in ,

เปิดตัว iPad mini รุ่นที่ 6 ดีไซน์ใหม่ สเปกสุดล้ำ ชิป A15 Bionic รองรับ 5G และคุณสมบัติ Center Stage

15 ก.ย 64, Apple เปิดตัว iPad mini 6 ในงาน California streaming โดยมีการปรับดีไซน์ใหม่ พร้อมคุณสมบัติอันน่าทึ่ง ใช้ชิป A15 Bionic อีกทั้งยังรองรับ 5G

เปิดตัว iPad mini รุ่นที่ 6

ไฮไลท์ 

  • ตัวเครื่องใช้ดีไซน์ใหม่
  • ใช้ชิป A15 Bionic (แบบเดียวกับ iPhone 13)
  • หน้าจอ Liquid Retina ขนาด 8.3″
  • จอ True Tone
  • มี 4 สีให้เลือกคือ สีม่วง สีชมพู สีเทาสเปซเกรย์ สีสตาร์ไลท์
  • มีปุ่ม Power ที่ด้านบนตัวเครื่อง
  • สแกน Touch ID ที่ปุ่ม Power
  • CPU เร็วขึ้น 40 %, GPU เร็วขึ้น 80% (ถ้าเทียบกับ iPad mini รุ่นที่ 5) ส่วน Neural Engin เร็วขึ้น 2 เท่า
  • มาพร้อมพอร์ต USB-C ที่เชื่อมต่อเร็วขึ้น 10 เท่า
  • รองรับ 5G ความเร็วสูงสุด 3.5 Gbps/วินาที
  • รองรับ Wi-Fi 6
  • กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f1.8 ที่มาพร้อมแสงแฟลชแบบ True Tone
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แบบ Ultra-Wide
  • มาพร้อมฟีเจอร์ Center Stage (เหมือน iPad Pro M1)
  • ใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 2
  • ให้อะแดปเตอร์ขนาด 20W มาด้วย

ดีไซน์ใหม่แบบเต็มหน้าจอทั้งหมด

iPad mini รุ่นที่ 6 ใช้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบหน้าจอทั้งหมด มีการย้าย Touch ID ไปไว้ที่ปุ่ม Power ด้านบนตัวเครื่อง

ด้านบนมีแถบแม่เหล็กเพื่อให้ยึดติดและใช้ชาร์จ Apple Pencil รุ่นที่ 2

มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว ขนาดตัวเครื่องกะทัดรัดพกพาสะดวกเหมือนเดิมแต่อัดแน่นด้วยสเปคสุดแรง

หน้าจอมีความสว่างสูงสุด 500 นิต ขอบเขตสีกว้างแบบ P3 พร้อมมีการเคลือบสารกันแสงสะท้อน

ใช้จอแสดงผลแบบ True Tone และเทคโนโลยี Full Lamination รูปภาพและวิดีโอที่ดูผ่าน iPad mini 6 จะมีสีสันสดใส เหมือนคอนเท้นต์ที่กำลังรับชมนั้นอยู่ชิดติดกับผิวกระจกหน้าจอ

ในเรื่องของเสียง มาพร้อมลำโพงสเตอริโอแนวนอนใหม่ที่ถูกปรับให้เข้ากับจอภาพใหม่ใน iPad mini รุ่นที่ 6 เพื่อสัมผัสกับประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์และการชมคอนเท้นต์ต่าง ๆ ที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม

มาใน 4 สี

iPad mini รุ่นที่ 6 มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ และสีใหม่อย่างสีสตาร์ไลท์ สีม่วงและสีชมพู

ชิป A15 Bionic นำประสิทธิภาพอันทรงพลังมาสู่ iPad mini ที่จิ๋วแต่แจ๋วของจริง

ไม่เพียงแค่ปรับดีไซน์ใหม่เท่านั้น iPad mini รุ่นที่ 6 มาพร้อมการเสริมประสิทธิภาพครั้งใหญ่จากชิป A15 Bionic ตัวเดียวกันกับ iPhone 13 ตัวชิปถูกออกแบบมาให้ประหยัดพลังงานแต่มอบประสิทธิภาพที่ก้าวกระโดด มาพร้อม CPU แบบ 6-core เร็วขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ และ GPU แบบ 5-core เร็วขึ้น 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับ iPad mini รุ่นที่ 5

