in , ,

ถ้านำ NAS มาใช้ในบ้านเป็นคลาวด์ส่วนตัว จะทำอะไรได้บ้าง คนในครอบครัวจะใช้ด้วยได้ไหม

หลายคนพอเริ่มที่จะรู้จัก NAS หรือว่า Network Attached Storage ซึ่งผมเคยรีวิวให้ชมไปบ้างแล้ว ครั้งนี้มีคำถามหนึ่งที่มีการสอบถามเข้ามาว่า NAS นอกจากใช้เก็บไฟล์งานแล้วเราทำประโยชน์อย่างอื่นได้ไหมและถ้ามีสมาชิกในบ้านหลายคนจะใช้ด้วยกันได้หรือเปล่า ปลอดภัยไหมและแชร์ให้คนอื่น ๆ ได้หรือไม่? บทความนี้จะมาเล่าให้ฟังครับ

ถ้านำ NAS มาใช้ในบ้านเป็นคลาวด์ส่วนตัว จะทำอะไรได้บ้าง คนในครอบครัวจะใช้ด้วยได้ไหม

DS220+

เกริ่นกันก่อนนะว่าในทุกวันนี้ การสำรองข้อมูลถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะไม่ใช่เพียงการสำรองข้อมูลไฟล์งานเท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ของตัวเองหรือคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น รูปถ่าย วิดีโอ ที่บันทึกเรื่องราวความทรงจำเราต่าง ๆ หรือจะเป็นไฟล์มัลติมีเดีย อย่างไฟล์เพลง ไฟล์ภาพยนตร์ ซึ่งในปกติแล้วเรามักจะสำรองข้อมูลผ่านระบบคลาวด์สาธารณะซึ่งมีค่าการสมัครใช้งานรายเดือนที่สูงหากต้องการใช้พื้นที่เยอะ หรือ สำรองผ่าน External Hard Drive ที่ต้องพกไปไหนมาไหนทุกครั้ง และสามารถเข้าถึงได้เพียงแค่ผู้ใช้เดียว ซึ่งอาจจะเสียหายจากการตกหล่น ติดไวรัส หรือพังแบบไม่รู้ตัวทำให้ข้อมูลสูญหายได้ ทีมงานจึงมีสิ่งที่จะช่วยตอบโจทย์ในการสำรองข้อมูลและแก้ไขปัญหาข้างต้นได้ดีด้วย NAS

ท้าวความกันสักนิดสำหรับคนที่ไม่รู้ว่า NAS คืออะไร ?

 

NAS ย่อมาจาก Network Attached Storage เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายมี IP Addresss เป็นของตัวเองประหนึ่งว่าเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งที่ทำหน้าที่เก็บข้อมูลเป็นหลักและเราสามารถเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้จากที่ไหนก็ได้บนโลกนี้ เพียงแค่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น

การเข้าถึงข้อมูลที่ว่านั้นทำได้จากทุกอุปกรณ์ไม่จำเป็นว่าต้องผ่านคอมพิวเตอร์ แต่เรายังสามารถใช้เว็บบราวเซอร์หรือแอปบนสมาร์ตโฟน แทปเล็ตก็สามารถจัดเก็บไฟล์ทั้งไฟล์เอกสาร สามารถสำรองข้อมูล แชร์ไฟล์ต่าง ๆ และทำงานร่วมกันได้ รวมไปถึง รูปถ่ายวิดีโอและเพลงยังสามารถสำรองเก็บข้อมูลได้แบบปลอดภัยแถมเป็นส่วนตัว อีกทั้งราคาที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นเหมาะสำหรับการใช้งานส่วนตัวหรือสมาชิกในครอบครัว ใหญ่ไปจนถึงระดับองค์กร

ใช้ NAS ดียังไง ?

เล่าจากประสบการณ์ใช้งานจริงที่ได้ใช้ NAS มานะครับ หลัก ๆ ผมใช้งาน NAS จาก Synology ตั้งแต่ยุคแรก ๆ และได้เห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เข้ามาค่อนข้างเยอะเลย สิ่งที่ผมได้ประโยชน์จาก NAS ผมขอแบ่งการใช้งานเป็น 3 กลุ่มคือ ส่วนตัว, ครอบครัวและองค์กรที่ใช้สำหรับการทำงาน

