in

สิ่งที่คาดว่าจะได้เห็นในงาน Apple Event ‘Peek performance’ 9 มีนาคมนี้

เตรียมตัวเข้าสู่งาน Apple Event ‘Peek performance’ ในคืนวันที่ 8 เข้าสู่วันที่ 9 มีนาคมนี้ เรามาชมคาดการณ์กันก่อนว่าจะมีสิ่งใหม่อะไรที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานนี้บ้าง

สิ่งที่คาดว่าจะได้เห็นในงาน Apple Event ‘Peek performance’ 9 มีนาคมนี้

iPhone 13 สีเขียวใหม่

ข่าวลือโค้งสุดท้ายระบุว่า  Apple อาจเปิดตัว iPhone 13 สีใหม่ “สีเขียว” ในงานนี้ด้วย คล้ายกับการเปิดตัว iPhone 12 สีม่วง ในงาน Apple Event ‘Spring Loaded’ ปี 2021 ที่ผ่านมา

iPhone SE รุ่นที่ 3

iPhone SE รุ่นที่ 3 ปี 2022 นี้ คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ ตัวเครื่องยังคงเหมือนกับ iPhone SE รุ่นที่ 2 (ปี 2020) มีหน้าจอ LCD ขนาด 4.7 นิ้วและมีปุ่มโฮมที่รองรับ Touch ID แต่เพิ่มคุณสมบัติใหม่ที่สำคัญคือ รองรับ 5G ให้การเชื่อมต่อที่เร็วขึ้น

iPhone SE รุ่นใหม่นี้ ยังคงรองรับการชาร์จไร้สายแบบ Qi แต่ยังไม่รองรับการชาร์​จ MagSafe คาดว่าจะมีการอัปเดตสเปคให้ดีขึ้น โดยใช้ชิปประมวลผล A15 Bionic เหมือนกับ iPhone 13 คาดว่าความจุ 64GB, 128GB และ 256GB ให้เลือก และอาจมีการปรับปรุงกล้อง โดยใช้กล้อง Wide เหมือนกับ iPhone 13

iPhone SE รุ่นที่ 2 ที่วางขายในปัจจุบันมี 3 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว และสีแดง PRODUCT(RED) ในปีนี้ก็อาจจะยังใช้สีเติม ส่วนราคานั้นคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 14,900 บาท เป็น iPhone 5G ที่มีราคาย่อมเยาที่สุด

iPad Air รุ่นที่ 5

iPad Air รุ่นที่ 5 ปี 2022 นี้ก็คาดว่าจะใช้ดีไซน์เดิมเหมือนกับ iPad Air 4 หน้าจอแบบเหลี่ยมและมี Touch ID ที่ปุ่มด้านบน แต่เพิ่มการรองรับ 5G ที่ทำให้การเชื่อมต่อเร็วขึ้น แต่อาจจะเป็นเครื่องข่าย sub-6GHz 5G เหมือนกับ iPad mini รุ่นที่ 6

iPad Air รุ่นที่ 5 เน้นการปรับสเปคภายในเป็นส่วนใหญ่ โดยอัปเกรดใช้ชิปประมวลผลเป็น A15 Bionic ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ข่าวลือล่าสุดระบุว่า iPad Air 5 อาจมาพร้อมชิป M1 เหมือน iPad Pro ส่วนกล้องหน้าเป็นแบบอัลตร้าไวด์ (Ultra Wide) ความละเอียด 12 MP ทำงานคุณสมบัติ Center Stage ได้ ที่ปรับให้ผู้คนอยู่ตรงกลางของหน้าจอขณะ FaceTime หรือวิดีโอคอลอยู่ ส่วนกล้องหลังยังคงเป็นกล้องเดี่ยวและใช้พอร์ต USB-C เหมือนเดิม

ตัวเลือกสีของ iPad Air 5 มีความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นสีใหม่อย่าง สีม่วง และราคาเริ่มต้นก็อาจจะเท่าเดิมที่ 19,900 บาท สำหรับความจุเริ่มต้น 64GB

