in , ,

รีวิว – เคส iPad 2 จาก Ozaki รุ่น iCoat Wardrobe+

นับตั้งแต่ที่ Apple ออก Smart Cover มาผมและหลายคนคงคิดว่า เอ… มันขาดอะไรนะ มันต้องขาดอะไรซักอย่าง แต่แดแด๊ … คำตอบคือ “มันไม่ปิดข้างหลังนั่นเอง” นั่นน่ะสิ? ปิดแต่ด้านหน้าแล้วทำไมไม่ทำให้มันปิดด้านหลังด้วยหว่า วัยรุ่นเซง ๆ ๆ ToT จริง ๆ ผมว่าด้านหลังมันควรจะปกป้องมากกว่าด้านหน้าซะอีก เพราะด้านหน้ายังไงก็มีกันรอย แถมยังใส่ประเป๋าอีก เวลาวางก็วางจากด้านหลัง ดังนั้นโอกาศที่ด้านหน้าจะเป็นรอยนี่แทบจะไม่มีเลย แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านศาสดาว่ามาตามนั้น เราทุกคนก็ต้องว่าตาม – -* ห้ามเถียง ห้ามสงสัย แต่จนแล้วจนเล่าก็มีกลุ่มผู้กล้า ที่มีแนวคิดเหมือนกับเรามาช่วยปลดปล่อยโลกใบนี้ ซึ่งนั่นก็คือ Ozaki นั่นเอง -0-” ดังนั้น “พวกเราจงมาปกป้องด้านหลังของ iPad 2 ด้วยกันเถอะ” เอ้า … พร้อมแล้วลุยกันเลย เฮ้ฮฮฮฮฮฮฮ …. ^0^ (ติ๊งต๊องเนอะ – -*)

ตัวบรรจุภัณฑ์ของ Ozaki มาแบบเดิม ๆ เหมือนกับสมัยตอน Case iPad 2 Ozaki รุ่น iCoat Versatile Vertical และ Case iPad 2 Ozaki รุ่น iCoat Horizontal Vertical ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ Ozaki จริง ๆ

เคส “iCoat Wardrobe+” สามารถหาซื้อได้ตามห้างทั่วไปหรือที่ BBiPhone.com จะอยู่ที่ราคา 1,190 บาท
(ก่อนอื่นขอขอบคุณ – BBiPhone.com ผู้สนับสนุนสินค้าในการทดสอบครั้งนี้)

ตัวเคส Ozaki สำหรับ iPad 2 เท่านั้นนะครับ หากใครใช้ iPad 1 จะไม่สามารถใช้ได้ดังนั้นไม่ต้องทุรังนะครับ

จุดเด่นของ iCoat Wardrobe+ ก็คือการปกป้องด้านหลัง, หนาเพียง 1.2 มิลลิเมตร และหนักเพียง 72 กรัม

ตัวเคสนั้นมีให้เลือกหลายสีตาม Smart Cover เลยครับ ดังนั้นเข้าแน่นอนไม่ต้องห่วง ส่วนใครใช้ Smart Cover สีอะไรอยู่ก็ลองไปเลือกดูครับ แต่ใครชอบติดแค่ด้านหลังแบบผมแต่ไม่ใช้ Smart Cover ก็สามารถทำได้นะ เพียงแต่ต้องหากระเป๋าหรือ Softcase เก็บดี ๆ และติดกันรอยก็เท่านั้นเอง

iPad 2 และ Smart Cover ไม่มีอยู่ในกล่องนะ (กลัวไม่รู้ – -*)

นอกจากนี้ทาง Ozaki ยังได้มีบริการที่สุดแสนจะพิเศษสุด คือมี App “iCoat” ให้โหลดกันฟรี ๆ บน App Store ด้วยนะหากใครสนใจกด ที่นี่ เลยครับ ถามว่า App นั้นทำอะไรได้ คำตอบก็คือเป็น App ของ Ozaki ที่จะรวบรวม Wallpaper ต่าง ๆ ให้เขากับเคสที่เราใช้น่ะครับ ซึ่งใครสนใจต้องลองค้นหาคำตอบด้วยตัวเองดูครับ ^^

โดยอันที่ผมเลือกมานี้จะเป็นสีเทานะครับ ซึ่งภาพนี้อ่าจจะกระด่างหน่อย อย่าพึ่งไปยึดติดมันครับ เพราะเป็นผลมาจากกล้องของ iPhone 4 นั่นเอง ที่มันมีปัญหากับหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ลองดูสีจริงจากภาพแรกดูครับ T_T

