สวัสดีครับ ยุคนี้คงเป็นธรรมดาไปแล้วที่จะต้องมี Tablet คู่กาย ซึ่งในตลาดก็มีให้เลือกอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น iPad, BB Playbook, Galaxy Tab, Acer Aconia, Motorola XOOM, Archos, Viewsonic หรือแม้กระทั่ง House Brand อย่าง G-Pad(G-net), i-Note(i-Mobile) ก็เอากับเขาด้วย ยังไม่นับรวม Tablet ยิบ ๆ ย่อย ๆ จากจีนที่มาขายในบ้านเราจำพวก aPad, iRobot บลา ๆ ๆ … อีกมากมาย โดยผมจะแบ่งลักษณะการใช้งานไปตามระบบปฏิบัติการคือ Windows, Android, RIM, iOS ซึ่งความชอบและการใช้งานจะแตกต่างกันออกไป ถ้าถามว่าอะไรดีที่สุดคงยากที่จะตอบ (ไม่ได้กลัวจะตีกันตายคาบอร์ดนะ) แต่คำตอบมันกว้างเอามาก ๆ พอ ๆ กับว่ารถกับเรืออันไหนดีกว่ากัน? เพราะตัวแปรมันมากจริง ๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยววันนี้เรามาชมรีวิว Tablet ทางเลือกอีกตัวหนึ่งดีกว่าครับ ว่ามันจะตอบสนองการใช้งานของคุณได้หรือไม่?
สืบเนื่องมาจากมีสมาชิกท่านหนึ่งได้สนใจจะรีวิวสินค้าตัวหนึ่ง จึงได้ติดต่อสอบถามมาที่ผมเพื่อทำการส่งสินค้ามาทดสอบ ใครสนใจส่ง Gadget หรือสินค้าเจ๋ง ๆ มาให้ทีมงานทดสอบสามารถติดต่อได้ ที่นี่ เลยครับ หรือหากจะฝากข่าวประชาสัมพันธ์ก็ยินดีครับ โดย Tablet ตัวนี้น่าสนใจตรงที่สามารถ Boot ได้ทั้ง Android และ Windows 7 ซึ่งมีไม่กี่ตัวในบ้านเราที่สามารถทำแบบนี้ได้ โดยลักษณะการใช้งานนั้นค่อนข้างที่จะแตกต่างไปกับ iPad, BB Playbook, Galaxy Tab เนื่องจากมันเป็น Windows 7 คงไม่สามารถเอาไปเทียบตรง ๆ กับ Tablet 3 จตุรเทพด้านบนได้ ตอนผมได้จับครั้งแรกต่างก็คิดในใจว่า “ใครมันจะซื้อ” แต่พอได้ลองด้วยตัวเองและให้บุคคลรอบข้างเล่นดูแล้ว ถือว่าค่อนข้างตอบโจทย์บางอย่างได้ดีเลยทีเดียว ส่วนจะเป็นอย่างไรลองติดตามอ่านครับ
สเปคคร่าว ๆ ของ M10 NetBook Tablet Dual Boot
- สามารถเลือกเล่นได้ทั้งAndroid (ให้มาพร้อมกับ Android 2.2) หรือ Window 7 (ลูกค้าลงเองภายหลัง) โดยเลือก OS ตอน Boot เครื่อง
- ดีไซน์บาง 14 mm น้ำหนัดเบา (681กรัม)
- มี On-Board Mouse สามารถเลื่อน Mouse ได้โดยระบบสัมผัส และมีปุ่มบังคับทิศทาง (ขึ้นลงซ้ายขวา) อยู่ด้วย
- มี Slot-In สำหรับใส่ SIM ขนาดมาตรฐาน (support 3G – 850 /1900/2100 MHZ, GSM, GPRS, EDGE 850/900/1800/1900 MHz) ภายในเครื่อง ไม่ต้องยุ่งยากในการเสียบ 3G AirCard เพิ่ม
- มี Port Mini VGA สำหรับต่อกับ Projector หรือ External Monitor โดยให้สายแปลง Mini-to-VGA
- มี Port USB ให้ 2 Ports ซึ่งสามารถต่ออุปกรณ์ภายนอกได้อย่างง่ายดายรวมถึงต่อ External Harddisk ได้ใน Window Mode
- Lithium Polymer Battary 3200 AmH โดยใช้ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง
