in ,

Apple เปิดตัว MacBook Air ชิป M3 รุ่น 13″ และ 15″ ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท ชมไฮไลท์เด่นที่นี่

Apple เปิดตัว MacBook Air รุ่นใหม่ 13″ และ 15″ มาพร้อมชิปประมวลผล M3 มีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยรุ่น 13″ ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท ส่วนรุ่น 15″ เริ่มต้น 47,900 บาท

Apple เปิดตัว MacBook Air ชิป M3 รุ่น 13″ และ 15″ ราคาเริ่มต้น 39,900 บาท ชมไฮไลท์เด่นที่นี่

Apple เปิดตัว MacBook Air ใหม่ ชิป M3 มาพร้อมประสิทธิภาพดีขึ้น ดีไซน์บางเฉียบ น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ไฮไลท์เด่นมีดังนี้

  • ชิปประมวลผล M3 เทคโนโลยี 3 Nm
  • CPU แบบ 8-Core, GPU สูงสุดแบบ 10-Core
  • รองรับหน่วยความจำสูงสุด 24GB
  • เร็วขึ้นกว่ารุ่นชิป M1 ถึง 60% และเร็วกว่า MacBook Air รุ่นชิป Intel ที่เร็วที่สุดกว่า 13 เท่า
  • Neural Engine เร็วขึ้น พร้อมประหยัดพลังงานมากขึ้น
  • แบตเตอรี่ใช้ได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
  • จอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 หรือ 15.3 นิ้ว สีสวยงาม สว่างสูงสุด 500 นิต รองรับสีสัน 1 พันล้านสี มีความละเอียดสูงกว่าแล็ปท็อป
  • รองรับการเชื่อมต่อจอภาพภายนอกสูงสุด 2 จอ
  • Wi-Fi เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า
  • ตัวเครื่องอะลูเมิเนียมแบบ Unibody แข็งแรงทนทาน
  • มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีมิดไนท์ พร้อมซีลชุดผิวลดรอยนิ้วมือ, สีสตาไลท์, สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน
  • การชาร์จ MagSafe

Apple ยังไม่วางขายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ แต่สามารถดูราคาได้ที่ https://www.apple.com/th/macbook-air/ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ Newsroom

ชิป M3 สร้างขึ้นด้วยเทคโนโลยี 3 นาโนเมตรชั้นแนวหน้าของอุตสาหกรรม ช่วยให้ MacBook Air ทำงานได้เร็วขึ้นและมากความสามารถยิ่งขึ้น ด้วย CPU แบบ 8-core ที่ทรงพลัง, GPU สูงสุดแบบ 10-core และการรองรับหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 24GB ทั้งหมดนี้ทำให้ MacBook Air ใหม่เร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับรุ่นที่มีชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 13 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด

อีกทั้งยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่า MacBook Air ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel สูงสุด 6 ชั่วโมง1 ผู้ใช้จะสัมผัสได้ทันทีถึงความเร็วระดับสุดขั้วของชิป M3 ไม่ว่าจะทำอะไร ตั้งแต่การทำงานทั่วไปในชีวิตประจำวัน จนถึงงานที่ต้องประมวลผลหนัก ๆ อย่างการปรับแต่งภาพและตัดต่อวิดีโอ หรือการพัฒนาซอฟต์แวร์

นอกจากนี้ GPU เจเนอเรชั่นถัดไปในชิป M3 ยังทำให้ MacBook Air รองรับการให้แสงเงาแบบเมชและเรย์เทรซซิ่งที่เร่งความเร็วด้วยฮาร์ดแวร์ จึงสามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่สวยงามสมจริงแบบสุดๆ จากแสงเงาและภาพสะท้อนที่ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังมาพร้อมมีเดียเอนจิ้นล่าสุดที่รองรับการถอดรหัส AV เพื่อให้การสตรีมวิดีโอจากบริการต่า งๆ มีคุณภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วย

ชิป M3 ยกระดับประสิทธิภาพของ MacBook Air ให้ทะยานไปอีกขั้น

เกมอย่าง No Man’s Sky มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 การปรับแต่งภาพด้วย AI โดยใช้คุณสมบัติ Super Resolution ของ Photomator เร็วขึ้นสูงสุด 40% เมื่อเทียบกับรุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 15 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่อัปเกรดเป็น Mac ที่มาพร้อม Apple Silicon

การทำงานในสเปรดชีต Excel เร็วขึ้นสูงสุด 35% เมื่อเทียบกับรุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่อัปเกรดเป็น Mac ที่มาพร้อม Apple Silicon

การตัดต่อวิดีโอใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 60% เมื่อเทียบกับรุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M1 และเร็วขึ้นสูงสุด 13 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่อัปเกรดเป็น Mac ที่มาพร้อม Apple Silicon