ชิป A15 Bionic บน iPad mini รุ่นที่ 6 สามารถจัดการกับงานที่ต้องใช้พลังในการประมวลผลสูงสุดได้ ไม่ว่าจเล่นเกมที่เน้นกราฟิกโหด ๆ  ไปจนถึงการใช้งานแอประดับโปรสำหรับนักออกแบบ นักบิน แพทย์ และสำหรับอาชีพที่เน้นการพกพาแต่ก็ตองการประสิทธิภาพที่แรงด้วย

ส่วน Neural Engine ให้มา 16-core ทำให้การเรียนรู้ของระบบเร็วขึ้น 2 เท่า รองรับฟีเจอร์ “ข้อความในภาพ” หรือ “Live Text” ที่อยู่ใน iPadOS 15

มาพร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” หรือ “Center Stage”

ดึงเอาคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” หรือ “Center Stage” บน iPad Pro M1 มาไว้บน iPad mini รุ่นที่ 6 โดยคุณสมบัติ Center Stage จะแพนกล้องโดยอัตโนมัติไปตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ เพื่อจัดให้ผู้ใช้อยู่ตรงกลางจอเสมอ และถ้ามีคนอื่นมาร่วมด้วย กล้องก็สามารถตรวจจับได้ และจะซูมออกมาเพื่อจัดให้อยู่ในเฟรมครบทุกคน

กล้องหน้า

เพลิดเพลินกับการวิดีโอคอล ด้วยกล้องหน้าแบบ Ultra-Wide ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ให้การวิดีโอคอลคมชัดและสมจริงมากขึ้น และเพื่อให้ทำงานกับคุณสมบัติ Center Stage ได้ดี

กล้องหลัง

กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รูรับแสงที่ใหญ่ขึ้นเพื่อบันทึกภาพที่คมชัดและสีสันสดใส มาพร้อมแฟลชแบบ True Tone เพื่อช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย นอกจากนี้ยังมาพร้อม HDR อัจฉริยะ ซึ่งช่วยปรับปรุงคุณภาพของรูปภาพโดยการกู้คืนรายละเอียดในเงามืดและไฮไลท์โดยใช้ประโยชน์จาก ISP ใหม่ในชิป A15 Bionic

เชื่อมต่อรวดเร็วด้วย 5G และ Wi-Fi 6

iPad mini รุ่นที่ 6 รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G ให้เราทำอะไร ๆ ได้มากกว่าด้วยการเชื่อมต่อไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นในระหว่างเดินทางด้วยความเร็วสูงสุดถึง 3.5Gbps/วินาที นอกจากนี้ยังรองรับ Gigabit LTE และ eSIM อีกทั้งยังมอบประสบการณ์การเชื่อมต่อที่เร็วยิ่งกว่าด้วย Wi-Fi 6

พอร์ต USB-C

iPad mini รุ่นที่ 6 มาพร้อมพอร์ต USB-C ที่ถ่ายโอนข้อมูลได้สูงสุด 5Gbps/วินาที ทำให้การเชื่อมต่อและส่งข้อมูลเร็วขึ้น 10 เท่า รองรับอปุกรณ์เสริมที่ใช้พอร์ต USB-C อย่างกว้างขวาง รองรับการต่อจอ 4K ด้วยสาย USB-C ไม่ว่าจะทำงานไหนก็ไม่สะดุด

อุปกรณ์เสริม

Smart Folio ใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อ iPad mini รุ่นที่ 6 เป็นเคสที่ทั้งบางและมีน้ำหนักเบา และยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการเปิดเพื่อใช้งานและปิดเพื่อเข้าโหมดพัก โดย Smart Folio มาในสีสันสวยงามที่เข้ากันอย่างลงตัวกับสีของ iPad mini รุ่นที่ 6 ซึ่งมีทั้งสีดำ สีขาว สีเชอรี่เข้ม สีอิงลิชลาเวนเดอร์ และสีส้มอิเล็คทริค

ราคาและการจัดจำหน่าย

ราคาจำหน่าย iPad mini รุ่นที่ 6 มีดังนี้

iPad mini รุ่นที่ 6 Wi-Fi

  • 64GB ราคา ฿17,900
  • 256GB ราคา ฿23,400

iPad mini รุ่นที่ 6 Wi-Fi + Cellular

  • 64GB ราคา ฿23,400
  • 256GB ราคา ฿28,900

หน้าการสั่งซื้อออนไลน์ : iPad mini รุ่นที่ 6

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : apple.com

สำหรับวันจำหน่ายและวันเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้านั้น Apple ยังไม่ประกาศ จะมาอัปเดตให้ทราบภายหลังค่ะ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University