รีวิว – เคส iPhone 4S/4, 3GS/3G “Ferrari Official Licensed” (จัดเต็มชุดใหญ่)

ผมเชื่อว่าทุกคนชอบรถ Ferrari ครับ (อย่าถามว่ารู้ได้ไงเพราะผมเดา O[]o) จากประสบการณ์ผม เมื่อคนเห็นรถคันนี้บนท้องถนนจะมองตาม 90% จะพึมพำเหมือนท่องคาถาเบา ๆ กับคนข้าง ๆ ว่า “สวยว่ะ” สำหรับคนที่ค้านแนวคิดผมลองคิดในใจดูว่าถ้าหากไม่พูดถึงราคา เมื่อมี Ferrari, Honda, NISSAN ฯลฯ จอดรอให้คุณเลือกคุณจะเลือกอะไร? แน่นอนครับว่าเกือบจะร้อยทั้งร้อยยังไงก็ต้องเป็น Ferrari เพราะถึงหากไม่พูดกันเรื่องราคาจริง ๆ ก็คงต้องยอมรับว่ามันสวยกว่า ทำไมน่ะหรอ? ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาออกแบบยังไงถึงให้ถูกใจคนเกือบทั้งโลก มองว่า “สวย” เหมือน ๆ กันได้ หรือนี่ก็คือสเน่ห์อย่างหนึ่งของ Ferrari ^.^ ในฐานะที่ผมชาตินี้ก็คงไม่มีวันได้ครอบครอง จึงอยากจะมาขอเสนอเคส iPhone “Ferrari Officail Licensed” ให้ทุกท่านได้ครอบครองกัน (เกริ่นมาตั้งนานมีแค่เนี๊ยะ = =”)

“Ferrari Official Licensed” สามารถหาซื้อได้ที่ BBiPhone.com ราคา 790-1,590 บาท (แล้วแต่รุ่น)

เคสของ Ferrari Official Licensed นั้นผลิตโดย CG Mobile (ภายใต้ลิขสิทธิ์ของ Ferrari) โดยจะแบ่งออกเป็น 3 เซทด้วยกัน ซึ่งดังภาพข้างบนคือ GTR Collection เป็นเคสพลาสติกแข็งมี 3 สี คือ แดง เหลือง ดำ โดยเคสชุดนี้จะราคาอยู่ที่ 790 บาท เหมาะสำหรับวัยรุ่นครับ สีแรง ๆ สด ๆ ได้ใจ เงามันวาวโดดเด่นเหมือนตัวถังรถ Ferrari (O.O)

สำหรับเซทถัดมาคือ GT Collection Modena – Leather มี 2 สี คือ แดงและดำครับ ราคาสูงตามวัสดุนิดนึงอยู่ที่ 1,590 บาท ตามที่บอกเลยว่าเป็นวัสดุจากหนังคุณภาพสูง ให้อารมณ์เหมือนผิวสัมผัสจากเบาะภายในรถ Ferrari กระชับมือและดูหรูหรา สุขุม บ่งบอกถึงหน้าที่การงานและฐานะ :3

และเซทสุดท้ายมีชื่อว่า Scuderia Ferrari Collection Challenge ราคาอยู่ที่ 1,290 บาท สำหรับซองใส่ และ 990 บาท สำหรับเคส เป็นวัสดุที่อยู่คู่รถแข่งอย่าง F1 กันมานาน นั่นก็คือเคฟล่าครับ คุณสมบัติของมันก็คือ เหนียว ทนทาน และเบามาก เมื่อเทียบกับวัสดุหลาย ๆ อย่างที่เคยมีมา ผมขอบอกได้เลยว่าเคฟล่าคือที่สุดของที่สุดของความทนทาน (O[]o)

1. ซอง Scuderia Ferrari Collection Challenge ราคาอยู่ที่ 1,290 บาท ผมว่าเรามาเริ่มต้นที่เคสตัวนี้เป็นตัวแรกกันดีกว่าครับ ตัวนี้เป็นตัวเดียวที่เป็นซองครับ และยังสามารถใช้งานกับ iPhone 3G, 3GS และ iPhone 4 ได้ หรืออาจจะเป็นมือถือรุ่นอื่น ๆ ก็ได้ที่มีขนาดใกล้เคียง >,<