ตัวผลิตภัณฑ์ด้านในมีคู่มือการติดตั้งให้อย่างละเอียดยิบ ๆ ๆ ๆ เลย >,<

แอ่นแอนแอ๊นนนนน … ติดตั้งเสร็จแล้วครับ สำหรับ iCoat Wardrobe+ ของเรา เป็นอันจบการรีวิวครับ โว๊ะะะะ … เสียเมื่อไหร่เล่า -..-”

การเก็บมุมของเคสบริเวณด้านข้างครับ สามารถทำได้พอดีล็อคไม่ยื่น ไม่โผล่ออกมาจนน่าเกลียดเลย

ดูงานต่าง ๆ ของ iCoat Wardrobe+ ซึ่งไม่หนาออกมามากเสียเท่าไหร่

ด้านหลังของ Ozaki ถึงจะเป็นสีเทา แต่ก็ยังคงความโปร่งแสงทำให้มองเห็นถึงลายละเอียดและส่วนประกอบของ iPad 2 ได้เป็นอย่างดี เท่านั้นยังไม่พอยังได้เคลือบสารกันลื่นไว้บริเวณด้านหลังด้วย ทำให้สามารถถือได้ง่ายขึ้นและไม่ร่วงหล่น และแน่นอนครับสามารถใช้ร่วมกับ Smart Cover ได้โดยไม่ติดปัญหาใด ๆ

ตัว Ozaki มาแนวกวนเหมือนเดิมครับ มีโลโก้ของตัวเองเล็ก ๆ ด้านล่าง (จริง ๆ ผมว่าถ้าหัวครอบ Apple ไปเลยจะฮากว่านะ) ;D

การเว้นช่องต่าง ๆ ด้านปุ่มปรับเสียงนั้นได้ทำมาอย่างดี ซ้าย-ขวา-หน้า-หลัง เท่ากันแป๊ะ ๆ ๆ … สวยงาม

ตรงที่เจาะรูบริเวณกล้องนั้นเอียงเล็กน้อย แต่ไม่เป็นอุปสรรค์กับการใช้งานครับ ถ่ายภาพได้ปกติ

รูปริศนา ??? ใครก็ได้ช่วยบอกผมที มันเป็นรูที่อยู่ด้านบนของ iPad 2 เฉพาะรุ่น 3G น่ะครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน – -*

รูตรงบริเวณช่องเสียบหูฟัง ที่ดูเหมือนว่ามันจะปิดทับใช่ไหมครับ? ใช่ครับ ตอนแรกผมก็คิดแบบนั้น จนเผลอดีใจว่าได้หาเรื่องวิจารณ์แล้ว แต่ที่ไหนได้มัน “พอดี” ครับมันเหมือนจะทับ แต่มันดันพอดีครับ T^T เอาเป็นว่าผ่านนนนนน

การเว้นช่องบริเวณด้านข้างสำหรับใช้ร่วมกับ Smart Cover อันนี้ออกแบบได้พอดี เรียบร้อยดี แต่ขอติตรงที่ว่า “ทำไมถึงไม่ยืดออกไปอีกนิด จะได้แกะซิม 3G ได้โดยไม่ต้องถอดเคส” ซึ่งดูแล้วกวนใจผมเอามาก ๆ เลย -*- อีกนิดเดียวแท้ ๆ จะเว้าจะแหว่งให้หน่อยก็ไม่ได้ จะได้เสียบเอาซิม 3G ออกมาสะดวก ๆ หน่อย >,<

ช่องสำหรับเสียบสาย Sync เว้นไว้ให้แบบเหลือ ๆ แต่ก็ดีจะได้เสียบง่าย ๆ สำหรับ Dock ต่าง ๆ (ถ้ามี) จะได้ไม่มีปัญหา ^^

ส่วนบริเวณของเสียงล่ะ? ลำโพงนั้นเว้นไว้ให้พอดีครับ ไม่กดทับ ไม่ติดขัดประการใด ให้เสียงเหมือนมาจากโรงงาน

ปากก็บอกว่า iCoat Wardrobe+ สามารถใช้ร่วมกับ Smart Cover ได้ใช่ไหมครับ? หากผมไม่ลองทดสอบให้ดูหน่อย ก็คงจะไม่เห็นภาพ ดังนั้นผมจึงขอทดสอบกับ Smart Cover ด้วยเลยแล้วกันครับ ขอมาจาก BBiPhone.com อีกเช่นเคย เนื่องจากผมไม่มีและใช้เคส iRoo รุ่น LS-Series อยู่ (อันนี้แนะนำครับ ถูกใจผมจริง ๆ ขนาดผมยังใช้เลย)

