เคส iPad ตัวนี้ยังคงต้องยอมรับเลยว่า เป็นรุ่นที่ผมชอบมากที่สุดตั้งแต่เคสรีวิวมา (และตอนนี้กำลังใช้อยู่ด้วย) ซึ่งสาเหตุที่ผมชอบนั้นสามารถอ่านได้จาก รีวิว – เคส iPad2 จากเมืองกิมจิ iroo รุ่น LS-Series ซึ่งจริง ๆ มันก็คือตัวเดียวกับตัวที่ผมจะรีวิวนี้แหล่ะ เพียงแต่ตัวนี้เป็นตัวใหม่ที่ได้รับการออกแบบใหม่เล็กน้อย เพื่อให้สามารถใช้ได้กับ The New iPad ที่มีขนาดหนาขึ้นเล็กน้อย
“iRoo LS Series” สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ BBiPhone.com โดยราคาจะอยู่ที่ 2,290 บาท
สำหรับสีนั้นก็จะมีให้เลือกมากมายครับ ใครชอบสีไหนก็จัดไปได้เลย สำหรับราคานี่เหมือนทาง BBiPhone.com จะมีการปรับลงด้วยนะครับ จำได้ว่าปีที่แล้วราคา 2,450 บาท (ตอนนี้เหลือ 2,290 บาท)
เท่านั้นยังไม่พอตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นดี ๆ อีกด้วยครับ ซึ่งหากใครจะซื้อวันนี้ – 15 ส.ค. 55 ถือว่าคุ้มมาก ๆ เลยเพราะว่าได้ของแถมเป็น ID America Cushi Foam Pad ด้วย (มูลค่า 550.-) หากใครสนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
สำหรับตัวนี้จะเป็นสีใหม่ครับ เป็นสีน้ำตาลลายไม้นั่นเอง ซึ่งแปลกและน่าสนใจเอามาก ๆ เลย
ด้านหลังเคสก็เป็นผิวสัมผัสแบบไม้เช่นเดียวกันครับ ให้อารมณ์เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติครับ
เคสตัวนี้เป็นงานเกาหลีและผลิตที่เกาหลีนะครับ ไม่ใช่เล่น ๆ เลยทีเดียว
หากไม่ชอบสีน้ำตาลผิวไม้นี้ก็สามารถซื้อสีอื่นได้ครับ ความเห็นส่วนตัวของผมว่าสีส้ม สีเขียว ดูเหมือนจะสวยกว่า ลายไม้มันแปลก ๆ ไม่รู้สิ แต่บางคนอาจจะชอบก็เป็นได้ ที่สำคัญคือมัน “บาง” ครับ ถึงแม้จะออกแบบขนาดใหม่ให้เหมาะสำหรับ The New iPad โดยเฉพาะ แต่ก็ยังสามารถใช้กับ iPad 2 ได้ครับ
แกะเคสออกมากแล้วครับ ดีไซน์ดูคล้าย ๆ กับ Smart Cover ที่ Apple ขายเลยทีเดียว เป็นบานพับแบบเป็นล็อค ๆ แต่ที่โดดเด่นคืนมันสามารถปกป้องด้านหลังได้ด้วยนี่เอง
อีกภาพจากด้านหลังครับ ดูเรียบ ๆ สบาย ๆ
ด้านในเนื้อเคสจะเป็นสีออกคล้าย ๆ น้ำตาลอ่อน ดูเนื้อผ้าจะคล้าย ๆ กับกำมะหยี่นะครับ ตัวเคสออกมาแบบดีมาก ไม่มีส่วนที่แข็งตรงไหนทำให้เคสเกิดเป็นรอยได้เลย แม้แต่นิดเดียว
ช่องสำหรับให้เสียงออก ก็ได้ถูกออกแบบมาอย่างดีครับ ถึงแม้รูจะไม่เยอะมากแต่ก็ไม่ทำให้เสียงนั้นออกตัน ๆ ครับ ดูแทบไม่ค่อยต่างกันเลยทีเดียว
ช่องสำหรับเสียบสาย Sync ครับ เว้นไว้ค่อนข้างมาก สามารถเสียบสาย Sync ได้สบาย ๆ
ปุ่มล็อคหน้าจออยู่ภายนอก ส่วนปุ่มปรับเสียงจะถูกซ่อนอยู่ภายในนั่นเองครับ
รูกล้องเว้นไว้ได้สวยงาม ส่วนด้านบนจะเป็นแบบเปิด ๆ ซึ่งตรงนี้จะเป็นช่องสำหรับเสียบเคส หลายคนอาจจะไม่ค่อยชอบที่มันโล่ง ๆ แต่ส่วนตัวผมคิดว่ามันก็สวยดีครับ เพราะหากจะทำฝาปิดมันจะทำให้ตัวเคสหนาขี้นมาอีก ดูไม่สวยงาม
