ขอหยิบยกวิธีการเตรียมตัวสำหรับใครที่ต้องการคิดจะขาย iPhone ที่ใช้งานอยู่ออกไปเพื่อหวังจะเอามาใช้ในการอัปเกรตรุ่นใหม่หรือต้องการขายออกไปเพราะมีหลายเครื่อง วันนี้จะแนะนำว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อให้สินค้าของเรานั้นขายได้ราคาเหมาะสม
หยั่งเสียงแฟนๆ มีคนสนใจเยอะพอควรสำหรับเรื่องนี้ ผทเลยเขียนให้ทุกๆ ท่านได้อ่านและลองเอาไปพิจารณาดูกันครับ
Admin: ใครคิดอยากจะขาย iPhone เก่า เพื่อเตรียมซื้อ 5c, 5s บ้าง ขอมือครับถ้ามีจะเขียนคำแนะนำให้อ่าน #imod
Posted by iPhonemod – เรื่องเล็กๆของ iPhoneกลุ่มคนรักไอโฟนในประเทศไทย on Monday, September 30, 2013
เรามาชม 6 ขั้นตอนสำหรับการเตรียมตัวว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างหากต้องการให้ได้ราคาดีๆ
1. เตรียมอุปกรณ์
- เช็คกล่อง ของในกล่อง คู่มือ
- หูฟัง earpod
- สายชาร์ตพร้อม adapter
- ใบเสร็จซื้อขาย(หากยังเก็บเอาไว้)
2. ตรวจสอบสภาพภายนอก
- หากมีฟิล์มกันรอยให้แกะออก เพราะฟิล์มจะลดความสวยงามของหน้าจอ Retina display ไปสัก 20-30% หากคุณลอกฟิล์มออกแล้ว พยายามเช็คให้จอใสๆ ด้วยผ้าไมโครสะอาดๆ รับรองมูลค่าเพิ่มอีกเยอะ ส่วนฟิล์มนั้นก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าของรายต่อไปว่าเขาจะติดหรือเปล่า
- ถอดเคสที่มีอยู่แยกต่างหาก ใส่กล่องเอาไว้หากต้องการแถมอย่าลืมทำความสะอาดด้วยหละ
- ตัวเครื่องทำความสะอาดให้หมดจด ใช้ภาพไมโครที่ละเอียดอย่างผ้าเช็ดว่ามาทำการเช็คออกสัก 4-5 รอบเอาให้คราบฝุ่น คราบมันนั้นหายไปเลย
- ช่องลำโพงหรือที่แนบหูฟังก็เอาแปรงสีฟันเก่าๆ มาขัดฝุ่นออก
- ส่วนสายชาร์ตหรือ adapter นั้นก็หาฝ้าหรือสำลีชุบน้ำปิดหมาดๆ มาเช็คเบาๆ หรืออาจจะทำตามบทความนี้ก็ได้ เพื่อให้คราบฝุ่นที่ติดอยู่ที่สายนั้นออกไปทำให้ขาวขึ้นหน่อยมันจะได้ดูน่าใช้งานมากขึ้น
3. เช็คสภาพเครื่องภายใน
ตรวจสอบการทำงานของเครื่องว่าแต่ละฟังก์ชันทำงานได้ดีอยู่ไหม เช่น Wifi, Sound, Bluetooth, ระบบ touch screen ว่าทำงานได้โอโคไหม เหมือนการเช็คให้ดีว่าเครื่องเรายังปกติหรือเปล่าเอาให้ครบทุกส่วน
4. ทำเครื่องให้เป็น Original
- สำคัญมากต้อง ปิด Find My iPhone โดยเฉพาะเครื่องที่ลง iOS 7 แล้ว ต้องเอาออก ถ้าไม่งั้นคนที่ซื้อไปจะใช้งานไม่ได้ (ส่วนใครที่จะซื้อต่อต้องเช็คเมนูนี้ให้ดี) ปิดได้ที่ Settings> iCloud> Find My iPhone
- ลบข้อมูลเก่าออกให้หมดไม่ว่าจะเป็น Contact, iCloud, Application, Email หรืออื่นๆ เอาออกให้หมดเลย แนะนำให้ทำการ Shift + Restore เพื่อให้ลงเหลือเฉพาะ iOS นั้นล้วนๆ (แต่ถ้าใครใช้ iOS 6.0-6.1.2 ที่ต้องการขายไปพร้อมการเจลเบรคก็ระบบบอกกับผู้ที่ต้องการซื้อได้) จากนั้นก็ Activate ด้วยซิมของเราให้เข้าไปที่หน้า Home แต่ไม่ต้องล็อคอิน App Store และ iCloud ให้เว้นเอาไว้ จุดประสงค์คือคนที่ซื้อเขาจะได้เอาซิมลองใส่แล้วเช็คว่ามันรับสัญญาณได้หรือเปล่า
5. บรรจุของ
ขั้นตอนสุดท้ายหลังจากเช็คทุกอย่างทำความสะอาดทั้งอุปกรณ์ภายนอกและเช็คซอฟต์แวร์ภายในเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาเก็บของลงกล่องให้เขาที่เหมือนเมื่อครั้งซื้อเครื่องมาจากศูนย์ถ้าทำได้เช่นนี้แล้วก็จะแสดงว่าของที่คุณมีนั้นถือว่าเป็นสินค้าที่ได้รับความเอาใจใส่เป็นอย่างดี คนซื้อต่อก็จะได้มีความมั่นใจในการติดสินใจซื้อสินค้าจากคุณนั่นเอง
6. นัดพบเช็คสินค้าและจ่ายเงิน
เพื่อความแฟร์สำหรับผู้ซื้อ – ผู้ขายทั้ง 2 ฝ่าย แนะนำว่าหากต้องการคุยก็โทรหรือว่าแชทผ่านออนไลน์ได้ แต่ว่าการนัดดูของหรือว่าส่งมอบสินค้าแนะนำว่า ต้องนัดเจอเท่านั้น เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจกันทั้ง 2 ฝ่าย หากเป็นไปได้ก็ขอแลกสำเนาบัตรประชาชนเอาไว้ด้วยก็ดี ทั้งนี้จะได้ชัวร์ว่าเราซื้อของจากใคร หรือว่าเราขายของให้ใคร
ผู้ซื้อที่ซื้อไปหากเกิดกรณีที่ไม่คาดคิดเมื่อมีการตรวจสอบภายหลังพบว่าเครื่องขโมยมาอย่างน้อยเราก็ทราบได้ว่าคนที่ขายให้เรานั้นเป็นใคร
การนัดเจอควรจะไปด้วยกันสักฝั่งละ 2 คน หากเป็นผู้หญิงต้องการขาย iPhone ให้แล้วมีผู้ชายติดต่อมาก็อย่านัดเจอที่เปลี่ยว ให้ชวนเพื่อนผู้ชายไปเป็นเพื่อนด้วยเราจะได้ปลอดภัยอะไรทำนองนั้น สถานที่ก็ขอให้เป็นที่สาธารณะจะได้ไม่มีปัญหาครับ
ทั้งหมดที่แชร์มานี้เป็นความเห็นและประสบการณ์ตรงของผมอาจจะขาดตกตรงไหนหรือว่ากังวลมากไปก็เอาปรับไปใช้ให้เหมาะสมแล้วกันนะครับ ส่วนใครที่อยากให้เพิ่มจุดไหนก็เมนต์ข้างล่างได้เลยครับ
7 Comments