Meta มีแผนจะใช้ข้อมูลจากการแชทกับ AI ของผู้ใช้ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Facebook และ Instagram เพื่อปรับแต่งคอนเทนต์โฆษณาที่แสดงบนฟีด เตรียมเริ่มตั้งแต่ปลายปี 2025 และทางผู้ใช้ไม่สามารถยกเลิกได้!
Meta เตรียมใช้ข้อมูลแชทของผู้ใช้กับ AI เพื่อนำไปปรับแต่งเนื้อหา, โฆษณาให้ตรงใจมากขึ้น
หากจะใช้ Meta AI ใน Facebook, Instagram, WhatsApp หรือ Messenger หลังจากนี้อาจต้องพิจารณาอีกครั้ง เพราะ Meta วางแผนที่จะใช้การแชทของผู้ใช้กับ AI เพื่อปรับแต่งเนื้อหา และคำแนะนำโฆษณาโดยจะเริ่มแผนตั้งแต่ปลายปี 2025 เป็นต้นไป
การใช้งานข้อมูลการสนทนา AI
การแชททั้งแบบข้อความ และเสียงกับ Meta AI จะถูกนำไปใช้ในการปรับแต่งโพสต์, Reels, โฆษณา และอื่น ๆ อีกมากมาย โดย Meta ระบุว่า การนำข้อมูลการแชทกับ AI มาใช้จะช่วยให้บริษัทสามารถปรับปรุงคำแนะนำได้ดีขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ “มีแนวโน้มที่จะเห็นคอนเทนต์ที่สนใจจริง ๆ”
เช่น ถ้าแชทกับ AI เกี่ยวกับหัวข้อการเลือกรองเท้าวิ่ง Meta ก็จะแสดงโฆษณาเกี่ยวกับรองเท้าวิ่ง เช่นเดียวกับที่เรากดถูกใจเพจที่เกี่ยวข้องกับรองเท้าวิ่งไว้ก่อนหน้า
ยกเลิกไม่ได้ แต่สามารถปรับการตั้งค่าโฆษณาได้
ยังไม่มีวิธีที่จะยกเลิกการกำหนดเป้าหมายโฆษณาโดยใช้ AI ของ Meta ได้ แต่ Meta กล่าวว่าผู้ใช้สามารถปรับเนื้อหา และโฆษณาที่เห็นได้ด้วย Ad Preferences (การตั้งค่าโฆษณา) และการควบคุมฟีดข้อมูล ด้วย Ad Preferences
ผู้ใช้สามารถจำกัดโฆษณาจากหัวข้อเฉพาะ หรือบล็อกผู้ใช้หรือรายอื่น ๆ ที่ยิงโฆษณาได้ทีละราย แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่สามารถเลือกที่จะไม่ให้ Meta เข้าถึงการแชทกับ AI ได้
การโต้ตอบกับ Meta AI จะถูกใช้ข้ามผลิตภัณฑ์ (แอปพลิเคชัน) ของ Meta ที่เชื่อมโยงกับ Accounts Center เดียวกัน เช่น Facebook และ Instagram
เนื่องจากไม่มีฟังก์ชันยกเลิก วิธีเดียวที่จะป้องกันไม่ให้ Meta ใช้การแชทกับ AI เพื่อปรับแต่งเนื้อหา และโฆษณา คือ “การไม่ใช้ AI”
ข้อยกเว้น
หัวข้อที่ละเอียดอ่อน เช่น รสนิยมทางเพศ, การเมือง, สุขภาพ, เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์, ความเชื่อทางปรัชญา หรือการเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน จะไม่ถูกนำมาใช้ในการกำหนดโฆษณา

การเริ่มใช้แผน
Meta วางแผนที่จะเริ่มใช้ AI เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานเฉพาะบุคคล (personalization) ในวันที่ 16 ธ.ค. 2025 หมายความว่าแชทที่คุยกับ AI ก่อนวันที่ 16 ธ.ค. 2025 จะไม่ถูกนำมาใช้ โดยจะได้รับการแจ้งเตือนภายในแอปพลิเคชัน และอีเมลก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งในขณะนี้แผนดังกล่าวเตรียมใช้กับทุกประเทศทั่วโลก ยกเว้นสหภาพยุโรป (EU), สหราชอาณาจักร (UK), และเกาหลีใต้
ที่มา: MacRumors