in ,

iPhone ร้อน เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น (อัปเดต 2024) 

iPhone รุ่นก็ใหม่ แต่ทำไมเครื่องร้อนจัง? สงสัยไหมว่าปัญหาเหล่านี้เกิดจากอะไร และจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร มีเคล็ดลับมาบอก

iPhone ร้อน เกิดจากอะไร? พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น (อัปเดต 2024)

เคยเป็นไหม? บางครั้ง iPhone ของคุณอยู่ ๆ ก็เริ่มร้อนจัดโดยไม่ทราบสาเหตุ กลายเป็นปัญหากวนใจ เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยกว่าที่คิด สาเหตุเกิดจากหลายปัจจัย มาศึกษากัน

ทำไม iPhone ถึงร้อน?

มีสาเหตุอย่างที่ทำให้ iPhone ของคุณร้อน โดยสาเหตุที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ อุณหภูมิ สังเกตได้จาก ตอนที่ใช้ iPhone ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือลืมไว้ในรถยนต์กลางแดด ข้อนี้เป็นปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้ iPhone ของคุณจะร้อนจี๋

อีกสาเหตุที่เป็นไปได้คือ การใช้งานที่หนักหน่วง เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ iPhone ของคุณจะไม่ร้อนเลยขณะที่คุณเล่นเกมที่หนักหน่วง หรือการที่ไถฟีดไปพร้อมกับการเล่นหนังในหน้าจอ PiP ก็ทำให้เกิดความร้อนเช่นกัน

แบตเตอรี่ ก็ยังเป็นสาเหตุที่ทำให้เครื่องร้อนได้ แบตเตอรี่เก่าหรือแบตเตอรี่ที่มีปัญหาก็สามารถทำให้ iPhone ของคุณเริ่มร้อนขึ้น และเมื่อคุณเสียบชาร์จไฟ เป็นเรื่องปกติที่ iPhone ของคุณจะร้อนขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่ควรที่จะร้อนจนทำให้มือคุณร้อน และในทางปกติแล้ว iPhone ของคุณควรจะเย็นลงเมื่อหยุดชาร์จ

สุดท้าย iPhone ของคุณอาจร้อนจัดเพราะ ปัญหาซอฟต์แวร์ iOS เวอร์ชันปัจจุบันของคุณอาจมี Bug ที่ทำให้ iPhone ของคุณร้อนจัด กรณียังเกิดขึ้นกับ iPhone 15 ตอนที่เล่น Instagram แล้วเครื่องร้อน แม้จะเป็นรุ่นใหม่ แต่ Apple ก็ได้ทราบปัญหาและทำการให้แก้ไขในภายหลัง

ไม่ว่าเหตุผลที่ iPhone ของคุณร้อนเกิดจากอะไร ลองมาดูเคล็ดลับที่จะช่วยให้คุณเจอปัญานี้น้อยลงกันเถอะ!

เคล็ดลับลดปัญหา iPhone เครื่องร้อน

1.อัปเดตซอฟต์แวร์และแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด

บางครั้งความร้อนก็อาจจะเกิดการทำงานผิดพลาดภายในระบบที่เราไม่ทราบ ดังนั้นเมื่อมีการปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS เวอร์ชันใหม่ เราก็ควรจะอัปเดตซอฟต์แวร์ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เนื่องจากการปล่อยอัปเดตใหม่นั้น ส่วนใหญ่ก็จะมาพร้อมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพและแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบ

เปิดแอป การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ ถ้ามีการอัปเดตปรากฎขึ้นให้กดอัปเดตได้เลย

2. ไม่ควรนำไปชาร์จเมื่อเครื่องร้อน

ในขณะที่ iPhone ของเรายังร้อนอยู่ ไม่ควรชาร์จ เนื่องจากการชาร์จนั้นจะเพิ่มอุณหภูมิเครื่องให้สูงและร้อนขึ้น ถ้าหากเรานำเครื่องไปชาร์จแล้วรู้สึกว่าเครื่องร้อนผิดปกติ แนะนำว่าให้ถอดปลั๊กออกก่อน แล้วพักเครื่องจนกว่าจะเย็นลง

3. ปิด Background App Refresh

ถ้าหากเราเปิดการทำงานเบื้องหลัง (Background App Refresh) จะส่งผลให้แอปที่เราไม่ได้ใช้งานยังคงทำงานอยู่ โดยแอปยังคงรีเฟรชและดึงข้อมูลใหม่ ๆ มาอยู่เสมอ แน่นอนว่าอาจจะส่งผลให้ iPhone ทำงานหนัก หากมีการทำงานหลายแอปมากเกินไป ดังนั้นบางแอปที่ไม่จำเป็น เราก็สามารถปิดการทำงานเบื้องหลังได้ เพื่อช่วยลดการทำงาน รวมถึงประหยัดแบตเตอรี่ขึ้นด้วย

ไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ดีงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh) > ปิดด การดึงข้อมูลจากแอปเบื้องหลังบางแอปที่ไม่ได้ใช้

หรือจะตั้งค่ากับแอปทั้งหมดก็ได้ โดยแตะที่ ดีงข้อมูลแอปจากเบื้องหลัง (Background App Refresh) แล้วเลือกปิด

4. เปิดการปรับความสว่างอัตโนมัติ

ถ้าหากเราปรับความสว่างขอหน้าจอให้สว่างเกินไป ก็อาจจะทำให้เครื่องร้อน รวมถึงแบตเตอรี่หมดไวได้ เราสามารถเปิดใช้งานการปรับความสว่างอัตโนมัติ (Auto Brightness) เพื่อให้เครื่องปรับความสว่างให้เหมาะสมกับแสงรอบข้างได้

เปิดแอป การตั้งค่า > การช่วยการเข้าถึง > จอภาพและขนาดข้อความ > เปิด “ปรับความสว่างอัตโนมัติ”

 

 

5.นำเครื่องออกจากที่ร้อนทันที

ถ้าหากเราวาง iPhone หรือใช้งานในที่ร้อนจัด มีอุณหภูมิสูง เช่น ใช้งานกลางแจ้งในตอนกลางวันที่ร้อนจัด หรือวาง iPhone ตากแดด เก็บ iPhone ไว้ในรถยนต์ ก็จะส่งผลให้ iPhone เครื่องร้อนเร็ว ดังนั้นเราควรจะย้าย iPhone ไปอยู่ในที่ที่เย็นขึ้น

นอกจากนี้ การวาง iPhone ไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก เช่น วางไว้ใต้หมอน วางไว้ในผ้าห่ม ก็อาจจะส่งผลให้การถ่ายเทความร้อนไม่ดี ทำให้เครื่องร้อนขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น เราควรวาง iPhone ไว้ในที่โล่ง ห่างจากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความร้อน เช่น หลีกเลี่ยงการวางใกล้พัดลมระบายความร้อนของคอมพิวเตอร์ วางใกล้กับคอมเพรสเซอร์แอร์ เป็นต้น

อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ iPhone จะอยู่ที่ประมาณ 16 ถึง 22 °C หรือจะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 0-35 °C

5. ตัดการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมทั้งหมด

ไม่ว่าจะเป็น AirPods หรืออุปกรณ์เสริม USB ให้ตัดการเชื่อมต่อเพื่อให้ iPhone ของคุณมีโอกาสเย็นลง ยิ่ง iPhone มีการเชื่อมอุปกรณ์เสริมน้อยเท่าไรก็ยิ่งดี

เพิ่มเติมคือ หากคุณต้องการลดอุณหภูมิของ iPhone แนะนำมให้ถอดเคสออกและถอดอุปกรณ์เสริม MagSafe ใด ๆ ที่ติดอยู่ออกด้วย เพื่อให้ตัวเครื่องรพบายอากาศได้ดีที่สุด

6. เปิดใช้งาน Airplane Mode

บางครั้งการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาก็อาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ iPhone เกิดความร้อนสูง เราอาจจะลองเปิดโหมดเครื่องบิน (Airplane Mode) เพื่อหยุดการเชื่อมต่อต่าง ๆ ไว้สักครู่ แล้วเช็คดูว่าเครื่องเย็นลงหรือไม่

7. เปิดโหมดประหยัดพลังงาน

การเปิดโหมดประหยัดพลังงานจะช่วยลดกิจกรรมที่ทำงานอยู่เบื้องหลังชั่วคราวได้ ช่วยลดการทำงานและการใช้ทรัพยากรในเครื่อง ส่งผลให้เครื่องเย็นลงได้ และประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ด้วย ลองใช้วิธีนี้แก้ไขเบื้องต้นไปก่อน จนกว่า iPhone ของคุณจะเย็นลง

8. รีสตาร์ต iPhone ใหม่

แต่ถ้าหากมีแอปที่เราเปิดไว้จำนวนมาก จนเสียเวลาในการออกจากแอปทีละ 2-3 แอป ก็สามารถใข้วิธีรีสตาร์ตเครื่อง iPhone ได้เลย การรีสตาร์ตจะปิดแอปที่เราเปิดใช้งานอยู่ทั้งหมด และช่วยรีเซ็ตระบบด้วย ซึ่งบางครั้งการทำงานที่ผิดพลาดของระบบก็อาจทำให้เครื่องร้อนเช่นกัน

หน้าร้อนแบบนี้ เราอาจจะต้องปรับตัวกันหน่อยเพื่อเป็นการดูแลรักษาแบตเตอรี่ iPhone ให้ใช้ได้นาน แนะนำให้หาที่นั่งเล่นเย็น ๆ เพื่อเซฟทั้งตัวคุณและ iPhone ของคุณด้วย

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University