Mac Mini รุ่นสเปคสูง

ปี 2020 ทาง Apple ได้เปิดตัว Mac mini รุ่นทั่วไปที่มาพร้อมกับชิป M1 และในปี 2022 นี้ คาดว่าจะถึงเวลาของการอัปเกรด Mac mini รุ่นสเปคสูงบ้าง (อัปเกรดล่าสุดในปี 2018) โดยครั้งนี้ คาดว่าจะใช้ชิประดับโปรอย่าง M1 Pro และ M1 Max

ชิป M1 Pro มี GPU 16-core และ 14-core ใน MacBook Pro 14 นิ้วรุ่นเริ่มต้น ส่วนชิป M1 Max มี GPU 23-core และมีตัวเลือก 24-core ที่ต้องสั่งผลิต ซึ่งคาดว่าจะถูกนำมาใช้ใน Mac mini รุ่นสเปคสูงรุ่นใหม่นี้

ชิป M1 Pro นั้น รองรับ RAM สูงสด 32GB และชิป M1 Max รองรับ RAM สูงสุดถึง 64GB ซึ่ง Mac mini ชิป M1 รุ่นทั่วไปนั้นรองรับ RAM สูงสุดที่ 16GB เท่านั้น

ด้านการออกแบบภายนอก มีข่าวลือระบุว่า Mac mini รุ่นสเปคสูงมาพร้อมเคสที่มีขนาดเล็กลง ด้านบนเป็นวัสดุกระจกใส ตัวเครื่องใช้สีแบบทูโทน มีตัวเลือกสีเพิ่มมากขึ้นคล้ายกับ iMac 24 นิ้ว

พอร์ตของ Mac mini รุ่นใหม่คาดว่าจะมีพอร์ต Tuhunderbolt จำนวน 4 พอร์ต, พอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต, พอร์ต Ethernet จำนวน 1 พอร์ต และ HDMI 1 พอร์ต พร้อมสายชาร์จแบบแม่เหล็กหมือนกับที่ใช้บน iMac 24 นิ้ว

หน้าจอเสริมใหม่

Apple อาจเปิดตัวหน้าจอเสริมตัวใหม่พร้อมกับ Mac mini รุ่นสเปคสูง ชิป M1 Pro, M1 Max ในงาน Event “Peek performance” นี้ ข่าวลือระบุว่าหน้าจอเสริมตัวใหม่มาพร้อมชิป A13 Bionic ความละเอียด 7K แต่ไม่มีข้อมูลว่าจะเป็นจอขนาด 24″ 27″ 32″ หรือ 36″

นอกจากนี้ข่าวลือยังระบุว่า ราคาของหน้าจอเสริมใหม่นี้อาจจะถูกกว่า Pro Display XDR เกือบครึ่ง และจะรองรับ Mac รุ่น Apple Silicon ด้วย

Mac Studio

นอกจากจะมีข่าวลือการเปิดตัว Mac mini และหน้าจอใหม่แล้ว เป็นไปได้ว่า Apple อาจเปิดตัว Mac Studio ที่เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะลูกผสมระหว่าง Mac Pro และ Mac mini มีรูปทรงคล้าย Mac mini แต่มีความสูงกว่ามาก ด้านล่างมีช่องสำหรับระบายอากาศ

MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นชิป M2

สำหรับ MacBook ก็มีข่าวลือมาให้ได้ลุ้นกันนิดหน่อยว่า Apple อาจเปิดตัว MacBook Pro รุ่น 13 นิ้วรุ่นรีเฟรชจาก MacBook Pro 13 นิ้ว ชิป M1 (2020) คาดว่าจะใช้ชิปประมวลผล M2

โดยดีไซน์ภายนอกยังคงเหมือน MacBook Pro 13 นิ้ว ชิป M1 ทั้งหมด ไม่มีรอยบากเหมือนกับ MacBook Pro 14 นิ้วและ 16 นิ้ว รุ่นรีเฟรชใหม่นี้ Apple อาจจะถอด Touch Bar ออก แต่ข่าวลือบางแห่งระบุว่ายังคงมี Touch Bar อยู่

