Apple Watch Series 11 เปิดตัวพร้อมการอัปเกรดที่สำคัญหลายด้าน โดยเน้นไปที่ฟีเจอร์ด้านสุขภาพ ความทนทานของหน้าจอที่ทนรอยขีดข่วนดีกว่าเดิม 2 เท่า แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 24 ชั่วโมง
สรุปเปิดตัว Apple Watch Series 11 หน้าจอทนทานกว่าเดิม 2 เท่า เน้นฟีเจอร์สุขภาพ
ดีไซน์และวัสดุ
- ดีไซน์บางที่สุด: ตัวเรือนได้รับการออกแบบให้บาง และสวมใส่สบายยิ่งขึ้น
- กระจกแข็งแกร่งขึ้น: รุ่นอะลูมิเนียมใช้กระจก Ion-X ที่ทนการขีดข่วนได้ดีขึ้น 2 เท่า ด้วยการเคลือบผิวเซรามิกแบบใหม่
- ขนาด 42 มม. และ 46 มม. มีให้เลือกทั้งแบบวัสดุอะลูมิเนียม 4 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์, ดำเจ็ทแบล็ค, โรสโกลด์, เงิน และวัสดุไทเทเนียม ได้แก่ สีธรรมชาติ, ทอง, เทาสเลท
สุขภาพและการนอนหลับ
- คุณสมบัติด้านสุขภาพครบครันที่สุด: ตอกย้ำการเป็นอุปกรณ์ติดตามสุขภาพชั้นนำ
- คะแนนการนอนหลับ (Sleep Score): เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคุณภาพการนอนหลับ
ประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่
- ใช้งานได้สูงสุด 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รองรับชาร์จเร็วชาร์จเพียง 15 นาที สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 8 ชั่วโมง
- รองรับ 5G เป็นครั้งแรกที่มาพร้อมระบบเซลลูลาร์ 5G ทำให้ดาวน์โหลดและรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องมี iPhone อยู่ใกล้ ๆ
ซอฟต์แวร์ และฟีเจอร์ใหม่ (watchOS 26)
- รองรับคำสั่งมือบิดข้อมือ และคำสั่งนิ้ว “แตะสองครั้ง”
- หน้าปัดนาฬิกาใหม่มีตัวเลือกการปรับแต่งหน้าจอที่หลากหลายขึ้น
คะแนนการนอนหลับ (Sleep Score)
วิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับจากปัจจัยต่างๆ เช่น ระยะเวลา, ความสม่ำเสมอ, ความถี่ในการตื่น และระยะเวลาในแต่ละระดับการนอนหลับ แสดงผลเป็น “คะแนนการนอนหลับ” ในทุกเช้าผ่านแอปนอนหลับ พร้อมคำอธิบายว่าควรปรับปรุงอะไรบ้าง และสามารถดูคะแนนได้จากหน้าปัดนาฬิกาหรือวิดเจ็ต และดูข้อมูลย้อนหลังได้ในแอปสุขภาพบน iPhone
โดยอัลกอริทึมได้รับการพัฒนาโดยอ้างอิงข้อมูลจากสถาบันด้านการนอนหลับชั้นนำและทดสอบกับข้อมูลการนอนหลับกว่า 5 ล้านคืน
หมายเหตุ ต้องสวม Apple Watch ขณะนอนหลับ
ประสบการณ์การออกกำลังกายที่อัปเดตใหม่
- Workout Buddy: เป็นครั้งแรกที่นำ Apple Intelligence มาใช้ในการออกกำลังกาย โดยจะให้ “แรงบันดาลใจด้วยเสียง” ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลระหว่างออกกำลังกาย โดยอิงจากข้อมูล เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, เพซ, ระยะทาง และเป้าหมาย (ต้องใช้คู่กับ iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence)
- แอปออกกำลังกายดีไซน์ใหม่: ปรับปรุง Layout ให้ปรับแต่งและสร้างโปรแกรมการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น ทั้งบน Apple Watch และแอปฟิตเนสบน iPhone
หมายเหตุ Workout Buddy ยังไม่รองรับในประเทศไทย
การเชื่อมต่อกับเพลงและพ็อดคาสท์:
- สามารถตั้งค่าให้เพลงหรือพ็อดคาสท์เล่นอัตโนมัติเมื่อเริ่มออกกำลังกาย