ถึงแม้จะไม่ได้ซื้อจาก iStudio แต่ก็เป็นของแท้จาก Apple เหมือนกันครับ (ที่สำคัญถูกกว่าเยอะด้วย) ซึ่งร้านนี้ขายแต่ของแท้ทุกอย่าง ผมรับประกันได้ แต่รู้สึกว่า Smart Cover นี้ของจะขาดสต๊อกจาก BBiPhone.com แล้วมั้งครับ ขายดีจนของหมดเกลี้ยงเลยสำหรับตัว Smart Cover ^^

ติดตั้งเสร็จแล้วครับทั้ง Smart Cover และ iCoat Wardrobe+ เห็นได้ว่าจะพอดีกันเลย ไม่มีอะไรยื่นออกมาจนน่าเกลียด

ตรงที่ติดแม่เหล็กของ Smart Cover นั้นเว้นออกมาด้านยาวได้พอดีแป๊ะ … นอกจากนี้ด้านหลังยังได้เว้นที่อีกไว้สำหรับเผื่อพับเวลาถือ ทำให้ตัว Smart Cover ไม่หลุด ซึ่งเก็บงานได้ดีเอาเสียมาก ๆ

ส่วนตรงนี้เป็นปัญหาคาใจที่ผมบอก อีกนิ๊ดดดดเดียวก็สามารถเสียบเพื่อเอาซิมออกได้แล้วอ่า T^T เสียดาย ๆ ๆ …

ภาพจากมุมด้านข้าง ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นเคสเดียวกัน เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย ^0^

จากการทดสอบทางทีมงานได้ลองพับลองถือดูแล้วไม่หลุด ไม่ร่วง ไม่หล่นแต่อย่างใด เป็นอันว่าไม่มีปัญหาจากการออกแบบครับ ^^

ทดสอบการตั้งเคสด้วย Smart Cover เนื่องจากน้ำหนักที่เพิ่มมาแค่ 72 กรัมของเคส เลยทำให้ไม่หนักจนเกินไป

ภาพจากบริเวณด้านหลังครับ บางมาก ๆ ไม่ทำให้องศามุมมองเปลี่ยน

ดูความหนากันชัด ๆ เลย จะเห็นได้ว่านิดเดียว ๆ จริง ๆ (สังเกตุได้ตรงบริเวณลำโพง)

ลองทดสอบอีกมุมหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้อ่าน

สรุป : เป็นเคสด้านหลังอีกตัวหนึ่ง ที่ใช้งานได้ค่อนข้างโอเค จับถนัดมือ ไม่หลุดมือไปไหน ข้อเสียที่พบยังไม่ค่อยเจออะไรที่ใหญ่หลวงมากนัก งานเก็บได้ดี แต่หากใครมีงบหน่อยและอยากได้เคสที่เป็นชิ้นเดียวเลยผมแนะนำเคส iRoo รุ่น LS-Series (เพราะผมก็ใช้อยู่) เพียงแต่ราคามันอาจจะสูงไปนิดนึง แต่อันนี้แล้วแต่ความชอบครับ ซึ่ง iCoat Wardrobe+ ผมก็ว่างานดีอยู่ และสามารถใช้ร่วมกับ Smart Cover ได้ เอาเป็นว่าใครมี Smart Cover อยู่แล้วและกำลังเซง ๆ กับรอยด้านหลังเครื่อง อยากจะเปลี่ยนเคสใหม่แต่ก็เสียดาย Smart Cover ผมว่า iCoat Wardrobe+ ก็เป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ที่ดีเอาเสียมาก ๆ เลยล่ะครับ

ขอขอบคุณ : ร้าน BBiPhone.com ที่เอิ้อเฟื้อเคสคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ
(หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถคลิกสั่งซื้อได้ ที่นี่)

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย yugioh2500

หากตรงไหนแปลหรือเขียนผิดสามารถชี้แนะได้ครับ
ติดต่อ-สอบถาม-พูดคุย-แลกเปลี่ยนกันได้ที่
Twitter: @yugioh2500

8 Comments

  1. ใช้ของ SG ไรซักอย่าง 400 เท่านั้น

    • เดี๋ยวจะลองเช็คดูให้นะครับ ถ้าได้จะเอามารีวิวเทียบกับตัวนี้ให้ชมครับ

    • อ่าว … หรอ ขอบคุณคร้าบบบบ ^^

  2. รูไมค์ ไม่ใช่แค่รุ่น 3จี ไวไฟก้มีนะ ผมเหงอยู่