ช่องสำหรับกล้องหน้า ตรงนี้ไม่ใช่พลาสติกนะครับ เป็นเหมือนหนังหุ้มหนา ๆ มากกว่า แถมยังมีการทำผิวให้ลึกลงไป ทำให้ตอนจับแล้วไม่ลื่นมือครับ เกาะติดได้ง่ายดาย (ตั้งแต่ใช่มาปีนึงยังไม่เคยหลุดมือเลย)
ช่องสำหรับปุ่ม Home เว้นไว้แบบพอตัวจริง ๆ กดอาจจะไม่ค่อยถนัด แต่สำหรับคนใช้ iPad นั้นไม่ค่อยได้กดอยู่แล้ว ใช้มือขยุ้ม ๆ เอา
ระดับความหนาเมื่อใส่เครื่องกับเคสแล้ว ถือว่าน่าพอใจมากเลยทีเดียว บางมาก ๆ ครับ (อย่าเอาไปเทียบกับ Smart Cover นะครับ เพราะมันปิดได้แค่หน้าจอ) สำหรับขนาดเคสจะอยู่ที่ 190 x 245 x 15 มม. ซึ่งนับได้ว่าตอนนี้เป็นเคส iPad Folio ที่บางที่สุดในโลก
สามารถตั้งวางได้ 2 ระดับเช่นเดียวกับ Smart Cover ครับ งานเย็บของเคสนี้ผมให้เกรด A+ เลยทีเดียว เนื่องจากปราณีตมาก ๆ สมแล้วที่เป็นเคส iPad ที่ผมยกให้เป็นอันดับ 1
การพับจะเป็นแบบเดียวกับ Smart Cover ครับ พับได้อย่างง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน และยังใช้งานได้ดีอีกด้วย เพราะฝาเคสมีแม่เหล็กฝังอยู่ ทำให้เมื่อปิดฝา เคสลงไปเครื่องก็จะเข้าโหมด “Auto Sleep” ได้เช่นเดียวกัน ไม่ต้องเสียเวลาล็อคเครื่อง หรือปลดล็อคเครื่องให้ยุ่งยาก โดยตัวแม่เหล็กมีแรงดึงดูดสูงมาก ๆ ครับ ตอนใช้งานหรือเก็บใส่กระเป๋าไม่มีฝาเด้งหลุดออกมาให้เสียอารมณ์เลย
อีกมุมหนึ่งครับ โหมดนี้เหมาะสำหรับดูภาพยนตร์รวมถึงทำงานบางอย่างครับ หากใช้กับ Keyboard Apple Wireless ก็จะเข้ากันมากเลยทีเดียว
ฝากกันไปสำหรับภาพสุดครับครับ เคสตัวนี้นอกจากจะบางและสวยงามแล้ว ยังสามารถใช้งานได้จริง จับได้ถนัดมือไม่เกะกะอีกด้วย เหมาะกับการใช้งานพกพากระทัดรัด และที่สำคัญ “วัสดุทำความสะอาดง่ายและสกปรกยาก”
สรุป : เป็นเคสรุ่นนึงที่อาจจะแพงไปซักนิดสำหรับหลาย ๆ คน แต่สำหรับผมแล้วถือว่าไม่แพง เพราะว่า “นี่แหล่ะคือเคสที่ผมตามหามานาน” (ตอนนี้ผมก็ยังใช้เคสตัวนี้อยู่ เพราะในตลาดบอกได้เลยว่าเคสบางเท่านี้หาไม่ได้อีกแล้ว นอกจากใช้ Smart Cover เปลือย ๆ ซึ่งผมก็ไม่แนะนำ เพราะมันแทบไม่ได้ปกป้องอะไรเลย จะมีดีก็เคสตัวนี้เท่านั้นที่สามารถใช้ฟีเจอร์ Smart On-Off ทำให้เราไม่ต้องเสียเวลากดเปิด-ปิดเครื่องทุกครั้งที่ใช้งาน เพียงแค่เปิดฝาเครื่องก็จะพร้อมใช้งานแล้ว พอปิดฝาเครื่องแล้วเครื่องก็ล็อค ทำกี่ครั้งก็ได้ไม่ต้องกำหนดระยะเวลา ช่วยให้สะดวก อีกทั้งยังถนอมปุ่มของเครื่อง iPad เราด้วย หากใครชอบบาง ๆ เบา ๆ (เหมือนผม) พร้อมกับความสามารถเจ๋ง ๆ แบบนี้ล่ะก็ซื้อไปไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ^0^ (คิดเอาง่าย ๆ ว่าผมรีวิวมาเป็น 10 อัน จับมาก็เยอะ ผมยังเลือกใช้จบลงที่อันนี้เลย)
ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)