1. สำหรับใช้ส่วนตัวคนเดียว

Synology Photos สำรองรูปและวิดีโอจาก iPhone, iPad

เน้นนำมาเก็บรูปภาพและวิดีโอเป็นส่วนใหญ่ด้วยความที่เป็นคนชอบถ่ายภาพเวลาเดินทางไปท่องเที่ยวและในยุคที่สมาร์ตโฟนถ่ายวิดีโอได้สะดวกมากขึ้นเราก็มักจะถ่ายเก็บไว้เมื่อพื้นที่ในมือถือใกล้เต็มเราก็โอนถ่ายรูปเหล่านั้นมาเก็บไว้ที่ NAS ได้และเข้าถึงจากที่ไหนก็ได้ด้วยแอป Synology Photos ซึ่ง ณ​ ปัจจุบันแอปได้อัปเดตไปมาก ฟีเจอร์หลากหลายคล้ายคลึงกับฝั่ง Google Photos ที่หลายคนอาจจะรู้จัก ซึ่งถือว่าตอบโจทย์มากเพราะพื้นที่เราใช้งานได้ไม่จำกัดตามที่เราต้องการขยายพื้นที่เก็บข้อมูล

Synology Photos เข้าใช้งานได้หลากหลายอุปกรณ์

2. สำหรับใช้ในครอบครัว

DS Video รับชมเนื้อหาวิดีโอจาก Video Station บน NAS

ครอบครัวเราอาจจะมีสมาชิกหลายคนอย่าง เช่น 3-5 คน ทั้งพ่อแม่ พี่น้องหรือจริง ๆ แล้วสามารถใช้งานกับเพื่อน ๆ ของเราก็ได้ เพราะทุกคนต่างมีสมาร์ตโฟน แทปเล็ตเป็นของตนเองและมีข้อมูลในนั้น แน่นอนว่า Synology NAS รองรับการทำงานร่วมกันแบบหลายผู้ใช้ เราเพียงสร้างบัญชีให้กับแต่ละคนเพื่อเข้าใช้งานแอปต่าง ๆ ซึ่งใน Synology NAS นั้นมีแอปที่ดีและฟรีหลายตัว

DS Video บน Apple TV

ไม่ว่าจะเป็น ระบบมัลติมีเดียในครอบครัว, การจัดการไฟล์, การเก็บข้อมูลของกล้องวงจรปิด ฯลฯ เหล่านี้ทำได้หมดด้วย NAS ตัวเดียว ยกตัวอย่างเช่น

หน้าโฮมของ DSM 7
  • Video Station – สำหรับเก็บไฟล์วิดีโอต่าง ๆ ไว้ที่ NAS และเปิดดูผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ ทั้ง สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ หรือแม้กระทั่ง Apple TV ที่เชื่อมต่อเครือข่ายในบ้านเรา ทำให้เรารับชมวิดีโอเหล่านั้นได้โดยง่ายจากทุกที่ผ่านแอป DS Video
  • Audio Station – นำไฟล์เพลงหรือไฟล์เสียงต่าง ๆ มาเก็บไว้ที่ NAS และเปิดฟังผ่านสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพลย์ลิสต์, การฟังเสียงเพลงคุณภาพสูงก็ทำได้เช่นกันด้วยแอป DS Audio
  • Surveillance Station – ระบบจัดเก็บไฟล์และดูภาพกล้องวงจรปิดที่ใช้งานร่วมกับกล้องยี่ห้อต่าง ๆ บันทึกเหตุการณ์สำคัญ และแจ้งเตือนผ่านแอปบนมือถือในยามฉุกเฉินได้ผ่านแอป DS Cam
  • Download Station – เครื่องมือช่วยดาวน์โหลดไฟล์ถ้าไม่ต้องการเปิดคอมพิวเตอร์ทิ้งไว้ก็สามารถให้ NAS ดาวน์โหลดแทนได้ง่ายสบายหายห่วงผ่านแอป DS Get* หรือจากหน้าเว็บบราวเซอร์ของอุปกรณ์ใด ๆ ก็ได้เช่นกัน

เห็นไหมว่า NAS ตัวเดียวเราใช้ได้หลายคนและมีแอปต่าง ๆ ให้ใช้งานมากมาย ทั้งให้ความบันเทิงและใช้เพื่อทำงานก็ยังได้

*DS Get รองรับเฉพาะ Android

3. สำหรับองค์กร

การใช้งานร่วมกันในองค์กร

ต้องยอมรับเลยว่าถ้าไม่มี NAS วันนี้พนักงาน iMoD จะทำงานเกี่ยวกับการจัดการไฟล์ได้ไม่สะดวกเท่านี้มาก่อน ด้วยความที่ต้องจัดการกับไฟล์เยอะและใหญ่มาก ทั้งจากฝ่ายผลิตเนื้อหา ฝ่ายกราฟิกและฝ่ายวิดีโอ ที่ทีมเราอัปเกรดคุณภาพของวิดีโอให้อยู่ที่ 4K ซึ่งหมายถึงการจัดเก็บไฟล์จำนวนหลาย Terabyte (TB)