ด้านหลังของบรรจุภัณฑ์ มีสติกเกอร์โฮโลแกรมจาก Ferrari พร้อมลงรหัสเฉพาะแต่ละตัว โดยไม่ซ้ำกัน หากใครได้ราคาถูกจนน่าตกใจขอให้ระวังไว้ก่อนเลยครับว่าเป็นของปลอม ซึ่งสามารถพลิกกล่องมาดูด้านหลังเพื่อตรวจสอบได้ ;D

ด้านในเป็นสีแดงแรงฤทธิ์วัสดุนี่ประมาณคล้ายกำมะหยี่เนื้อละเอียด ๆ น่ะครับ ประมาณว่ากล่องใส่แหวน ใส่ทองอะไรประมาณนั้น ดูหรูหราและไฮโซดี ^^

เมื่อใส่ iPhone 4 ไปจะเป็นแบบนี้ครับ เคสจะใหญ่กว่าตัวเครื่องนิด ๆ ให้พอครอบคลุมได้มิด ไม่ให้เกิดความเสียหาย โดยเคสพวกนี้ผมมักจะเห็นคนวัยทำงานหรือออกแนวผู้ใหญ่ ๆ ใช้มากกว่านะ ไม่ค่อยเห็นวัสรุ่นใช้กันเท่าไหร่แบบเป็นซองแบบนี้ แต่ก็คงแล้วแต่คนชอบแหล่ะครับ >:O

ด้านหน้าตรงกลางมีหมุดเป็นตรา Ferrari อยู่ งานอยู่ในขั้นกลาง ๆ ครับ ไม่ได้ดูโดดเด่นอะไร แต่ก็ไม่ถึงกับหยาบ ผมมีประสบการณ์กับของปลอมดูตรา Ferrari นี่ขาม้าย้อยมาเลย (ฮา) ^^

ดัานหลังมีชื่อเซท Scuderia Ferrari สลักอยู่เป็นสีขาว ส่วนด้านล่างเป็นยี่แบรนด์ครับ หรือก็คือ CG Mobile ตามความเห็นของผมเรื่องวัสดุผมว่าโอเคมากเลย คือ เบา และทนทานดี จับแล้วไม่มีรอยนิ้วมือติด ไม่ต้องถนอมหรือดูแลมากก็ได้

ด่านล่างของเคสมีการเจาะรูจำนวน 4 รูเพื่อให้เสียงมีทางออกครับ เวลามีคนโทรเข้าจะได้เสียงไม่ดรอป หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเขาจะเจาะรูทำไมถึง 2 ข้าง ทั้ง ๆ ที่รูลำโพงของไอโฟนมีเพียงข้างเดียว ตอนแรกผมก็สงสัยครับแต่พอได้ใช้ดูถึงได้รู้ว่ามันมีที่มาอยู่ คือว่าคนเราบางทีเสียบเคสลงซองไม่เหมือนกันครับ บางคนเอาหน้าลง-หลังลง เลยทำให้รูที่เจาะไว้ไม่ตรงกับลำโพง นับว่าทาง CG Mobile ใส่ใจในรายละเอียดมาก ๆ เลยทีเดียว สมกับเป็นเคสของ Ferrari ส่วนใครมีไอเดียแปลก ๆ ชอบอะไรกุ๊กกิ๊ก ๆ ก็สามารถประยุกต์โดยการเอาอะไรมาห้อยก็ได้ครับ (ถ้าชอบนะ) ;P

เมื่อใช้งานจริงจะเป็นแบบนี้ครับ มองไกล ๆ ดูแล้วรอยตัดของหนังเป็นเส้นแนวยาวตรงกลาง เข้ากับเคฟล่าดีจริง ๆ มันให้อารมณ์หรูหราและดูเป็นสปอร์ตดีชะมัด *0*

