in , ,

รีวิว iPhone Air เบา บางที่สุดใน iPhone ใช้แล้วดีกว่าที่คิด!

รีวิว iPhone Air เบา บางที่สุดใน iPhone ใช้แล้วดีกว่าที่คิด!

การออกแบบและดีไซน์

ความบางและน้ำหนัก: บางเพียง 5.6 มม. และเบาเพียง 165 กรัม เทียบเท่า iPhone 6s
วัสดุตัวเครื่องเป็นไทเทเนียมทั้งหมด รวมถึงขอบขัดเงาที่สร้างมาเพื่อ iPhone Air โดยเฉพาะ
มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Sky Blue, ขาวปุยเมฆ, ทองอ่อน และ Space Black

หน้าจอ

ขนาด 6.5 นิ้ว Super Retina XDR OLED พร้อมเทคโนโลยี ProMotion 120Hz
ความสว่าง สูงสุด 3,000 nits ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย

ความแข็งแรง

Apple ได้โชว์วิดีโอทดสอบแรงกดทับ 60 กก. ซึ่ง iPhone Air งอเล็กน้อยแต่กลับมาตรงได้
การทดสอบจาก JerryRigEverything: ผ่านการทดสอบแรงกด 90 กก. โดยมีการโค้งงอเล็กน้อยแต่ไม่หัก แม้จะบาง แต่ iPhone Air แข็งแรงกว่า iPhone รุ่นก่อนที่หนากว่า

กล้อง

กล้องหลัง 1 ตัว ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล แบบ Fusion Camera มีความยืดหยุ่นในการถ่ายภาพ ข้อจำกัดกล้องหลังคือ ไม่มีเลนส์ Ultra Wide (0.5x) และไม่รองรับโหมดภาพยนตร์ (Cinematic Mode) สีสันและสกินโทนสีสวยงาม สามารถซูม 2 เท่าแบบ Optical Quality ได้

กล้องหน้า อัปเกรดเป็น Center Stage ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์ใหม่ จัดกรอบเฟรมเซลฟี่ได้อิสระ เซ็นเซอร์เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้ถ่ายเซลฟี่มุมกว้างได้โดยไม่ต้องพลิกไชตัวเครื่องไปมา Dual Capture อัดวิดีโอกล้องหน้าและหลังพร้อมกันได้ที่ 4K30 เหมาะสำหรับสาย Vlog หรือ Content Creator

ประสบการณ์ด้านเสียง

มีลำโพงเพียง 1 ตัวอยู่ด้านบนของเครื่อง ความดังอยู่ในระดับพอๆ กับ iPhone 17 (ลำโพงคู่) แต่ด้านมิติเสียง iPhone 17 ดีกว่าอย่างชัดเจน แต่สำหรับผู้ที่ชอบใส่ AirPods เป็นหลัก อาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่

ประสิทธิภาพ, แบตเตอรี่ และความร้อน

ชิปประมวลผล A19 Pro (เหมือน iPhone 17 Pro/Pro Max) แต่ถูกตัดแกน GPU ออก 1 แกน ทำให้การประมวลผลหนักและการเล่นเกมทำได้น้อยกว่าเล็กน้อย แต่ในการใช้งานจริงไม่ส่งผลมากนัก

มีการออกแบบให้แผงวงจรและชิปอยู่บริเวณโมดูลกล้องที่นูนออกมา ทำให้มีพื้นที่ว่างสำหรับแบตเตอรี่ความหนาแน่นสูง สามารถใช้งานได้ครบวันสำหรับการใช้งานทั่วไป

iPhone Air เป็นรุ่นแรกที่ใช้ชิปของ Apple เองทั้งหมด (Modem C1X, ไร้สาย N1, Apple A19 Pro) ซึ่งช่วยในการจัดการพลังงานได้ดีที่สุด

เนื่องจากไม่มี Vapor Chamber หรือแผ่นระบายความร้อน ทำให้เครื่องอุ่นเร็วบริเวณโมดูลกล้อง และอาจเกิดอาการกระตุกหรือจอดรอปแสงเมื่อใช้งานหนัก เช่น เล่นเกม 15-20 นาที หรือถ่ายวิดีโอกลางแจ้งนาน 30 นาที

การชาร์จ

ความเร็วในการชาร์จจะช้ากว่ารุ่น Pro/Pro Max เล็กน้อย (ชาร์จ 50% ภายใน 30 นาที เทียบกับ 20 นาทีในรุ่น Pro) รองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe ที่ 20 วัตต์ (รุ่นอื่น 25 วัตต์)

พอร์ตเชื่อมต่อ

iPhone Air ใช้ USB Generation 2 ซึ่งช้ากว่า USB 3 ในรุ่น Pro/Pro Max แต่ไม่มีผลต่อการชาร์จเร็ว และไม่ใช่ปัญหาหากไม่ได้โอนถ่ายข้อมูลบ่อยๆ

จุดเด่นของ iPhone Air

  • บางและเบาที่สุด: ทำให้ถือใช้งานได้สบาย ไม่เมื่อยมือ พกพาง่าย
  • ชิป Apple ทั้งหมด: ใช้ชิปที่ Apple พัฒนาเองทั้งหมด (C1X, N1, A19 Pro) ทำให้การจัดการพลังงานและประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น
  • อุปกรณ์เสริมเฉพาะ: มีเคสบาง 1 มม., สายคล้องที่เหมาะกับน้ำหนักเบา และ MagSafe ที่บางและยาวเป็นพิเศษ มีความจุแบตเตอรี่ใกล้เคียงตัวเครื่อง
  • ดีไซน์โดดเด่น: ดูหรูหรา พรีเมียม และ Minimal มีสี Space Black ให้เลือก (รุ่น Pro/Pro Max ไม่มี) เหมาะกับการเป็นแฟชั่นไอเทม

สิ่งที่ต้องแลกมากับความบาง

  • ลำโพงเดี่ยว: ให้มิติเสียงที่ไม่ดีเท่าลำโพงคู่
  • กล้อง: ไม่มีเลนส์ Ultra Wide และไม่มีโหมดภาพยนตร์
  • การชาร์จ: ชาร์จช้ากว่ารุ่นอื่นเล็กน้อย
  • ชิป: แกน GPU ถูกตัดออก 1 แกน ทำให้การประมวลผลหนักลดลงเล็กน้อย
  • พอร์ต: USB 2.0 ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลช้ากว่า USB 3.0

หากชื่นชอบความบางเบา ประสบการณ์การถือที่สบาย และดีไซน์พรีเมียม และยอมรับข้อจำกัดบางอย่างได้ เช่น ลำโพงเดี่ยวหรือกล้องตัวเดียว iPhone Air ถือเป็นตัวเลือกที่ดี
ผู้รีวิวแนะนำให้เลือกจากความต้องการส่วนตัว ไม่ควรยึดติดกับความคิดเห็นของผู้อื่นมากเกินไป ควรลองไปสัมผัสเครื่องจริงที่หน้าร้านเพื่อทดสอบฟีเจอร์ต่างๆ ก่อนตัดสินใจ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Saktaphat Kordjan

Social Science Chiang Mai University