- Apple Music สามารถเลือกเพลงที่เหมาะกับการออกกำลังกายนั้นๆ ให้โดยอัตโนมัติตามรสนิยมของผู้ใช้
คุณสมบัติด้านสุขภาพ (Health Features)
คะแนนการนอนหลับ (Sleep Score): ฟีเจอร์ใหม่ใน watchOS 26 ที่วิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับอย่างละเอียดจากหลายปัจจัย (ระยะเวลา, ความสม่ำเสมอ, การตื่น) และแสดงผลเป็นคะแนนที่เข้าใจง่าย เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ปรับปรุงการนอนหลับให้ดีขึ้น
ฟิตเนสและการออกกำลังกาย (Fitness & Workout)
Workout Buddy: ครั้งแรกของการนำ Apple Intelligence มาใช้ในการออกกำลังกาย โดยจะให้ “แรงบันดาลใจด้วยเสียง” ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคลระหว่างออกกำลังกาย (ต้องใช้คู่กับ iPhone ที่รองรับ)
แอปออกกำลังกายโฉมใหม่: ปรับปรุง Layout ให้สร้างและปรับแต่งโปรแกรมการออกกำลังกายได้ง่ายขึ้น
เชื่อมต่อเพลงอัตโนมัติ: สามารถตั้งค่าให้ Apple Music หรือพ็อดคาสท์เล่นอัตโนมัติเมื่อเริ่มออกกำลังกาย พร้อมระบบแนะนำเพลงที่เหมาะกับประเภทการออกกำลังกายนั้นๆ
หน้าปัดนาฬิกาใหม่:
ใช้ตัวเลขแบบ Liquid Glass ที่เปลี่ยนสีสันตามการเคลื่อนไหวของข้อมือ ดีไซน์แบบนาฬิกาเรกูเลเตอร์ที่แยกเข็มชั่วโมง นาที และวินาทีออกจากกัน
คำสั่งพลิกข้อมือ (Flick Gesture): ท่าทางใหม่ที่ใช้มือเดียวเพื่อปิดการแจ้งเตือนหรือหยุดนาฬิกาปลุกได้อย่างรวดเร็ว นอกเหนือจาก “แตะสองครั้ง” ที่มีอยู่เดิม
การเสนอวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ: ระบบจะแนะนำวิดเจ็ตที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาให้อัตโนมัติตามบริบทและกิจวัตรของผู้ใช้
การแปลภาษาสด (Live Translation): ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence สามารถแปลข้อความที่ได้รับในแอปข้อความเป็นภาษาที่ผู้ใช้ต้องการได้ทันทีบนข้อมือ
แอปโน้ต (Notes App): สามารถสร้าง และเปิดดูโน้ตได้โดยตรงจาก Apple Watch
ผู้ช่วยโทรศัพท์ (Phone Call Assistant)
- ผู้ช่วยพักสาย (Hold Helper): แจ้งเตือนเมื่อคู่สนทนากลับมารับสายต่อ เช่น Call Center
- การคัดกรองสายโทร (Call Screening): แสดงชื่อและเหตุผลของสายที่ไม่รู้จักก่อนตัดสินใจรับสาย (ต้องมี iPhone อยู่ใกล้ๆ)
สายนาฬิกา
สายนาฬิกามาในพาเลทสีใหม่ ได้แก่ สีเขียวฟอเรสต์ สีเหลืองนีออน สีน้ำเงินแองเคอร์บลู สีม่วงควันหมอก และอื่น ๆ อีกมากมาย
นอกจากนี้ สาย Nike Sport Band และ Nike Sport Loop ยังมาพร้อมชุดสีใหม่ โดยสาย Nike Sport Loop มีการทอเส้นด้ายสะท้อนแสงลงในเนื้อผ้าอย่างแนบเนียน
คอลเลกชั่น Apple Watch Hermès มาพร้อมสายถักแบบใหม่ในชื่อ Faubourg Party ที่จับคู่มากับหน้าปัดนาฬิกาแอนิเมชั่นที่ออกแบบมาให้เข้าคู่กัน มีให้เลือกทั้งขนาด 42 มม. และ 46 มม. นอกจากนี้
และยังมีสายแบบ Grand H ใหม่ซึ่งมีข้อต่อโลหะที่เพรียวบางและเรียบหรู โดยออกแบบมาสำหรับตัวเรือนขนาด 42 มม. พบกับเฉดสีใหม่ๆ ได้ในสายทุกรุ่นของคอลเลกชั่น Apple Watch Hermès
ราคา และการวางจำหน่าย
- Apple Watch Series 11 ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท
- Apple Watch Series 11, Ultra 3, SE 3 ยังไม่มีกำหนดวันสั่งซื้อ และวันจำหน่ายในไทย
ที่มา: apple