกัน เราต้องมาแก้คำเหล่านั้นด้วยตัวเอง

5. ราคาแอปใน App Store มีราคาสูง

บางครั้ง หากอยู่ในแพลตฟอร์มอื่นอาจจะเป็นแอปโหลดฟรี แต่เมื่อมาอยู่ใน App Store คุณจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อแอปนั้น เช่น Alto’s Odyssey หากอยู่ใน App Store จะมีราคา $4.99 ส่วนใน Google Play Store เปิดให้โหลดฟรี

การที่ Apple เรียกเก็บค่าธรรมเนียม 30% จากผู้พัฒนาแอป อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แอปและเกมบางตัวมีราคาสูงกว่า Store ของแพลตฟอร์มอื่น

6. ติดตั้งแอปนอกไม่ได้

ผู้ใช้ iPhone บางคนเรียกร้องให้มีการติดตั้งแอปจากแหล่งภายนอก หรือที่เรียกว่า sideloading มาหลายปีแล้ว ถูกจำกัดต้องดาวน์โหลดแอปผ่าน App Store เท่านั้น

ถึงแม้ว่าผู้ใช้ใน EU จะทำได้แล้ว แต่ผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ ไม่มีวี่แววซักนิดเลยว่าจะได้โหลดแอปนอกมาใช้กับเขาบ้าง

7. Fast Charge ที่ยังช้าอยู่

ผู้ใช้ iPhone ได้บ่นมานานเกี่ยวกับความเร็วในการชาร์จแบตของ iPhone ที่ช้า ตามหลังสมาร์ตโฟนแบรนด์อื่น ๆ ซึ่ง iPhone รุ่น Top ในตอนนี้ รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 27W (ไม่เกิน 35W) ที่ผู้ใช้สามารถชาร์จจาก 0% เป็น 50% ในเวลา 30 นาที

ข่าวดีสำหรับคนที่ไม่ชอบรอการชาร์จที่ยาวนาน คือ Apple อาจจะปรับปรุงเรื่องนี้ใน iPhone 16 หากข่าวลือเป็นจริงจะทำให้ iPhone 16 Pro รองรับความเร็วการชาร์จแบบมีสายสูงสุดที่ 40W เรามารอดูว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

8. ขาดฟีเจอร์ Multitasking

ฟีเจอร์มัลติทาสกิ้งบน iPhoneเป็นฟีเจอร์ที่หลายคนเรียกร้องมาหลายปีแล้ว เพราะหากคุณมี iPad คุณจะรู้ว่าคุณสามารถเปิดแอปสองแอปและแบ่งเป็นสองจอพร้อมกันได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้อีกแอปโดยการเพิ่มในหน้าต่างลอยได้ด้วย

และถ้าหากคุณเคยใช้สมาร์ตโฟน Android ก็อาจจะเคยใช้ฟีเจอร์การแบ่งการทำงานสองหน้าจอมาแล้วเช่นกัน ซึ่งในตอนนี้ iPhone ยังไม่สามารถทำแบบนั้นได้

9. การซ่อม

iPhone ยังคงเป็นสมาร์ตโฟนที่ซ่อมแซมได้ยากกว่าอุปกรณ์อื่น ๆ แม้ว่า Apple จะยืนยันว่า iPhone 15 Pro นั้นซ่อมแซมได้ง่ายกว่า แต่บางรายงานแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนชิ้นส่วนของ iPhone อาจมีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับแบตเตอรี่

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็จะเห็นได้ว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่ Apple ต้องนำไปปรึกษา และปรับใช้เพื่อพัฒนา iPhone รุ่นใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์ผู้ใช้มากขึ้นค่ะ

ที่มา – idropnews

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University