- หน้าจอ 10 นิ้ว ความละเอียด 1024×600 พิกเซล Multi-Touchscreen
- Built in Solid State Harddisk 32GB (basic spec เริ่มต้นที่ 16 GB)
- Ram เป็นแบบ 2GB DDR3 (basic spec เริ่มต้นที่ 1 GB)
- พร้อมด้วยกล้องความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล
- มีไมโครโฟนและช่องต่อหูฟัง
- พร้อมด้วย Bluetooth และ WI-FI
- สามารถให้แสดงภาพแนวตั้งและแนวขนานตามการวางโดยใช้ G-SenSor
Specification Detials
- LCD Size: 10”TFT LCD with resolution of 1024×600 (16:9 ratio). Captivate Touch Screen
- CPU: Intel Atom N455 1.66 GHz
- RAM DDR 3 (667 MHz) 2 GB (basic spec: 1 GB)
- Harddisk: SSD 32 GB (basic spec: 16 GB)
- 3G Module (Slot Build-in)
- Button Control (Power, On-board Mouse, Wi-Fi and 3G control)
- 1 Micro SD (can support up to 32 GB)
- 2 USB Port (can support LAN connect through USB-to-RJ45)
- 1 Audio Output Socket + Built-in Microphon
- 1 SIM Slot (for 3G network)
- 1 Font Camera of 1.3 M Pixel
- Built-in WiFi 802.11 b/g/n
- Bluetooth V 2.1 + EDR
- Battery – Li-Polymer 3200 AmH
- OS: Support both Android and Windows (selecting during booting)
สาเหตุที่ผมค่อนข้างชอบ Tablet ตัวนี้คือ 1. ผมมี iPad2 แล้ว 2. ผมอยากได้ Netbook (ขออนุญาตนอกเรื่องนิดนึง) ผมเป็นคนนึงที่มักตอบคำถามให้กับเว็บบอร์ด Pantip Tech เพราะผมเชื่อว่าการให้วิทยาทานความรู้ถือเป็นบุญอันประเสริฐ จากการสำรวจด้วยสายตาของผมแล้ว เดือน ๆ นึงมักจะมีคนมาตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับเรื่อง iPad – Netbook – Notebook จำนวนมาก โดยส่วนใหญ่มักจะมาถามประมาณว่า “ผมซื้อ iPad ไปทำงาน Office ดีไหมครับ” ซึ่งใช่ครับคุณอาจจะซื้อ iPad มาใช้ทำเอกสารได้ แต่ผมเชื่ออย่างยิ่งว่ามันเป็นการใช้ Device ที่ไม่ถูกวัตถุประสงค์เลย เพราะถึงจะพอมี App ที่ใช้งานกับ Microsoft Office ได้แต่สุดท้ายคุณก็จะล้มเลิกความตั้งใจอยู่ดี (ยังไม่ขอพูดถึงเรื่อง Font เพี๊ยน ย่อหน้าเลื่อนนะ) เพราะเนื่องจากความสะดวกสบายในการทำงานมันต่างกัน การพิมพ์งานผ่านทัชสกรีนแทบจะไม่ทำให้ได้งานเลย เพราะกว่าคุณจะจิ้ม ๆ ได้แต่ละตัว อีกทั้งมันไม่มี “USB” ครับ ปัญหาสำคัญเลยสำหรับการโอนถ่ายข้อมูล การเสียบเมาส์ การเสียบ FlashDrive, HDD Ext. ทำให้ความสะดวกหายไปเยอะครับ อีกทั้งมันไม่สามารถลงโปรแกรมที่เป็น .exe ได้เลย ซึ่งนั่นหมายความว่าหากคุณต้องการลงโปรแกรมอะไรซักตัวเพื่อใช้งานนั้นลืมไปได้เลย ซึ่ง Tablet Windows คือคำตอบ หากคุณต้องการทำงานกับมันและอยากได้อุปกรณ์เบา ๆ ที่ใช้พกพาและนำเสนอดี ๆ ซักตัวหนึ่ง !!!
