แบรนด์ Targus จากอเมริกาซึ่งทางทีมงานเคสได้รีวิวไว้เมื่อปีที่แล้ว รีวิว – เคส iPad2 จาก Targus รุ่น 360 ROTATING STAND วันนี้ Targus ได้กลับมาอีกครั้งหนึ่งพร้อมดีไซน์ใหม่ วัสดุตัวใหม่ เพื่อรองรับ The New iPad และแน่นอนว่ายังสามารถใช้ร่วมกับ iPad 2 ได้อีกด้วย ซึ่งทาง Targus เองได้มาเปิดตัวที่ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในเอเชีย (ถ้าไม่ใช่ที่แรกก็ที่ 2 รองจากญี่ปุ่นนี่แหล่ะ) ซึ่งสังเกตได้ว่าทาง Targus เองให้ความสำคัญกับตลาดในประเทศไทยเอาเสียมาก ๆ ซึ่งแบรนด์ Targus เองก็ถือว่าเป็นแบรนด์เคสแบรนด์หนึ่ง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบพอสมควร โดยเคสรุ่นแรกของ Targus ได้ถือกำเนิดมาราว 25 ปีแล้ว (ตอนนั้นเป็นเคส Notebook) สำหรับสำนักงานใหญ่อยู่ที่อเมริกา และมีตัวแทนจำหน่ายในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก
ดีไซน์กล่องยังมาแบบเรียบ ๆ อยู่เช่นเคย เป็นกล่องพลาสติกใส ด้านหน้าบอกถึงการทำงานของมัน
สำหรับสีมีให้เลือกทั้งหมด 7 สีตามด้านบน ซึ่งแน่นอนว่าทางทีมงานเลือกสีส้มมาเพื่อใช้ทดสอบในวันนี้ครับ
ทาง Targus เองดูเหมือนจะภูมิใจนำเสนอวัสดุแบบใหม่เอามาก ๆ เลย มีการให้ทดสอบสัมผัสพื้นผิววัสดุก่อนซื้อด้วย
ด้านหลังของกล่องแสดงภาพการใช้งานอย่างคร่าว ๆ ซึ่งฟีเจอร์อีกอย่างที่เข้ามาก็คือ ที่เก็บปากกา (Stylus) ด้านหลังครับ หลาย ๆ คนคงจะมีติดตัวใช้กันบ้างแล้ว
ลองถ่ายกล่องแบบรวม ๆ ดูบ้าง เผื่อใครจะไปซื้อจะได้ไม่หยิบผิดอัน
มีตัวอักษรชักเจนว่า “for iPad 3rd Generation” แต่ก็ยังสามารถใช้ร่วมกับ iPad 2 ได้เช่นเดิมครับ
จุดเด่นของเคสตัวนี้นั้นจะอยู่ที่ความบางและความเบา สามารถปกป้องตัว iPad ได้ทั้งเครื่อง เหมื่อนซื้อ Smart Cover แล้วติดเคสด้านหลังไปด้วย
ด้านหลังเจาะรูกลม ๆ ไว้สำหรับโชว์โลโก้ Apple (โชว์ทำไมหว่า – -*) ซึ่งบอกกันตรง ๆ ตามภาษารีวิวเว็บไซต์เรา ว่าผมไม่ค่อยชอบมันเลย ดูน่าเกลียดมาก ๆ แต่ก็ช่างมันเถอะ ใช้ซักพักก็คงจะชิน (มั้ง)
ด้านในเป็นกำมะหยี่เพื่อป้องกันเครื่องกระแทกกับพลาสติกด้านหลัง ซึ่งถ้าสังเกตดี ๆ จะเห็นว่ามีช่องโหว่นิดหน่อย ตรงหลาย ๆ ส่วนโดยเฉพาะมุมกล้อง แต่คงไม่ต้องถึงกับซีเรียสอะไรมากมาย
ทดสอบเอาเครื่องใส่ลงไป ปรากฎว่ายัดค่อนข้างที่จะยากมาก แต่พอใส่เข้าได้เลยก็จะแนบสนิทลงล็อคกับตัวเครื่อง ทีนี้การล็อคแบบนี้จะมีปัญหาอยู่อย่างนึง ตรงที่ว่าขาล็อคแบบนี้หากถอดเข้าออกบ่อย ๆ มันจะล็อคไม่ค่อยอยู่ ดังนั้นก็อย่าแกะบ่อยแล้วกันครับ (ด้วยความหวังดี)
ช่องสำหรับให้เสียงออกทางลำโพง ได้เปิดโล่งไว้ทำให้เสียงชัดเจน ส่วนช่องสำหรับเสียบสาย Sync ก็เว้นไว้เล็กน้อย ให้พอสามารถจับได้สะดวก