ส่วนหน้าจอนั้นน่าจะไม่ใช้หน้าจอ mini-LED และไม่รองรับ ProMotion 120Hz เนื่องจากเป็น MacBook รุ่นเริ่มต้น ซึ่งการรีเฟรชนี้จะเน้นการอัปเกรดสเปคที่ใช้ชิป M2 มี CPU 8-core ปรับปรุงด้านความเร็วและประสิทธิภาพให้ดีขึ้น ส่วน GPU คาดว่าจะมีตัวเลือก GPU 9-core และ 10-core เพิ่มเข้ามา

iMac 27 นิ้ว

ไม่แน่ว่างานนี้เราอาจจะได้เห็น iMac 27 นื้วเปิดตัวในงานนี้ด้วย เป็นรุ่นอัปเกรดสเปค มีหน้าจอขนาด 27 นิ้วและใช้ชิปประมวลผล M1 Pro หรือ M1 Max

อุปกรณ์เสริมสีใหม่

แน่นอนว่า งานอีเวนท์ช่วงต้นปี Apple มักจะเปิดตัวอุปกรณ์สีใหม่ในคอลเลคชันต้อนรับฤดูใบไม้ผลิที่มีสีสันสดใส ก่อนหน้านี้ก็มีภาพหลุดเคสซิลิโคน iPhone 13 MagSafe สีใหม่ ได้แก่ สีเหลือง สีเขียวเข้ม สีส้ม และสีม่วงน้ำเงิน (อาจะเรียกว่าสี Abyss Blue) มาให้เห็นกัน

เป็นไปได้ว่าในงานนี้ เราจะได้เห็นเคส iPhone, สาย Apple Watch, เคส iPad และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่เปิดตัวมาใหม่

ประกาศวันปล่อยอัปเดต iOS 15.4, iPadOS 15.4 และ macOS Monterey

Apple ได้ปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ iOS 15.4, iPadOS 15.4 และ macOS Monterey รุ่น Beta มาให้นักพัฒนาและผู้ใช้ทั่วไปได้ทดสอบกันมาหลายเวอร์ชันแล้ว คาดว่าในงานอีเวนท์​ Apple อาจจะประกาศวันปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์ให้ทุกคนได้ทราบหรืออาจจะปล่อยอัปเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันทางการเลยก็ได้

iOS 15.4 นั้นเป็นการอัปเดตครั้งใหญ่ ที่รองรับการสแกน Face ID ขณะสวมหน้ากากสำหรับ iPhone 12 หรือรุ่นที่ใหม่กว่า รวมถึงเพิ่มอิโมจิใหม่มากมาย, ฟีเจอร์ Tap to Pay, เพิ่มเสียง Siri และอัปเดตความปลอดภัยให้กับ AirTag ด้านการติดตามที่ไม่พึงประสงค์

ส่วน macOS Monterey 12.3 และ iPadOS 15.4 นั้นได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Universal Control ที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้ควบคุม Mac และ iPad พร้อม ๆ กัน โดยควบคุมจากเมาส์และคีย์บอร์ดเพียงตัวเดียวได้ ผู้ใช้หลายคนต้องรอที่จะใช้ฟีเจอร์นี้กันอย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่คาดว่าจะได้เห็นในงาน Apple Event ‘Peek performance’ ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 9 มี.ค. 2022 เวลา 1.00 เป็นต้นไป เรามาลุ้นไปพร้อม ๆ กันว่าในงานนี้จะมีอะไรเปิดตัวใหม่บ้าง

รับชมการถ่ายทอดสดกับ iMoD

รับชมผ่านการ LIVE สดที่ Facebook Page: iMoD คืนวันที่ 8 เข้าสู่วันที่ 9 มี.ค. 2022 เวลา 00.30 เป็นต้นไป ตามเวลาประเทศไทย และติดตามข่าวสารอัปเดตได้ที่เว็บไซต์ iPhonemod.net

ที่มา MacRumors

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University