Phone 17 มาพร้อมหน้าจอ Ceramic Shield 2 ที่กันรอยและลดแสงสะท้อนได้ดีเยี่ยมอยู่แล้ว การติดฟิล์มกระจกธรรมดาจะทำให้หน้าจอสะท้อนแสงมากขึ้นและลดประสิทธิภาพของจอลง หากต้องการติดฟิล์มเพื่อความสบายใจ ควรเลือกซื้อฟิล์มที่ระบุคุณสมบัติ “AR” (Anti-Reflective) เพื่อคงความชัดเจนของหน้าจอ หรือหากเน้นความปลอดภัยสูงสุดให้เลือกเคสกันกระแทกคุณภาพสูงควบคู่กับฟิล์มกระจกนิรภัย
iPhone 17 ติดฟิล์มกันไหม? จำเป็นหรือไม่ เพราะหน้าจอเทพอยู่แล้ว
เทคโนโลยีหน้าจอใหม่
iPhone 17 Series (รวมถึง iPhone Air) มาพร้อมหน้าจอ Ceramic Shield 2 ที่แข็งแกร่งขึ้นและมีสารเคลือบกันแสงสะท้อน (Anti-Reflective Coating) ทำให้มองเห็นชัดเจนขึ้นในที่แสงจ้า
ปัญหาของการติดฟิล์มทั่วไป
การทดสอบทางเทคนิคพบว่า หน้าจอเปล่าของ iPhone 17 มีค่าการสะท้อนแสงเพียง 2.0% แต่เมื่อติดฟิล์มกระจกใสธรรมดา ค่าการสะท้อนแสงพุ่งสูงขึ้นเป็น 4.6% ซึ่งแย่กว่ารุ่นก่อนๆ และลดทอนประสิทธิภาพหน้าจอราคาแพงที่ Apple ใส่มาให้
ทางเลือกในการติดฟิล์ม
หากต้องการติดฟิล์มเพื่อป้องกันรอย ควรเลือกฟิล์มที่มีคุณสมบัติ AR (Anti-Reflective) ระบุบนกล่อง เพื่อรักษาระดับการตัดแสงสะท้อนของหน้าจอไว้
คำแนะนำสำหรับผู้ใช้งานแต่ละกลุ่ม:
- สายเสพภาพชัด: ชอบความคมชัด ใช้งานกลางแจ้งบ่อย แนะนำให้หาเคสกันกระแทกดีๆ ใส่ แต่ถ้าจะติดฟิล์มต้องเป็นฟิล์ม AR หรือขอบบาง
- สายลุย/ซุ่มซ่าม: เน้นป้องกันหน้าจอแตก ให้เลือกฟิล์มกระจกที่เน้นความแข็งแรง (เช่น 9H) คู่กับเคสกันกระแทก โดยยอมแลกกับเรื่องแสงสะท้อน
- สายเกม/วาดเขียน: แนะนำฟิล์มด้าน หรือฟิล์ม AR เพื่อลดแสงรบกวนสายตา
สรุป
iPhone 17 ไม่จำเป็นต้องติดฟิล์มก็ได้หากคุณดูแลเครื่องดี แต่ถ้าต้องการติด “ห้ามใช้ฟิล์มราคาถูก” หรือฟิล์มกระจกทั่วไปที่ไม่มี AR เด็ดขาด เพราะมันจะทำลายประสบการณ์การใช้งานหน้าจอระดับเทพที่คุณจ่ายเงินซื้อมาครับ