yugioh2500
เคส iPad อีกตัวหนึ่งที่ดีไซน์หรูหรา ด้วยวัสดุอย่าอลูมีเนียมซึ่งให้ความแข็งแรงสูง ในขณะที่น้ำหนักเบา แต่เดี๋ยวก่อนครับ ~ อย่าพึ่งปิดหน้านี้ไปเพราะคิดว่าราคาแพงเกินเอื้อมแบบว่า 2-3 พันอะไรแบบนี้ แน่นอนว่าถ้าแพงมากขนาดนั้นผมก็คงไม่แนะนำหรอก – -* (ขนาด Vapor แพงแบบมีเหตุผลยังมีคนซื้อเลย) เชื่อว่าหลายคนพอทราบราคาแล้วคงจะต้องคิดแบบผมว่า “มันถูกกว่าที่คิดหนาเนี่ยยยย” … ^w^
“DLX Aluminum Case” สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ BBiPhone.com โดยราคาจะอยู่ที่ 1,790 บาท
เห็นมั้ยล่ะ ~ ราคาที่ผมบอกไปนั้นไม่แพงอย่างที่คิด ^.^ กับวัสดุที่ดูเหมือนจะแพงอย่างอลูมิเนียมแบบนี้ เชื่อว่าหลาย ๆ คนชักจะเริ่มสนใจกันแล้ว เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า :3
วัสดุอย่างที่บอกว่าทำมาจากอลูมิเนียม ทำให้ได้ทั้งน้ำหนักเบา และแข็งแรง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับ iPad 2 และ The New iPad (ผมเทสให้แล้วครับ ยืนยัน 100%)
ถึงแพคเกจจะดูออกแนวไม่ค่อยเป็นทางการเท่าไหร่ ~ ดูละม้ายคล้ายกับเคสจีนแดง แต่อยากบอกว่า DLX นี่ก็เป็นแบรนด์ดังนะเออ … ไม่เชื่อลองดูเว็บไซต์ http://www.dlxcase.com ได้เลย ~ มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลายอยู่ แต่แนะนำให้ซื้อกับ BBiPhone.com จะสะดวกกว่า (มาก) ครับ – – v
ดีไซน์ด้านหน้าดูเรียบร้อยดีครับ ~ เป็นสไตล์แบบไม่หวือหวาอะไร (ไม่มีกระทั่งโลโก้แบรนด์) หากวางใกล้ ๆ กับ Macbook Air ก็ดูเข้ากันดี ^^
ส่วนด้านหลังก็เป็นเรียบ ๆ เหมือนด้านหน้าครับ แต่พวกรูต่าง ๆ นั้นดูเชยไปนิดนึง ส่วนตัวผมว่ารูมันใหญ่เกินไป – -*
ด้านล่างเป็นรูสำหรับลำโพง ซึ่งก็วางได้โอเคดีเสียงมีดรอปเล็กน้อย แต่เสียง iPad ปกติก็เหมือนเคาะกะละมังอยู่แล้วผมเลยไม่ค่อยซีเรียสอะไร ~ ส่วนรูเสียบสาย Sync สามารถเสียบได้อย่างสบาย ๆ ครับ
รูด้านบนหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเว้นไว้ทำไม ~ เว้นไว้ระบายอากาศเรอะ !!! ซึ่งความจริงมันเป็นเรื่องของสัญญาณ 3G ครับ (ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับ WiFi ด้วยไหม) ซึ่งถ้าหากมีวัตถุที่เป็นจำพวกโลหะหรืออลูมิเนียมมาบัง มันจะทำให้สัญญาณดรอปลง ซึ่งตรงนี้ DLX ก็เก็บรายละเอียดมาได้ดี <<< ลองพลาดดูสิเจอผมรีวิวเสียแน่ ๆ (–3-)p
ตัวขาล็อคของฝาเคสซึ่งแน่หนาเอาเสียมาก ๆ เป็นพลาสติกแข็งครับตรงส่วนนี้