สำหรับมือเก๋าคงจะเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ผมอยากอธิบายให้มือใหม่อุปกรณ์แต่ละชนิดมันทำงานไม่เหมือนกัน โดยผมจะเรียงลำดับประสิทธิภาพการใช้งานต่อราคาและความสะดวกในการใช้งานและพกพาดังนี้ Desktop > Notebook > Netbook > Tablet > Mobile ซึ่งจากลำดับที่ผมให้ไปนั้นจะเห็นได้ว่า M10 NetBook Tablet Dual Boot นั้นอยู่ตรงกลางระหว่าง Mobile และ Netbook โอเคนะครับ เข้าใจแล้วนะครับ ผมพยายามอธิบายให้ง่ายที่สุดแล้วผิดถูกประการใดก็ขออภัยด้วยครับ (เอาล่ะเข้าเรื่องต่อ) M10 NetBook Tablet Dual Boot นั้นถูกออกแบบมาให้พกพาได้ง่าย โดยความสะดวกสบายในการใช้งานนั้นจะยังคงอยู่คือเป็นการผสมผสานกันระหว่าง งาน และ ความบันเทิง จากภาพจะเห็นได้ชัดว่าทางด้านขวาของเครื่องจะมีปุ่มลัดสำหรับการใช้งานอยู่ นั่นก็คือปุ่ม โฮม คลิก แทร๊กบอลล์ และ สวิสต์ปิดเครื่อง ซึ่งที่ผมชอบมาก ๆ ก็คือปุ่มแทร๊กบอลนี่แหล่ะ สามารถเลื่อนไปมาได้อย่างอิสระ หากทัชสกรีนไม่ถนัด (ใครอยากรู้ว่ามันสะดวกหรือเป็นยังไง ขอให้ลองไปสัมผัสได้จากมือถือ BB ของสาว ๆ ครับ)
บริเวณด้านหลังนั้นเรียบ ๆ ครับ เขียนแค่ชื่อโมเดลและกำลังไฟที่ต้องจ่ายเฉย ๆ วัสดุทำจากพลาสติกครับ ซึ่งมันค่อนข้างที่จะดีกว่าพวก A-Pad, iRobot มาก ๆ ตามความรู้สึกผม ซึ่งถ้าซื้อพวกนั้นผมว่าซื้อตัวนี้ดีกว่าครับ เล่นวินโดว์ได้ด้วย โดยหากจะว่าไปคู่แข่งที่แท้จริงของ M10 NetBook Tablet Dual Boot จะเป็นจำพวก G-Tab เสียมากกว่า โดยความรู้สึกตามตรงแล้วจากที่ได้อ่าน Review จากสำนักอื่นมา ตัวนี้ชนะ G-Tab ขาดครับ ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก สเปค หรือดีไซน์
เรื่องการเก็บงานผมว่าตัวนี้ทำได้ดีเลิศเลยครับ ทุกอย่างออกแบบมาได้สมบูรณ์มาก ๆ ผมยังคิดในใจเลยว่าทำไมไม่ใส่ CPU พวก APU A-50 มาให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยนะ จะได้ดูหนัง Full HD ต่อออกจอนอกได้เลย 😀 แต่ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็คงเพียงพอสำหรับการพิมพ์งาน เล่นเน็ต หรือดูหนัง ฟังเพลง ได้ชิว ๆ อยู่แล้ว ตัวของ M10 NetBook Tablet Dual Boot นั้นมีเคสอย่างดี (ย้ำว่าอย่างดี) ซึ่งผมให้เครดิตราคาหลักพันเลยครับสำหรับเคสนี้ ออกแบบมาได้ดีมาก ๆ ผมดูเคส iPad ราคาเป็นพันบางตัวยังไม่ค่อยสมบูรณ์แบบเท่านี้เลย ตัวเคสทำจากหนังสังเคราะห์ส่วนด้านในเป็นผ้าแข็ง มีตีนตุ๊กแกอันเล็ก ๆ แต่แข็งแรงมาก (ชอบมาก ๆ ไอเดียเก๋) อยู่ด้านล่างทำหน้าที่คอยยึดปรับระดับการตั้ง ช่องต่าง ๆ ได้ถูกเว้นไว้อย่างเหมาะสมและสวยงาม และฝายึดเครื่องใช้ระบบแม่เหล็ก
ช่องต่าง ๆ ถูกออกแบบมาอย่างดี ดังที่ผมว่า ซึ่งค่อนข้างถูกใจผมมาก หน้าจอเป็นแบบ Capacitive (ใช้นิ้วสัมผัส) ซึ่งต่างจาก Tablet รุ่นล่าง ๆ รวมถึง G-Pad ที่เป็น Resistive (ใช้แรงกดสัมผัส) ซึ่งตรงนี้ผมว่า Capacitive จะให้ความรู้สึกที่ดีกว่า และสมราคามากกว่า ความลื่นอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยครับ ต้องลองสัมผัสเองแล้วคุณจะลืมประสบการณ์แย่ ๆ ที่ผ่านมา
