in , ,

ระบบ GPS ความถี่คู่ L1 และ L5 ที่มาพร้อม Apple Watch Ultra คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

Apple ได้พูดถึงระบบ GPS ความถี่คู่ที่ถูกใส่เข้ามาบน iPhone 14 และ Apple Watch Ultra ในช่วงที่เปิดตัวสินค้าใหม่ปลายปีที่ผ่านมา หลายคนอาจจะไม่ได้ให้ความสนใจในเรื่องนี้กันมากนัก แต่สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลอยู่ เรามาชมกันว่าระบบ GPS 2 ความถี่ L1 และ L5 นี้คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

ระบบ GPS ความถี่คู่ L1 และ L5 ที่มาพร้อม Apple Watch Ultra คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

GPS (Global Positioning System) เป็นระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่ใช้งานทั้งการทหารและสำหรับคนทั่วไป ซึ่งดาวเทียม GPS จะส่งสัญญาณหลายย่านความถี่มา แต่หลัก ๆ ย่านความถี่ที่เราใช้งานกันก็คือ ย่านความถี่ L1 ซึ่งเป็นสัญญาณ GPS ที่ใช้กันมานานหลายปี มีความน่าเชื่อถือและมีความแม่นยำสูง สามารถใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์

แต่ถึงแม้ว่าย่านความถี่ L1 จะมีความแม่นยำสูง แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่ คือ การส่งสัญญาณผ่านสิ่งกีดขวางไม่เต็มประสิทธิภาพมากนัก เช่น เมฆหนาบดบัง อาคารตึกสูง ต้นไม้ใหญ่ที่มีใบหน้าหนาทึบ ก็อาจจะส่งผลให้สัญญาณอ่อนลงได้ รวมถึงการสะท้อนของสัญญาณกับผนังก็อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดขึ้นได้

จึงเป็นที่มาของย่านความถี่ L5 ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนต่าง ๆ ของย่านความถี่ L1 ทำงานด้วยความถี่ที่เร็วกว่า มีแบนด์วิธสูงกว่า เพิ่มประสิทธิภาพในการประมวลผลสัญญาณที่ดีขึ้น ลดข้อผิดพลาดให้น้อยลง

ดังนั้นเมื่อ Apple รวม GPS แบบสองคลื่นความถี่ที่แม่นยำ ที่มีทั้ง L1 และ L5 ให้มาทำงานร่วมกัน ซึ่งถูกใส่มาใน iPhone 14 และ Apple Watch Ultra แน่นอนว่าการให้ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งจะแม่นยำมากขึ้นมากว่าเดิม มีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งที่มีสิ่งกีดขวางค่อนข้างเยอะ ดาวเทียมก็ยังสามารถส่งสัญญาณและระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำกว่าอุปกรณ์ที่มีเฉพาะระบบ GPS ย่านความถี่ L1

ประโยชน์หลัก ๆ ของระบบ GPS สองความถี่หลัก ๆ ก็คือ ให้ความแม่นยำในการระบุตำแหน่งที่ตั้งนั่นเอง ซึ่งส่งผลให้การนำข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งไปใช้คำนวนข้อมูลอื่นแม่นยำขึ้นด้วย

ระบบ GPS ความถี่คู่ L1 และ L5 เหมาะกับใคร

สำหรับคนส่วนใหญ่ อุปกรณ์ระบบ GPS ย่านความถี่ L1 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว เนื่องจากมีความแม่นยำในสภาวะปกติสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป

แต่ถ้าหากเราเป็นคนที่ต้องเดินทางไกล เป็นนักผจญภัย นักกีฬาที่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับความแม่นยำของตำแหน่งที่ตั้ง แน่นอนว่าการมีอุปกรณ์ที่ใช้ระบบ GPS ความถี่คู่ที่แม่นยำอย่าง Apple Watch Ultra เป็นสิ่งที่จำเป็น

อย่างเช่น เวลาที่แข่งขันกีฬา ประเภทการวิ่งหรือปั่นจักรยาน ระบบสองคลื่นความถี่จะนำข้อมูลถนนจากแผนที่ Apple Maps มาช่วยระบุตำแหน่งจริงได้ตรงและแม่นยำมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะแข่งขันในที่ที่มีตึกรายล้อมหรืออยู่กลางหุบเขา ข้อมูลเส้นทางที่ได้ก็มีความแม่นยำ เมื่อได้ข้อมูลการวัดเส้นทางมีความแม่นยำ ก็ส่งผลให้ข้อมูลอื่น ๆ แม่นยำมากขึ้นด้วย เช่น การคำนวณแคลอรี่ ค่าเวลาเฉลี่ย ตัวชี้วัดอื่น ๆ

