in ,

5 สิ่งที่อาจจะส่งผลให้ iPhone เกิดไฟไหม้

เราอาจจะเคยเห็นข่าว iPhone เกิดไฟลุกไหม้กันมาบ้างแล้ว บางครั้งก็หาสาเหตุไม่ได้ แต่คาดว่าส่วนใหญ่นั้นเกิดจากแบตเตอรี่ หากเราไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น มาดูกันว่าควรหลีกเลี่ยงและปฏิบัติอย่างไรบ้าง

5 สิ่งที่อาจจะส่งผลให้ iPhone เกิดไฟไหม้

1. อย่าใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน

อุปกรณ์ชาร์จไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์หรือสายชาร์จ ควรจะใช้อุปกรณ์ณที่มีคุณภาพโดยซื้อจาก Apple หรือแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น Belkin, Anker หรือแบรนด์ที่มีสัญลักษณ์ Made for iPhone/iPad เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้ใช้วัสดุที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยและผ่านการรับรองเรียบร้อยแล้ว

ถ้าหากเราใช้อุปกรณ์ชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐานก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนหรืออาจจะประสบกับปัญหาด้านไฟฟ้าอื่น ๆ ก่อให้เกิดไฟไหม้ได้

2. ชาร์จในพื้นที่ที่ไม่ระบายอากาศหรือที่ร้อน

ส่วนใหญ่ที่ iPhone เกิดไฟไหม้เกิดจากที่ผู้ใช้มักจะชาร์จ iPhone ไว้บนเตียงนอน ซึ่งบางครั้งเครื่องถูกชาร์จอยู่ใต้ผ้าห่มและหมอน ทำให้ไม่มีการระบายอากาศ เครื่องเกิดความร้อนจัดและสามารถติดไฟได้ ดังนั้นเราควรที่จะหลีกเลี่ยงการชาร์จ iPhone ในที่ที่ไม่ระบายอากาศหรือในพื้นที่ ห้อง ที่มีอุณหภูมิสูงหรือร้อนจัด

3. เช็คสภาพแบตเตอรี่

บางคนอาจจะไม่เคยตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่ iPhone เลย หากเราใช้งานแล้วรู้สึกว่าแบตหมดไว เครื่องร้อนผิดปกติ แนะนำให้เข้าไปเช็คแบตเตอรี่ได้ที่ การตั้งค่า (Settings) > แบตเตอรี่ (Battery) > สุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health) หรือจะเช็คผ่านแอป Apple Support ก็ได้ [ชมวิธี]

ดูว่าแบตเตอรี่มีความสูงสุดต่ำว่า 80% หรือไม่ หากต่ำว่า 80% ถือว่าแบตเตอรี่เริ่มเสื่อม แนะนำให้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่ Apple Care

แบตเตอรี่ยิ่งเก่าหรือยิ่งใช้ไปนาน ๆ จะมีโอกาสเสื่อมได้ การใช้แบตเตอรี่ที่เริ่มเสื่อมหรือบางครั้งใช้งานจนแบตเตอรี่บวมก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดไฟไหม้ได้

4. หลีกเลี่ยงการใช้งานหรือวาง iPhone ในที่ร้อนหรือมีแสงแดด

Apple ออกแบบ iPhone ให้ปิดเครื่องเอง เมื่อเครื่องมีอุณหภูมิสูงหรือร้อนเกินไป ซึ่งคุณสมบัตินี้จะช่วยปกป้องแบตเตอรี่และชิ้นส่วนภายในอื่น ๆ ที่ละเอียดอ่อนต่อการเกิดความเสียหายจากความร้อนได้ และยังป้องกันไฟไหม้ได้อีกด้วย

ถึงแม้จะมีคุณสมบัติการปิดเครื่องเอง แต่บางครั้งก็อาจจะเกิดความผิดพลาดได้ การหลีกเลี่ยงไฟลุกไหม้ได้ดีที่สุดคือ ไม่นำ iPhone ไปาวงในที่ที่มีความร้อนสูง เช่น ไม่ควรวางในรถยนต์ที่จอดตากแดดหรือไม่วาง iPhone ตากแดดโดยตรง ควรเก็บ iPhone ไว้ในที่ร่ม โดยอุณหภูมิที่ Apple แนะนำคือ 0 – 35 องศาเซลเซียส

เคยมีข่าวระบุว่า นักเล่นกระดานโต้คลื่นเก็บ iPhone ไว้ในรถยนต์ โดย iPhoneถูกคลุมด้วยเสื้อผ้าอีกชั้น จากนั้นก็เกิดเหตุไฟไหม้ อาจจะเป็นเพราะความร้อนที่มากเกินไปทำให้ iPhone เกิดไฟไหม้ เหตุการณ์นี้จึงทำให้เขาสูญเสียรถยนต์ไปด้วย

5. ตรวจสอบแบตเตอรี่บวม

การใช้ iPhone ไปนาน ๆ อาจจะส่งผลให้แบตเตอรี่บวมได้ โดยเฉพาะการใช้ iPhone รุ่นเก่า ๆ แนะนำให้ลองสังเกตด้านข้างและด้านหลังตัวเครื่องว่าแบตเตอรี่บวมจนดันด้านหลังออกมาหรือไม่ ถ้าบวมแล้วแนะนำให้รีบไปเปลี่ยนที่ Apple Care ทันที หากต้องการใช้เครื่องอยู่

แต่สำหรับคนที่เก็บเฉพาะตัวแบตเตอรี่เก่า ๆ ไว้ หรือเก็บเครื่องเก่า ๆ ไว้ที่บ้าน ลองสังเกตดูบ้างว่าแบตบวมหรือไม่ เนื่องจากการเก็บแบตเตอรี่บวมหรือแบตเตอรี่ชำรุดแล้วไว้ในบ้านอาจจะก่อให้เกิดเพลิงไหม้ได้ แบตที่ชำรุดแล้วก็ควรจะนำไปทิ้ง

และทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง ซึ่งเป็นสาเหตุที่จะทำให้ iPhone เกิดลุกไหม้ สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินอื่น ๆ ของเราได้ ส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากแบตเตอรี่ที่อยู่ใน iPhone ดังนั้นอย่าประมาทกันนะคะ ก็ควรระวังและคอยสังเกตเสมอ

ที่มา idropnews

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University