ระหว่างเปิดเครื่องใช้งานจะมีไฟขึ้นที่แทร๊กบอลเป็นสีฟ้า ตัวเครื่องมีเซ็นเซอร์หน้าจอ โดยหากพลิกจอแนว ตั้ง-นอน อัตราส่วนหน้าจอของ Windows 7 จะพลิกตามไปด้วย ซึ่งถือว่าสะดวกมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหน้าเว็บไซต์ยาว ๆ หรือใช้ในการดูภาพบุคคลแนวตั้ง
ภาพระหว่างบูทเหมือน Laptop ทั่ว ๆ ไปครับ มีให้กดเข้าไบออส ตัวนี้ไม่มีช่องใส่ DVD Drive นะครับ เหมือน Netbook ทั่วไป คือ ถ้าหากจำเป็นต้องใช้จริง ๆ อาจต้องซื้อ DVD Extranal (ราคาประมาณ 1 พันบาทของ LG มีขายที่ IT City) หรือไม่ก็ใช้แฟลชไดว์เอาครับ หรือหากใครต้องการโอนไฟล์ผ่านเครื่อข่ายก็สามารถใช้ Wireless B/G/N ที่มีอยู่ในเครื่องได้
ตัวเลือกตอน Boot มีให้เลือก 2 OS ด้วยกันคือ Android และ Windows 7 หากใครต้องการแค่เล่น App ลองเข้า Android ไปก็จะได้ประสบการณ์ที่ไม่เลวครับ สามารถคลายเครียดฆ่าเวลาได้ หรือจะใช้สำหรับต่อเน็ต เล่นเกม Flash ก็ไม่เลว (iPad ทำไมได้นะ) ซึ่งมันเป็นจุดเด่นของ M10 NetBook Tablet Dual Boot เลยทีเดียว
ภาพตอนบูทเข้าวินโดวส์ครับ หน้าจออาจดูไม่ค่อยใสเท่าไหร่นะครับ เพราะมันติดฟิล์มกันรอยอยู่ ผมไม่กล้าแกะออกกลัวติดแล้วมันแย่กว่าเดิม T^T สามารถใช้งานได้ดีเหมือนปกติเลยครับ เร็วกว่า Netbook ทั่ว ๆ ไปด้วยซ้ำเพราะ HDD ข้างในเป็น SSD ทำให้บูทเครื่องได้ว่องไว ประหยัดไฟ และไม่ต้องกังวลเรื่องกระเทกเวลาตกหล่อ หรือสั่นสะเทือน เนื้อที่ที่ได้มาอาจจะน้อยไปหน่อย 32GB แต่สามารถปรับแต่งได้ด้วยการปิด Hibernate และ Pagefile ครับ ได้ที่เพิ่มขึ้นหลาย GB เลยทีเดียว ส่วนถ้าหากไม่พออีกก็ยังสามารถใส่ MicroSD เพิ่มไปได้อีกครับ (สาเหตุที่ SSD ความจุน้อย เป็นเรื่องของราคาครับ แค่ตัว SSD เองก็ล่อไป 3 พันกว่าบาทแล้ว) น้ำหนักตัวนี้เบาครับ 681 กรัมเท่านั้น เบามาก ๆ เมื่อเทียบกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ (มาก) ของมัน ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1024×600 พิกเซล โดยขนาดอยู่ที่ 10″ อัตราส่วนอยู่ที่ 16:9 (ถ้าหากเป็น iPad 4:3)
ความเร็วของ SSD ถือว่าเร็วเมื่อเทียบกับ HDD ทั่ว ๆ ไป เปิด-ปิด โปรแกรมอะไรไม่ขัดใจแน่นอนครับ อ้อ… ลืมบอกเรื่องสำคัญไปตัวนี้ใช้แบตฯ แบบ Lithium Polymer 3200 AmH ใช้ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งผมชอบมาก ๆ เพราะ Lithium Polymer เป็นแบตฯ ที่เบา และเก็บไฟไว้ได้นานแม้ไม่ใช้นาน ๆ อีกทั้งยังทนกว่า Li-On ด้วย โดยปกติจะไม่ค่อยเห็นแบตฯ แบบนี้บ่อยมากนัก ผมเคยเห็นบน Notebook แพง ๆ ของ VAIO นานมากแล้ว ผมก็แปลกใจเหมือนกันว่าเขายัดลงมาบน Tablet ตัวนี้ได้ยังไง? หรืออาจเป็นเพราะต้องการลดน้ำหนักเครื่องก็เป็นไปได้ (ลองไปถือแบตฯ Notebook ทั่วไปดูครับ หนักมาก)