หลายคนสงสัยครับว่าถ้ามันรองรับ iPhone 3G, 3GS ด้วยแล้วเวลาใส่ iPhone 4 มันจะไม่หลวมหรอ? คำตอบเป็นดังภาพครับว่าหากเอียงระดับนี้ไม่มีตกแน่นอน (ถ้าไม่บีบซองด้านข้าง) ถามว่าหลวมไหมก็หลวมนิด ๆ ครับ ไม่เยอะเท่าไหร่ ไม่น่าเกลียดด้วย แต่ถ้าหากชอบแน่น ๆ รัด ๆ ผมว่านำเคสนี้ไปใช้กับ iPhone 3G, 3GS น่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่าครับ >,<

2. ซอง Scuderia Ferrari Collection Challenge ราคาอยู่ที่ 990 บาท ตัวถัดไปนี้จะเป็นเซทตัวกับตัวแรกครับ ซึ่งราคาก็จะถูกกว่าด้วย โดยน่าจะเป็นเพราะใช้เคฟล่าน้อยกว่าตัวแรก – -“

โดยส่วนตัวแล้ว ถึงแม้เคสตัวนี้จะราคาถูกกว่าตัวแรก แต่ผมกลับชอบเคสตัวนี้มากกว่าแฮะ มันให้อารมณ์มากกว่าแบบแรก อันนี้ความเห็นส่วนตัวของผมนะ แต่ถ้าใครชอบแบบไหนก็จงยึดมั่นใจความตั้งใจของตัวเองต่อไปครับ ^^

ด้านในเคสเป็นพลาสติกครับ ไม่ได้เป็นเคฟล่าทั้งตัว ซึ่งอาจจะดีกว่าก็ได้เพราะถ้าเป็นเคฟล่ามันน่าจะขูดกับ iPhone เรา แต่เรื่องนี้ผมไม่ค่อยมั่นใจนะ เพียงแต่รู้ว่าเคฟล่ามันไม่ได้อ่อนนุ่มนิ่มเหมือนผ้าทั่ว ๆ ไปน่ะ >:I

ด้านในเคสมีพิมพ์อักษร Scuderia Ferrari ซึ่งเป็นชื่อของเซทนี้อีกด้วย O,o!

ด้านข้างเก็บงานได้ดี แต่สำหรับปุ่มลดเสียงคนนิ้วใหญ่อาจจะกดค่อนข้างลำบากเล็กน้อย :3

ด้านล่างเก็บงานได้เป็นอย่างดีครับ เหลือที่ขนาดใหญ่ (มาก ๆ) สำหรับเสียบสายซิงค์และรูสำหรับลำโพง ไม่มีปัญหาใด ๆ เลย –0-

ด้านบนของเครื่องก็เก็บงานได้ดีตามมาตรฐานเคสทั่ว ๆ ไป คือ เว้นที่ไว้มากพอสำหรับกดปุ่ม Power และต้องไม่มีปัญหากับการเสียบแจ๊คหูฟัง ไม่ว่าแจ๊คหูฟังจะเป็นแบบใด ขนาดเท่าใด เป็นตัว I หรือตัว L ก็ต้องสามารถรองรับได้หมด นั่นถึงเรียกว่าเคสที่ดีครับ 😉

ดูแล้วสวยงามสุขุมดีครับ เหมาะสำหรับคนใช้ผลิตภัณฑ์ Apple อยู่แล้วด้วย เพราะต้องเป็นอะไรเรียบ ๆ และดูดีเป็นอยู่แล้ว ซึ่ง Ferrari ก็ตอบโจย์นั้นได้ดี ;D

การออกแบบนั้นได้ทำผสมผสานกับวัสดุหนังและเคฟล่าอย่างดี อีกทั้งยังเพิ่มความโดดเด่นด้วย Ferrari Logo ส่วนตรงกล้องก็ไม่มีปัญหาครับ ไม่ว่าจะเรื่องเลนส์หรือว่าแฟลชก็ตาม ^^

