in ,

รีวิว iPad mini รุ่นที่ 6 พลังใหญ่ ในร่างเล็ก

ตื่นเต้นกว่าที่เคย การกลับมาของ iPad mini 6 เปลี่ยนดีไซน์ใหม่ พร้อมกับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น จะเป็นยังไงบ้างเดี๋ยวไปรับชมกันค่ะ!

iPad mini รุ่นที่ 6 เล็ก แต่ทรงพลัง

หลังจากที่ iPad mini รุ่นที่ 5 เปิดตัวล่าสุดไปเมื่อปี 2019 เป็นเวลากว่า 2 ปี 6 เดือน ที่หลายๆคน รอการเปิดตัวรุ่นใหม่ วันนี้ iPad mini รุ่นที่ 6 มาแล้ว พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่หลายคนต้องว้าวให้กับ iPad mini รุ่นที่ 6 ตัวนี้ ด้วยขนาดที่เล็ก พกพาง่าย และประสิทธิภาพดีขึ้น

กล่อง iPad mini รุ่นที่ 6

iPad mini รุ่นที่ 6 มาพร้องกล่องสีขาวสะอาดตา ตามดีไซน์ของ Apple พร้อมกับรองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 และอุปกรณ์เสริม Smart Folio สีใหม่

อุปกรณ์ภายในกล่อง

อุปกรณ์ภายในกล่องของ iPad mini รุ่นที่ 6 มีดังนี้

  • ตัวเครื่อง iPad mini รุ่นที่ 6
  • สาย USB-C to USB-C
  • อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ USB-C ขนาด 20W
  • เอกสารประกอบการใช้งาน

ดีไซน์

  • มาพร้อมสีใหม่ เทาสเปซเกรย์, ชมพู, ม่วง, สตาร์ไลท์

  • iPad mini รุ่นที่ 6 มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ใหม่ ตัดปุ่มโฮมออก ขอบบางลง ใช้ดีไซน์แบบ iPad Air 4 มาพร้อมกับหน้าจอ Liquid Retina ขนาด 8.3″ พื้นที่แสดงผลที่ใหญ่ขึ้น ความละเอียด 2266 x 1488 ที่ 326 ppi ความสว่างสูงสุด 500 นิต ขอบเขตสีกว้างแบบ P3

  • พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone เป็นโหมดการปรับสีของจอภาพให้เข้ากับแสงโดยอัตโนมัติ และปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยสีของจอภาพจะมีความเป็นโทนอุ่นมากขึ้น เพื่อถนอมสายตาของผู้ใช้งาน แต่ถ้าหากเราไม่ชอบ ก็สามารถปิดการใช้งานได้เช่นกันค่ะ

  • รองรับการเชื่อมต่อ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ที่ยึดติดกับตัวเครื่องด้วยแม่เหล็ก ทำให้พกพาสะดวก ไม่ว่าจะไปที่ไหน ปากกาก็จะอยู่กับเราไปด้วยตลอด และสนุกกับการวาดรูปบน iPad mini รุ่นที่ 6 เหมือนเราพกสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆ พอไอเดียผุดขึ้นมา ก็แค่ยก iPad mini รุ่นที่ 6 ขึ้นมาจดได้ทันที

  • และได้ย้ายปุ่ม Touch ID และปุ่มเพิ่ม-ลด เสียง มาไว้ด้านบนของตัวเครื่อง ซึ่งปกติปุ่มเพิ่ม-ลด เสียงจะอยู่ที่ด้านข้างตัวเครื่อง แต่เพราะ iPad mini รุ่นที่ 6 รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 จึงต้องย้ายปุ่มมาไว้ที่ด้านบนแทน ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Apple ที่มีดีไซน์แบบนี้ เวลาจะแคปภาพหน้าจอ อาจจะมีความลำบากนิดนึง เพราะองศาของมือ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหากับการใช้งานแต่อย่างใด

  • มาพร้อมลำโพง Stereo 2 ตัว ที่ด้านบน 1 ตัว และด้านล่าง 1 ตัว แต่มีช่องลำโพงทั้งหมด 4 ช่อง ทำให้เวลารับชมในแนวนอน จะได้เสียงที่ออกจากด้านข้างทั้ง 2 ด้าน มีความสมดุล และพลังเสียงที่ดังขึ้น ถึงแม้ตัวเครื่องจะขนาดเล็ก

  • และด้วยตัวเครื่องที่แบน และด้านหลังของตัวเครื่องมีโครงสร้างของแม่เหล็กอยู่ในภายใน ทำให้สามารถใช้เคสแบบ Smart Folio ได้ ซึ่งจะเป็นแบบดูดติดกับตัวเครื่อง ทำให้พกพาสะดวก และมีน้ำหนักเบากว่าการใส่เคสแบบสวม

ชิปประมวลผล A15 Bionic พร้อม Neural Engine

มาพร้อมกับชิปประมวลผล A15 ที่เหมือนกับใน iPhone 13 ที่ทรงพลัง และประสิทธิภาพดีขึ้น CPU ที่
เร็วขึ้นสูงสุด 40% และมาพร้อม Apple Neural Engine ที่มีความสามารถด้านการเรียนรู้ระบบเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า

  • CPU 6-core ประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 40%
  • GPU 5-core กราฟิกเร็วขึ้นสูงสุด 80%
  • RAM 4GB (ข้อมูลจากแอป Geekbench 5)