โดยพื้นฐานแล้ว Windows 7 รองรับ Touch Screen มาตั้งแต่โรงงาน จึงทำให้มีคีย์บอร์ดฝังมาเลย หรือจะใช้วาดรูปก็ยังได้ ย่อ-ขยาย ปกติ หรือจะใช้ในการซูมหน้าต่างของเว็บไซต์ก็ได้ครับ
สเปค Atom Dual Core N455 1.66GHz มาพร้อม RAM 2GB DDR3 มี 3G-850/1900/2100 MHZ, GSM, GPRS, EDGE 850/900/1800/1900 MHz ใส่มาในเครื่องเลย หรือหากใครมีซิมของ True/AIS/DTAC/TOT ก็ลองใช้ 3G หรือ GSM/GPRS/EDGE ได้เลยครับ หรือ Share Internet จาก iPhone เอาก็ยังได้ มี Port Mini VGA สำหรับต่อ Monitor เพิ่มหรือ Projector แต่ไม่มีแถมนะครับ ต้องซื้อแยกเอาอันไม่กี่บาท
สเปคจาก Windows 7 ให้ดูคร่าว ๆ ครับ ผมคงไม่ทดสอบ Benmark ให้นะครับ เพราะ Atom N455 หากใครเคยใช้ Netbook คงพอจะเดาได้ไม่ยาก เพราะสเปคมันจะเหมือน ๆ กันต่างกันที่ SSD ซึ่งผมได้ทดสอบให้ดูด้านบนแล้ว ตัวนี้รองรับ Bluetooth ด้วยนะครับ สามารถต่อหูฟังและไมค์ได้
ทดสอบลองเข้าเว็บไซต์ www.iPhonemod.net ด้วย IE9 ให้แสดงผลเต็มจอปกติ ดูสบาย ๆ ไม่ปวดตาเหมือน Smart Phone
พูดถึง Windows 7 ไปมากแล้วมาดูภาพในส่วน Android กันบ้างครับ ตรงนี้ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่า Ver. ไหน (รอผู้รู้มาตอบ) แต่ที่ผมไม่ค่อยพูดถึง Android มากเพราะผมไม่ค่อยมีความรู้ด้านนี้ครับ เดี๋ยวพูดอะไรผิด ๆ ไปมือใหม่จำไปผิด ๆ จะแย่เอา ^^
สรุป : เป็น Tablet Dual OS ตัวหนึ่งที่น่าสนใจครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่หมื่นกลาง ๆ เมื่อเที่ยบกับวัสดุ เคส ทัชสกรีน แบตเตอรี่และ SSD ซึ่งเป็นวัสดุราคาแพงทั้งนั้น โดยอาจจะไม่เหมาะสำหรับใครที่ซื้อมาเพื่อเล่น App เพื่อความบันเทิง หรือมี Tablet ในดวงใจแล้ว แต่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับ นักศึกษา เซลล์ นักธุรกิจหรือผู้ที่ต้องออกเดินทางบ่อย เนื่องด้วยน้ำหนักที่เบาของมัน กับการใช้งานจริงที่มีทั้ง Port Mini VGA, USB, 3G, WiFi ผมขอพูดตรง ๆ เลยว่าหากใครกำลังหาซื้อ Netbook LowEnd หรือ Tablet LowEnd อยู่แนะนำตัวนี้เลยครับ ดูหนัง ฟังเพลงชิว ๆ พร้อมทำงานออฟฟิส หากเดินทางไป ตจว. ก็สามารถต่อ 3G เล่นเน็ตหรือเปิด Android ฆ่าเวลาระหว่างทางได้ อันนี้นา ๆ จิตตังครับ บางคนว่าแพงไปซื้อ iPad ดีกว่า แต่บางคนว่าถูกกำลังจะซื้อ Netbook มาดูหนังอยู่แล้วเลือกตัวนี้ดีกว่า
อัพเดท (19/03/55) : ขอเชิญอ่านรีวิวการทดสอบกับ Windows 8 CP ได้ ที่นี่ iReview.in.th
ขอขอบคุณ : บริษัท สมาร์ทเทค เอ็ดดูเคชั่น จำกัด – สำหรับเครื่องที่ส่งเครื่องมาให้ทีมงานได้ทดสอบกัน
หมายเหตุ : หากท่านสนใจขอรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสั่งซื้อสามารถติดต่อได้ที่ 081-922-2341 (คุณกรุณา)