DS1621+

Synology NAS ของเราอัปเกรด LAN Card ให้เป็น 10Gbps วางบน Network Core Switch 10Gbps นั่นหมายถึง เราสามารถโอนถ่ายข้อมูลจากคอมพิวเตอร์กับ NAS ได้ที่ความเร็วสูงระดับ 5-800MB/s (เมื่อใช้งานกับคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง LAN Card 10Gbps) ซึ่งก็คือการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้จากทุกอุปกรณ์ด้วยความเร็วสูง ดังนั้นข้อมูลจำนวนมากจึงไม่จำเป็นต้องเก็บที่คอมพิวเตอร์ แต่จะเก็บไว้ที่ NAS กลางแทน ทำให้เข้าถึงได้จากทุกคอมพิวเตอร์ในออฟฟิศ ช่วยเพิ่มการทำงานที่สะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่ต้องพก External Hard Drive ให้ยุ่งวุ่นวาย

อัปโหลดรูปภาพจากคอมพิวเตอร์ไปยัง NAS

ไฮไลท์เด็ดที่ผมและทีมงานชื่นชอบมาก ๆ ก็คือ ด้วยแอปพลิเคชัน WebDAV Server และการสำรองข้อมูลและกู้ข้อมูลใน Synology NAS

เริ่มที่ WebDAV ที่ติดตั้งใน Synology NAS ก็ช่วยให้ทีมงานสามารถเข้าถึงไฟล์ใน NAS ซึ่งหากเราทำงานที่บ้าน ในกรณี Work From Home หรือหากเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด แม้กระทั่งต่างประเทศ จุดเด่นหลักคือ

  • ช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงไฟล์ของออฟฟิศผ่านทาง Drive บนคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
  • สามารถ Map Network Drive ได้เลยทั้งฝั่งของ Mac และ Windows
  • ความเร็วในการดาวน์โหลด/อัปโหลดรวดเร็ว

ทีม iMoD ก็ยังสามารถเข้าถึงไฟล์ของออฟฟิศเหล่านี้ได้ด้วยความเร็วสูง ซึ่งสะดวกกว่าการใช้งาน Public Cloud เป็นอย่างมากนั่นเอง สำหรับใครอยากศึกษาข้อมูลของ WebDAV ดูเพิ่มได้ที่นี่ครับ

ส่วนเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลนั้นสามารถทำ RAID หรือการทำสแนปชอตเพื่อกู้คืนข้อมูลแบบย้อนหลังได้หากเกิดเหตุการณ์ Ransomeware ขึ้น หรืออีกเหตุการณ์ที่เจอบ้างคือการลบไฟล์ผิดก็สามารถกู้คืนไฟล์เดิมตามจุดเวลาที่ต้องการได้ และยังมีการตั้งค่าการสำรองข้อมูลไปยังปลายทางอื่น ๆ อย่าง NAS อีกตัวหรือไปบนคลาวด์เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลได้อีกด้วยนะ

เข้าถึงไฟล์บน NAS ได้จากทุกอุปกรณ์และทุกที่ทั่วโลก

นี่ยังไม่รวมถึงแอปพลิเคชันอื่น ๆ สำหรับสายงานธุรกิจที่ทาง Synology ได้เตรียมไว้ให้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเรามีสำนักหลายอยู่หลายสาขา เราสามารถติดตั้ง Sysnology NAS ไว้แต่ละสาขา เพื่อให้พนักงานใช้งานที่นั้น ๆ ได้ และเรายังสามารถสำรองข้อมูลจากแต่ละสาขามาไว้ที่สำนักงานใหญ่ก็ได้  ทำให้ยืดหยุ่นต่อการใช้งานและช่วยขยายธุรกิจได้อีกด้วย

NAS ตัวเดียวใช้งานได้หลากหลายความต้องการ

DS220+

จากจุดนี้ก็คงจะพอเห็นภาพได้ว่า Synology NAS เครื่องเดียวนั้นสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย จะใช้ส่วนตัวก็ได้ใช้กับครอบครัวพร้อมผองเพื่อนก็ดี หรือแม้กระทั่งกับธุรกิจที่เราทำอยู่ ก็ตอบโจทย์ได้เช่นเดียวกัน เป็นการลงทุนครั้งเดียวที่ใช้งานได้อย่างยาว ๆ

ข้อมูลที่อยู่ใน NAS มีความเป็นส่วนตัวสูงและมีความปลอดภัย เพราะมีระบบป้องกันต่าง ๆ เช่น ระบบการเข้าระบบแบบ 2 ชั้น ทำให้มั่นใจได้ว่า เราเท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึง NAS ของเราได้ นอกจากนี้ถ้าหากจะเพิ่มหรือลดพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูล ก็สามารถจัดการตามความต้องการของเราได้เลย

และด้วย DSM 7 หรือตัวระบบ OS ของ Synology ที่เพิ่งอัปเดตมาไม่นานนี้ ได้ปรับปรุงเรื่องหน้าตาของระบบทำให้มีความน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น จุดนี้ถือว่าดีเลย และซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทั้งฝั่งเซิร์ฟเวอร์และฝั่งผู้ใช้งานก็มีการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน ตัวอย่างเช่น แอป Synology Photos เพิ่งออกอัปเดตรองรับการแสดงภาพถ่ายบนแผนที่โลกทำให้เราทราบได้ว่าภาพนี้เราถ่ายจากจุดไหนบนโลกนี้ครับ

อ่านมาใกล้จบบทความแล้วถ้า สนใจอยากจะใช้ Synology NAS ควรจะเลือกรุ่นไหนดี?