ตัวขาล็อคของเคสก็เป็นพลาสติกเช่นกัน แลดูแน่นและแข็งแรงดี (แข็งแรงจนฝืดเลยแหล่ะ)
ด้านในมีการบุกำมะหยี่เอาใว้อย่างดีสำหรับป้องกันรอยขีดข่วนขณะใส่หรือถอดเคส ซึ่งดูได้เลยว่าจะไม่มีส่วนไหนที่เคสต้องสัมผัสกับ iPad เลย (ไม่งั้นก็เป็นรอยหมดสิ – -*)
พวกเข้ามุมหรือแม้กระทั่งอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็สามารถทำออกมาเก็บรายละเอียดได้ดีมาก ๆ ตัวกำมะหยี่ยึดแน่นกับเคส เท่าที่ทดสอบลองดึงหรือแกะแรง ๆ ก็ไม่มีหลุดออกมาครับ
ด้านล่างก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน เก็บงานได้เรียบร้อยเหมือนเดิม
หลังจากที่ได้ใส่เคสลงไปตอนใส่รู้สึกว่าแน่นและมั่นคงดีครับ ใส่ออกมาแล้วดูสวยดี
พอใส่แล้วรู้สึกว่ามันเป็นหนึ่งอันเดียวกัน อารมณ์ประมาณว่า Macbook Air ชัด ๆ เสียนี่ *0*)/
พวกการเว้นช่องสำหรับปุ่มปรับเสียงและรูกล้องก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน ทุกอย่างเก็บรายละเอียดเป็นอย่างดี
ดูกันอีกมุมนึงชัด ๆ จะได้ตัดสินใจได้ง่าย ๆ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ามัน “เรียบหรู” ดีครับ
เคสนี้สามารถตั้งได้แค่แบบแนวนอน โดยการตั้งนั้นจะเป็นแบบปรับองศาได้อิสระ (Multi View) ซึ่งน้อยรุ่นนักที่จะสามารถทำได้แบบนี้
คำเตือน : เพื่อลดโอกาสแตกหักจากการปิดเคสแบบผิดวิธี เมื่อวางตั้งแบบ Movie View แล้วต้องการพับปิด “ต้องผลักให้สุดองศาก่อนแล้วค่อยปิดฝาพับ”
เท่านั้นยังไม่พอยังมีฟีเจอร์ Auto Lock/Unlock อีกด้วย คือเมื่อปิดฝาเคสเครื่องจะเข้าสู่โหมดล็อคโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็สะดวกดีครับ (ตอนแรกไม่คิดว่าจะมีเพราะเคสบางมาก)
ข้อดีอีกอย่างที่ผมชอบก็คือเวลาพับเคสแล้วถือมือเดียวมันจะสะดวกมาก เพราะหากเป็นเคสทั่ว ๆ ไปมันจะห้อยต่องแต่งและเกะกะมาก ส่วนตัวนี้ไม่เป็นปัญหาเลยจับสะดวกโดยไม่หนาด้วยซ้ำ
ขอจบรูปท้ายสุดด้วยโลโก้ของแบรนด์ DLX แล้วกันครับ เป็นลายยิงเลเซอร์ตัวเล็ก ๆ อยู่หลังเคส แทบมองไม่เห็นแน่ะ – -*
สรุป : เป็นเคสอลูมิเนียมที่น่าใช้เนื่องจากได้ทั้ง เบา บาง แข็งแรง และที่สำคัญในราคาที่ไม่แรงจนเกินไป ส่วนขอเสียนั้นก็คงจะเป็นเรื่องการแกะเปิดเคสที่จะยากลำบากไปซักนิด ไม่สามารถทำได้ด้วยมือเดียว ทำไปกลัวบานพับมันจะหักไป (ต้องระวังแต่เท่าที่ทดสอบของผมไม่หักนะ) ส่วนเรื่องขนแมวก็พอจะมีบ้างครับตามภาษาอลูมิเนียม แต่เรื่องแข็งแรงและดูดีผมขอยกนิ้วให้เลยทีเดียว
ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)