สำหรับคนที่กังวลเรื่องความหนาครับ ผมเลยถ่ายจริง ๆ มาให้ดู ซึ่งสำหรับผมก็ไม่ได้หนาอะไรมากมาย ขนาดปกติเหมือนกับเคสทั่ว ๆ ไป ใช้แล้วกระชับมือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ >,<

3. GT Collection Modena – Leather ราคาอยู่ที่ 1,590 บาท อันนี้มี 2 สีครับ เลยถ่ายมาให้ดูเป็นเซทคู่ ซึ่งก็สวยทั้งคู่แต่ถ้าให้แนะนำผมว่าสีแดงดีกว่าครับ “แรงสองเท่า” (เกี่ยวกับซะที่ไหนเล่า = =”)

ด้านในเป็นพลาสติกเหมือนเดิมครับ ถึงซื้อสีแดงแต่ก็ได้ด้านในสีดำ (ใครจะเห็น) มีพิมพ์คำว่า Ferrari และ CG Mobile อยู่ครับ 😉

เก็บรายละเอียด เรื่องมุมและการเชื่อมต่อหนังกับพลาสติกได้ดีเอาเสียมาก ๆ ^^

เมื่อติดตั้งแล้วจะเป็นแบบนี้ครับ อาจจะดูแปลก ๆ ไปนิดสำหรับสีแดง ซึ่งถ้าใช้กับเครื่องสีขาวน่าจะสวยกว่านี้ครับ แต่ถ้าใครชอบดำแดงแบบผมก็ไม่เป็นไร ^^

การเก็บมุมและล็อคของเคส ไม่ทำให้ตัวเครื่องเป็นรอยอีกด้วย หรือจะเสียบช่องหูฟังก็ไม่มีปัญหา 100% –3-

มาดูด้านล่างกันบ้าง ยังใช้งานได้ดีเหมือนเดิม ไม่บดบังเสียงลำโพง และเสียบสาย Sync ได้โดยไม่ติดขัดประการใด –..-

ด้านหลังทำจากหนังสีแดงแรงฤทธิ์ครับ (–0-) มีรอยเย็บเป็นแนวเพื่อไม่ให้ดูจืดจนเกินไป

โดดเด่นสุด ๆ ด้วยโลหะเงารูปม้าจาก Ferrari ^0^

ภาพเมื่อถือใช้งานครับ ดูจากด้านหลังจะสวยเอามาก ๆ เพราะมือเราจะไม่บัง Logo Ferrari พอดี :3

เผื่อบางคนนึกภาพไม่ออกผมเลยถ่ายรูปสีดำมาให้ดูด้วย ^^

ซูมกันใกล้ ๆ จะได้ดูกันชัด ๆ ไปเลย ;D

4. GTR Collection ราคาอยู่ที่ 790 บาท สำหรับชุดสุดท้ายนี้จะถูกที่สุดครับ แน่นอนล่ะว่าวัสดุก็จะต้องดรอปลงมาหน่อย เป็นพลาสติกหลากสี แต่ยังคงความสดและความขลังของ Ferrari อยู่ โดยมีทั้งหมด 3 สียอดฮิตของ Ferrari คือ แดง เหลือง และดำ ^3^

ผมได้สุ่มมารีวิว 1 ชิ้น (ที่เหลือเหมือนกัน ทรงเดียวกันต่างกันที่สี ซึ่งสีที่ผมเลือกนั้นไม่ใช่สีใดไกลอื่นเลย นั่นก็คือสีแดงแรงฤทธิ์นั่นเอง –*-

งานหลังหล่อพลาสติกออกมาถือว่าดีมาก ๆ ครับ ไม่มีส่วนที่ยื่นเกยออกมาเลย ^^

เมื่อติดตั้งแล้วทำให้ iPhone ของเราดูโดดเด่นขึ้นมาทันใด กับความเงาของเคสและสีที่ดุดัน ผมเชื่อว่ามันจะทำให้ iPhone คุณโดดเด่นไม่แพ้ใครอย่างแน่นอน d – –