ผมแนะนำว่า ถ้ามีงบที่จำกัดและใช้งานไม่เยอะเน้นใช้งานคนเดียวหรือกับครอบครัว ณ ตอนนี้ DS220+ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี  ส่วนถ้าใครมีงบอีกหน่อยและต้องใช้งานกับหลายคนที่แต่ละคนนั้นใช้พื้นที่เยอะ แนะนำว่าให้เลือกรุ่นที่ติดตั้งฮาร์ดดิสได้ 4 ลูกขึ้นไป เช่น DS420+ หรือ DS920+ เป็นต้น

ส่วนใครที่ต้องใช้งานหนัก ๆ ตัวอย่างเช่นออฟฟิศของ iMoD เองก็ใช้รุ่น DS1621+ อยู่ แล้วก็อัปเกรด LAN Card เป็น 10Gbps เองก็ถือว่าตอบโจทย์สำหรับสายงานการผลิตคอนเทนต์ได้ หรือไม่งั้นก็กระโดดไปรุ่น DS2422+ (ขยาย HDD สูงสุดได้ 24 ลูก) หรือ DS3622+ (ขยาย HDD สูงสุดได้ 36 ลูก) ก็ได้เช่นกัน เลือกให้เหมาะสมตามการใช้งานได้เลย

หรือถ้าใครยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกรุ่นไหน ทาง Synology มีหน้าเว็บแนะนำไว้ด้วยนะ ดูได้ที่ https://sy.to/hngsi นะครับ

ส่งท้าย

DS220+

นี่คือประสบการณ์ตรงและการใช้งานจริงหลังจากที่ได้ลองใช้ Synology NAS มาหลายรุ่นและใช้งานแทบทุกวัน ณ ตอนนี้ หากเลือก NAS รุ่นที่ต้องการได้แล้ว ผมขอร้องอย่างหนึ่งว่า ควรซื้อ UPS รุ่นที่มี USB สำหรับการสั่งให้ NAS ปิดเครื่องเองได้หลังจากไฟดับหรือว่าไฟตก เอามาใช้งานคู่กับ NAS ด้วย จะช่วยยืดอายุการใช้งานของ NAS และ Harddisk ให้อยู่กับเราได้นานขึ้นอีก

ส่วนถ้าต้องการความเร็วสูงสุดในการโอนถ่ายข้อมูล ถ้าหากเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์แนะนำให้ต่อผ่านสาย LAN ส่วนถ้าเป็นระบบ Wi-Fi ก็ควรอัปเกรดเร้าเตอร์ส่งสัญญาณให้เป็น Wi-Fi 5 หรือใหม่กว่าขึ้นไป และอย่าลืมเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wi-Fi คลื่น 5GHz ด้วยจะได้ความเร็วที่ดีที่สุดครับ

หวังว่ารีวิวประสบการณ์ฉบับนี้คงช่วยตอบคำถามของใครหลาย ๆ คนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อ NAS มาใช้งานดีหรือไม่ สิ่งที่ผมบอกไว้คือเรื่องจริงที่ได้เจอมา หากมีคำถามอื่นใดที่สงสัยก็ทิ้งไว้ใต้บทความนี้แล้วเดี๋ยวผมจะมาตอบให้นะครับ

ทั้งนี้สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Synology NAS ได้ที่ www.synology.com ส่วนการจัดจำหน่ายนั้น ในประเทศไทยก็มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการหลายเจ้า เราก็เลือกได้เลยตามความสะดวกนะครับ และแนะนำว่าต้องเลือกร้านทีสามารถให้คำปรึกษาหลังการขายกับเราได้ด้วย จะได้สบายใจว่า หลังจากซื้อ NAS ไปแล้วจะใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ผมแนะนำอีกที่คือ BeeNAS ร้านนี้ไว้ใจได้ครับ

ขอบคุณที่อ่านจนจบ

ไว้พบกันในรีวิวฉบับหน้า

ผมต้อม iMoD ขอบคุณและสวัสดีครับ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Attapon Thaphaengphan

ศิษย์เก่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม. ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง iPhoneMod.net ตั้งแต่ปี 2009
อดีต Dell Technical Support รู้จัก ​Apple เพราะ Macbook Pro และใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่น 3G จนถึงปัจจุบัน