สำหรับคนที่เป็นนักผจญภัย เดินป่า เดินเขา ก็สามารถใช้ประโยชน์จากการนำทางด้วยเข็มทิศ (Compass) ที่บอกทิศและติดตามเส้นทางได้อย่างแม่นยำ ช่วยป้องกันการหลงทางได้

ชมรีวิว Apple Watch Ultra

วิธีทำให้ Apple Watch ระบุตำแหน่งที่ตั้งแม่นยำมากขึ้น

หลังจากที่เราจะได้ทำความรู้จักเกี่ยวกับระบบ GPS สองคลื่นความถี่กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่าการมีย่านความถี่ L5 เพิ่มเข้ามานั้นทำให้อุปกรณ์มีความสามารถในการระบุตำแหน่งที่ตั้งแม่นยำมากขึ้น

แต่เมื่อเราใช้งานอุปกรณ์เป็นเวลานาน ๆ หรือมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัวอย่างน้ำหนัก ที่อาจจะส่งผลต่อความแม่นยำของระบบ GPS เราควรจะทำการปรับเทียบ Apple Watch เพื่อปรับปรุงความแม่นยำในการวัดการออกกำลังกายและกิจกรรมให้มากขึ้น ชมขั้นตอนด้านล่างได้เลย

ก่อนจะเริ่มปรับเทียบ แนะนำว่าให้เราอัปเดตรายละเอียดส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก ส่วนสูง อายุ ให้ตรงกับความเป็นจริงในแอปสุขภาพ (Health)ให้เรียบร้อย

1. ตรวจสอบการตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้งบน iPhone

ไปที่การตั้งค่า (Settings) > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Pravacy & Security) > เปิดบริการหาตำแหน่งที่ตั้ง (Location Service)

เลื่อนลงด้านล่าง บริการระบบ (System Service) > เปิด ปรับเทียบการเคลื่อนไหวและระยะทาง (Motion Calibration & Distance)

2. รีเซ็ตการปรับเทียบ

ไปที่แอป Watch บน iPhone > ความเป็นส่วนตัว (Privacy) > รีเซ็ตข้อมูลการปรับเทียบความแม่นยำ (Reset Fitness Calibration Data)

3. ปรับเทียบ Apple Watch

ให้ไปที่พื้นที่ราบกลางแจ้งที่มีการรับสัญญาณ GPS ได้เป็นอย่างดีและท้องฟ้าโปร่ง สวมใส่ Apple Watch ให้เรียบร้อย (สำหรับ Apple Watch Series 1 ต้องพก iPhone ติดตัวไปด้วย) > เปิดแอปออกกำลังกาย แล้วแตะเดินกลางแจ้งหรือวิ่งกลางแจ้ง จากนั้นก็เดินหรือวิ่งเป็นเวลา 20 นาที

เราสามารถใช้วิธีวิ่งหรือเดินกลางแจ้งหลาย ๆ ครั้งรวมเป็นเวลา 20 นาทีได้ ถ้าหากมีเวลาออกกำลังกายแต่ครั้งไม่มากพอ ถ้าหากเราวิ่งหรือเดินที่ความเร็วแตกต่างกัน ควรปรับเทียบเป็นเวลา 20 นาทีที่ความเร็วในการเดินหรือวิ่งแต่ละระดับ

Apple Watch จะปรับเทียบอุปกรณ์ โดยเรียนรู้ความยาวในการก้าวเท้าที่ระดับความเร็วต่าง ๆ การปรับเทียบยังช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการคำนวณแคลอรี่ในแอปออกกำลังกาย (Workout) รวมถึงการคำนวณแคลอรี่ ระยะทาง การเคลื่อนไหว และการออกกำลังกายในแอปกิจกรรม (Activity) ด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่ควรทราบเกี่ยวกับระบบ GPS สองคลื่นความถี่ที่แม่นยำที่มีใน Apple Watch Ultra และ iPhone 14 ที่ช่วยให้การระบุตำแหน่งแม่นยำมากขึ้น สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลและพิจารณาเรื่องนี้อยู่ ก็สามารถนำข้อมูลไปประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ Apple Watch Ultra ได้

ที่มา Apple

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University