เมื่อเทียบกับแล็ปท็อป PC ที่มีโปรเซสเซอร์ Intel Core i7 แล้ว MacBook Air มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า, ท่องเว็บได้เร็วขึ้นสูงสุด 50% และมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้นสูงสุดถึง 40%

แล็ปท็อประดับผู้ใช้ทั่วไปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI

การเปลี่ยนมาเป็น Apple Silicon ทำให้ Mac ทุกเครื่องเป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับ AI และชิป M3 ก็มาพร้อม Neural Engine แบบ 16-core ที่เร็วขึ้นและประหยัดพลังงานมากขึ้น รวมถึงตัวเร่งความเร็วใน CPU และ GPU สำหรับอัดฉีดพลังให้กับการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ ทำให้ MacBook Air เป็นแล็ปท็อประดับผู้ใช้ทั่วไปที่ดีที่สุดในโลกสำหรับ AI

ในขณะที่ macOS ก็ใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพด้าน AI อันเหนือชั้นนี้ในการขับเคลื่อนคุณสมบัติที่ชาญฉลาดเพื่อยกระดับทั้งเรื่องงานและความคิดสร้างสรรค์ด้วยคุณสมบัติด้านกล้องอันทรงพลัง การแปลงเสียงพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ การแปล การคาดเดาข้อความ การทำความเข้าใจภาพ การช่วยการเข้าถึง และอีกมากมาย

ยิ่งเมื่อสามารถเข้าถึงระบบนิเวศของหลากหลายแอปที่มาพร้อมคุณสมบัติด้าน AI สุดล้ำด้วยแล้ว ผู้ใช้จึงสามารถทำได้ทุกอย่าง ตั้งแต่การตรวจทานการบ้านด้วย AI Math Assistance ใน Goodnotes 6 ไปจนถึงการปรับแต่งรูปให้สวยขึ้นโดยอัตโนมัติใน Pixelmator Pro หรือแม้แต่การตัดเสียงรบกวนรอบข้างออกจากวิดีโอด้วย

CapCut ยิ่งเมื่อรวมกับสถาปัตยกรรมหน่วยความจำแบบรวมของ Apple Silicon ด้วยแล้ว MacBook Air ยังสามารถรันโมเดล AI ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) หรือโมเดล Diffusion ที่ใช้ในการสร้างภาพขึ้นมาด้วยตัวของอุปกรณ์เองด้วยประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม

และนอกเหนือจากการทำงานแบบ On-device แล้ว MacBook Air ยังรองรับโซลูชั่นแบบคลาวด์ด้วย จึงสามารถใช้งานแอปเพื่อการทำงานและสร้างสรรค์อันทรงพลังที่อาศัยความสามารถของ AI เช่น Microsoft Copilot สำหรับ Microsoft 365, Canva และ Adobe Firefly

แล็ปท็อปยอดนิยมของโลก

ผู้ใช้ส่วนใหญ่เลือกใช้ MacBook Air แทนที่จะเป็นแล็ปท็อปอื่นๆ และชิป M3 ก็สร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งด้วยการผสมผสานที่ลงตัวชนิดหาตัวจับยากทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความสะดวกในการพกพา และความสามารถที่ผู้ใช้ต่างชื่นชอบ

สองขนาดที่ใช่ ในดีไซน์ที่พกพาง่ายสุด ๆ MacBook Air รุ่น 13 นิ้ว และ 15 นิ้ว ในตัวเครื่องอะลูมิเนียมที่แข็งแรงทนทาน มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน น้ำหนักเบาเหลือเชื่อ และบางเพียงหนึ่งเซนติเมตรนิดๆ จึงสามารถพกไปทำงาน เล่น หรือสร้างสรรค์ได้ทุกที่ โดยที่รุ่น 13 นิ้ว พกพาสะดวกสุดๆ

ในขณะที่รุ่น 15 นิ้ว มีพื้นที่หน้าจอมากขึ้นสำหรับการทำงานแบบมัลติทาสก์ เรียกได้ว่ามีขนาดที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน ตั้งแต่นักเรียนที่ต้องไปไหนมาไหนอยู่ตลอด จนถึงนักธุรกิจมืออาชีพที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น

จอภาพ Liquid Retina ที่งดงาม: MacBook Air โดดเด่นด้วยจอภาพ Liquid Retina ขนาด 13.6 หรือ 15.3 นิ้ว ที่สวยงามน่าทึ่ง, ความสว่างสูงสุด 500 นิต, รองรับสีสัน 1 พันล้านสี และมีความละเอียดสูงกว่าแล็ปท็อป

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University