รายละเอียดโดยรวมของเคส ถือว่าเข้าขั้นดีครับ – – v

ด้านหลังของเคสครับ ดูสวยงาม เงางามดุจดั่งสีจากรถของ Ferrari นี่ถ้าได้มาขับด้วยนี่คงแจ่มเอามาก ๆ เลย (ฮา)

ดูกันใกล้ ๆ ชัด ๆ กับความเงางามอีกครั้งหนึ่ง แต่ข้อเสียนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีครับ สำหรับเคสเซทนี้เนื่องจากมันเป็นรอยนิ้วมือได้ง่ายเอาเสียมาก ๆ ครับ ผมบอกไว้ก่อนเลย อาจจะดูมัน ๆ สกปรก ๆ หน่อย ถ้าไม่ค่อยได้ขัด ได้เช็ดมัน แต่สำหรับคนที่ซีเรียสเรื่องนี้ผมแนะนำให้ใช้เคสหนังหรือเคสเคฟล่าในรีวิวด้านบนดีกว่า ซื้อไปไม่ถูกใจจะหงุดหงิดเสียปล่าวครับ แต่สำหรับผม ผมเฉย ๆ ครับ เช็ดก็ได้ไม่ซีเรียสอะไร – – v

สำหรับกล้อง ปุ่ม Power และช่องเสียบหูฟังนั้นไม่มีปัญหาครับ เจาะรูได้อย่างพอดิบพอดีและสวยงาม ^^

ขนาดของเคสครับ บาง ๆ ใส่แล้วไม่หนาเลย โฉบเฉี่ยวสุด ๆ –3-

สำหรับสีดำครับ ผมถ่ายเพิ่มเติมมาให้

อีกมุมหนึ่ง

หากเลือกสีดำจะดูเนียล ๆ ไปกับ iPhone ครับ สวยไปอีกแบบนึง –0-

ภาพจากด้านล่างกลืน ๆ กันเหมือนเป็นหนึ่งเดียวกับเครื่อง ที่ดูแปลก ๆ ไปนิดอาจเป็นเพราะกันรอยของผมเอง ^^

สีเหลืองก็ไม่มีพลาด เกือบลืมไปสำหรับเคสเซทนี้สีทั้งหมดเป็นสีเนื้อพลาสติกนะครับ ไม่ได้เกิดจากการพ่นหรือฉีด ผิวด้านในก็เป็นสีเดียวกันครับ ซึ่งที่นี้คือสีเหลือง ทำให้เวลาเคสถลอกหรือลอกแล้วดูไม่น่าเกลียดครับ – – v

อีกมุมหนึ่งของสีเหลือง (ไม่ใช่การเมืองนะ อิอิ…) ;P

ขนาดเมื่อใส่เคสแล้ว ให้ดูกันชัด ๆ เลยว่ามันไม่ได้หนา แต่อาจจะลื่น ๆ มือไม่กระชับมือเท่าเคฟล่าหรือหนัง

สรุป : จากเท่าที่จับมาหลาย ๆ ตัวแล้วผมขอสารภาพตามตรงว่าผมชอบหมดเลย (ฮา) อันนี้ทาง CG Mobile ก็ได้ทำการบ้านมาอย่างดีครับ จะสังเกตได้ว่าตัวเคสนั้นมีราคาไม่แพงมาก ซึ่งเป็นที่น่าตกใจมาก โดยปกติแล้วพวกสินค้าลิขสิทธิ์ (แท้) ของรถ Supercar แบบนี้ราคาจะแพงเวอร์ (เหมือนรถ – -“) อีกทั้งตัวเคสยังมีหลากหลายราคา และวัสดุให้เลือกซื้อให้เหมาะกับความต้องการและกระเป๋าเงินของผู้ใช้งานได้ สุดท้ายก็แล้วแต่ท่านแล้วล่ะครับว่าชอบแบบไหน?

ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)

กิจกรรมแจกเคสหลังรีวิว : คลิกที่นี่เลยครับ แจกเคส Ferrai 1 รางวัล (หมดเขต 01/12/54 เวลา 13.00 น.)

• Facebook
• Twitter
• Line