มาดูภาพจากด้านหัวเครื่องกัน ออกแบบมาได้เหมาะสมกับการใช้งานที่สุด เท่าที่ได้ลองยังไม่พบปัญหาใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นแจ็คหูฟังขนาดใหญ่ หรือส่วนอื่น ๆ ก็ตาม
ด้านข้างเป็นแบบเปิดโล่ง ๆ ให้สามารถกดได้อย่างง่ายดาย ส่วนวัสดุพื้นผิวที่ใช้ทำสามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย พวกคราบสกปรกไม่ค่อยเกาะอยู่
ด้านข้างที่เจาะโลโก้ Apple นั้นมีที่เก็บปากกา (Stylus) พร้อมทั้งเป็นที่ค้ำสำหรับตั้ง iPad ในตัว
ทดสอบตั้ง iPad ในโหลดการใช้งานสำหรับรับชมภาพยนตร์ ซึ่งให้องศาที่ใกล้เคียงกับ Smart Cover แต่สามารถวางได้แข็งแรงและมั่นคงกว่า
ส่วนการตั้งแบบวางนอน จะให้องศาที่ค่อนข้างจะชันเล็กน้อย ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ถนัดมากนัก เนื่องจากต้องเอียงข้อมือค่อนข้างสูง หรือไม่ก็ยกข้อมือขึ้นไปเลย
ในรุ่นนี้อีกส่วนที่เพิ่มเติมขึ้นมาคือฟังชั่น Sleep On/Off ทำให้สามารถเปิดหรือปิดฝาเคสแล้วสามารถใช้งานได้เลย เนื่องจากมีแม่เหล็กในตัว จากการทำสอบค่อนข้างประทับใจพอสมควรกับการทำงาน และแม่เหล็กมีกำลังค่อนข้างสูง ทำให้ฝาไม่หลุดออกมาเวลาเก็บไว้ในกระเป๋า หรือเดินถือ
ทดสอบความหนาปรากฎว่าค่อนข้างหนาเล็กน้อย อาจเป็นเพราะวัสดุด้านหลังที่ใช้เก็บปากกา (Stylus) ค่อนข้างจะนูนออกมาพอสมควร เลยทำให้วัดแล้วดูหนา แต่การใช้งานจริงไม่เป็นอุปสรรคใด ๆ เลย
สรุป
Targus รุ่น Slim Case เป็นเคสที่ค่อนข้างจะแข็งแรง จุดเด่นเป็นที่วัสดุผิวละเอียดที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ใช้ผ้าชุบน้ำและขัดก็ออกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเค้กหรือซอสอะไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่ให้มาค่อนข้างที่จะใช้งานได้ดีและครบถ้วน เพียงแต่ว่าดีไซน์บางประการอาจจะไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานเสียเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้วก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้เคสบาง ๆ แต่ยังคงความแข็งแรงอยู่ครับ
ตัวเคสมีวางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ iStudio*, iBeat*, .Life และตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ ในราคา 1,490 บาท สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับตัวแทนจำหน่ายทั้งหมดได้ที่ 02-634 4201
*สำหรับ iStudio และ iBeat ไม่ได้มีวางจำหน่ายทุกสาขา สามารถติดต่อสอบถามได้ที่หมายเลขด้านบน
ขอขอบคุณ บริษัท ทาร์กัส เอเชีย แปซิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด สำหรับสินค้าทดสอบครับ