การเชื่อมต่อ 

  • เชื่อมต่อที่เร็วขึ้นกว่าเดิม ทำให้เชื่อมต่อเครือข่ายได้ไวขึ้น ด้วยการรองรับสัญญาณ Wi-Fi 6 ทั้ง 2.4GHz และ 5GHz และเชื่อมต่อสัญญาณ 5G

  • เชื่อมต่อ และชาร์จ ด้วยพอร์ต USB-C ทำให้เราสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมภายนอกได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะกับจอคอมพิวเตอร์ กับจอยเกม หรืออุปกรณ์ทำเพลง ก็ทำให้ไอเดียของเราไม่สะดุด ตอนนี้ iPad mini รุ่นที่ 6 ก็แทบจะเป็นเหมือนคอมพิวเตอร์ฉบับพกพาได้เลย

กล้อง

  • กล้องหน้าอัลตร้าไวด์ ความละเอียด 12 MP, รูรับแสงขนาด ƒ/2.4, ซูมออก 2 เท่า บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p สูงสูด 60 fps และมาพร้อมกับ Center Stage คุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง” ซึ่งจะมีแค่ใน iPad Pro M1, iPad รุ่นที่ 9 และ iPad mini รุ่นที่ 6

  • กล้องหลังไวด์ ความละเอียด 12 MP, รูรับแสงขนาด ƒ/1.8, HDR อัจฉริยะ 3 สำหรับภาพถ่ายทำให้บันทึกภาพคุณภาพสูงยิ่งขึ้น, ซูมดิจิทัลได้สูงสุด 5 เท่า และมาพร้อมกับ Flash แบบ True Tone ทำให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้นในสภาวะที่แสงน้อย และนอกจากนี้ กล้องหลังยังสามารถสแกนเอกสาร ได้ และบันทึกวิดีโอระดับ 4K สูงสุดที่ 60 fps

 

iPadOS 15

มาพร้อมกับ iPadOS 15 ซอฟต์แวร์ที่ปล่อยออกมาใหม่ และด้วยคุณสมบัติใหม่ใน iPadOS 15 นี้ ก็ทำให้ iPad mini รุ่นที่ 6 ฉลาด และทรงพลังมากขึ้น ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้การใช้งานบน iPad mini รุ่นที่ 6 มีประสิทธิภาพ อย่างเช่น

  • Widgets จัดหน้าแอป ให้สวยงามขึ้น ตามแบบที่เราชอบ

  • Multitasking การทำงานหลาย ๆ แอปพร้อมกัน ไม่ว่าจะดูยูทูป หรือจดสรุป ก็สามารถทำได้พร้อม ๆ กันเลย

  • Quick Note หากเราต้องรีบจดข้อความ หรือมีไอเดียผุดขึ้นมา แค่ปัดหน้าจอจากขวาล่าง ก็สามารถเข้าถึง Quick Note ได้อย่างรวดเร็ว

Jelly Scrolling

มีผู้ใช้งานพบปัญหา เลื่อนหน้าจอในแนวตั้งแล้วหน้าจอเด้งเหมือนเจลลี่(Jelly scrolling) คือเนื้อหาด้านซ้ายและด้านขวา ขึ้นลงเร็วไม่เท่ากัน ทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวลถึงการใช้งานว่า จะเป็นปัญหาในระยะยาวไหม หรือจะมีผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันไหม ปัญหาที่เจอนั้นอาจมาจากการวางแผงวงจร (บอร์ด) ที่แนบด้านข้างแนวตั้งของจอ และหลังจากทดลองใช้แล้วพบว่า มีปัญหาจริงแต่ไม่ถึงกับรบกวนสายตา จนทำให้ใช้งานไม่ได้เลย และหากเราไม่สังเกตก็จะไม่รู้สึกถึงปัญหานี้ ส่วนการใช้งานในแนวนอนนั้น ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด และสามารถใช้งานได้ปกติ

สรุปทำไม iPad mini รุ่นที่ 6 ถึงน่าซื้อ

  • ปรับดีไซน์ใหม่ ตัวเครื่องแบบเหลี่ยม ไร้ปุ่มโฮม ขอบบางลง
  • มาพร้อมกับชิป A15 เร็วแรง ทรงพลัง
  • ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก เล่นเกม อ่านบทความก็เหมาะมือ
  • กล้องที่ดีขึ้น พร้อมคุณสมบัติ “จัดให้อยู่ตรงกลาง”
  • การเชื่อมที่เร็วเเรง Wi-Fi 6 และสัญญาณ 5G
  • รองรับพอร์ต USB-C
  • รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2

ซื้อ iPad mini รุ่นที่ 6 ที่ไหนดี

  • Apple Store Online ประเทศไทย
  • Apple Iconsiam, Apple Central World กรุงเทพฯ
  • ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ทั้งช่องทางออนไลน์หรือสาขาใกล้บ้าน เช่น Studio 7, BaNANA

ราคาและรุ่นที่วางจำหน่าย

  • iPad mini รุ่นที่ 6 Wi-Fi ความจุ 64GB ราคา 17,900 บาท
  • iPad mini รุ่นที่ 6 Wi-Fi ความจุ 256GB ราคา 23,400 บาท
  • iPad mini รุ่นที่ 6 Wi-Fi + Cellular ความจุ 64GB ราคา 23,400 บาท
  • iPad mini รุ่นที่ 6 Wi-Fi + Cellular ความจุ 356GB ราคา 28,900 บาท

ชมวิดีโอรีวิว iPad mini รุ่นที่ 6

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย iMod Crew