หลังจากที่เมื่อคืน iOS 4 ได้ถูกส่งออกมาให้ชาวโลกทั่วไปได้โหลดไปใช้กันแล้วนั้นผมเองก็อัปเดตตั้งแต่เมื่อคืนละแต่ยังงงๆบางฟังก์ชันของ iOS 4 อยู่ว่ามันใช้งานยังไง มันมีหลายอย่างเหลือเกินต้องเรียนรู้วิธีการใช้งานไปเรื่อยๆครับ วันนี้ผมถือโอกาศเอามารีวิวให้ทุกๆท่านได้อ่านดูกว่า iOS 4 มันดีสมที่เราทุกคนรอคอยไหมแล้วมันเจ๋งกว่า iOS 3.1.3 ที่เราๆใช้งานอยู่ไหม เชิญชมครับ
ขั้นแรกที่เข้าสู่หน้าหลักของ iOS 4 สิ่งที่เห็นคือ Wallpaper เปลี่ยนไปเป็นรูปหยดน้ำและก็มี Folder ที่ชื่อว่า Utilities มาให้ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันด้วยกันอยู่ 4 ตัวได้แก่ Clock, Calculator, Compass และ Voice Memos นั่นคือสิ่งแรกที่เจอ
เลยลองจิ้มไปที่ Folder ดูว่าจะเป็นอย่างไร ผลที่ได้คือแอปทั้งหมดที่อยู่ในโฟลเดอร์จะปรากฎออกมาครับ ไอโซมากๆ
วิธีการนำแอปแต่ละตัวมารวมเข้าโฟลเดอร์
ง่ายๆเลยเริ่มจากการจิ้มค้างให้เหมือนเราจะลบแอปนั่นแหละครับ
จิ้มที่แอปที่ต้องการแล้วลากไปทับกับตัวที่จะนำไปอยู่โฟลเดอร์เดียวกัน
แอปทั้งสองก็จะรวมตัวกันเป็นโฟลเดอร์เดียวกัน ทั้งนี้เราสามารถตั้งชื่อโฟลเดอร์ได้ตามต้องการนะครับ รูปด้านล่างชื่อโฟลเดอร์นั้นจะถูกตั้งเป็น Games เราสามารถเปลี่ยนให้เป็น เกมส์ ก็ได้นะ
แล้วแอปก็จะถูกรวมเข้าโฟลเดอร์เดียว(สังเกตที่มุมบนซ้ายสุดครับ)
นี่เป็นส่วนนึงนะครับสำหรับการที่เราจะต้องเรียนรู้การใช้งานของ iOS 4 ให้มากขึ้นเพราะว่าหลายๆอย่างก็ยังไม่ทราบเหมือนกันต้องทดลองเล่นไปเรื่อยๆ ส่วนต่อไปผมจะพูดรวมๆเกี่ยวกับฟีเจอร์เด่นๆที่ได้เจอมาหลังจากจับ iOS 4 มาแล้วกว่า 10 ชม. ^^
ฟีเจอร์ต่างๆที่เพิ่มเข้ามาใน iOS 4
Mails ทำได้ดีขึ้นจัดระบบได้สวยงามผมลองเพิ่มอีเมลเข้าไปเป็นของ Gmail และ Hotmail ไม่ติดปัญหาทั้งสองตัวครับ การเช็คเมลก็ง่ายดายสะดวกสุดๆ
ระบบ Multitasking ที่หลายคนรอคอย แรกๆก็ใช้งานไม่เป็นเหมือนกันไม่รู้ว่าจะกดตัวไหนอะไรยังไง ง่ายๆครับให้กดที่ Home เบาๆ 2 ครั้งแล้วท่านจะพบในสิ่งที่ต้องการครับ แต่ก็ยังคงมีหลายแอปนะครับที่ยังไม่รองรับ Multitasking แบบเต็มที่อันนี้ก็ต้องรอการอัปเดตของตัวโปรแกรมแต่ละตัวอีกครั้งครับ(รูปด้านล่าง)
ต่อไปมาดูแอปแต่ละตัวที่มาพร้อม iOS 4 ว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง
เริ่มด้วย Camera ความสามารถที่เปลี่ยนไปคือตอนถ่ายวีดีโอสามารถที่จะโฟกัสได้และตอนถ่ายรูปก็สามารถซูมได้ถึง 5 เท่า โดยไม่ต้องพึ่งแอปอื่นๆเพิ่มเติม
ตอนถ่ายวีดีโอถ้าเราหมุนเครื่องสัญลักษณ์กล้องก็จะหมุนตามด้วย สังเกตดูครับว่าจะสามารถโฟกัสตอนถ่ายวีดีโอได้ด้วย
ต่อไปดูที่แอป Photos ที่เป็นที่เก็บภาพถ่าย ส่วนที่เปลี่ยนไปคือที่ Photos จะมีให้เลือก 3 เมนูคือ
- Albums: จะแยกเป็นรูปที่ถูกถ่ายด้วยกล้องไอโฟนและรูปที่เราซิงค์จากคอมครับ
- Events: แบ่งตามเหตุการณ์ที่เราได้ซิงค์ลงไปครับ มีตัวอย่างให้ชม
- Faces: จะทำการรวบรวมใบหน้าของแต่ละคน การทำงานเหมือน iPhoto ใน Mac เลย เจ๋งดีครับ
ส่วนต่อไปเป็นแอปพลิเคชัน Notes ครับที่สามารถซิงค์จากส่วนอื่นได้ด้วย
อีกหนึ่งจุดที่เห็นคือเรื่อง Location Services ที่เรานั้นสามารถที่จะให้ หรือไม่ให้ Camera ใช้งาน Location Services
ถัดมาเป็นระบบ Passcode การตั้งรหัสผ่านเข้าเครื่อง เดิมทีจะใช้ได้เพียงตัวเลยเท่านั้น แต่ตอนนี้สามารถใช้ตัวอักษรได้แล้ว ถ้าต้องการ Passcode ที่เป็นตัวอักษรให้เราปิดโหมด Simple Passcode นะครับ
ตอนที่เข้าเครื่องหลังจาก Slide to unlock
ตัวต่อไปเป็น Wallpaper ที่จะขาดไม่ได้เลย ตัวนี้เราสามารถตั้งค่า wallpaper ได้ทั้งที่หน้า Lock screen และหน้า Home screen ได้ตามต้องการ โดยเลือกรูปภาพจาก Photos ครับ
อีกตัวที่ผมไม่คิดว่ามันจะมีการอัปเดตนั่นคือ Maps ครับ อย่างแรกที่เห็นเลยคือเครื่องหมายถึงล่างซ้ายสุด ที่จะใช้สำหรับการค้นหาพื้นที่ปัจจุบันว่าเราอยู่ที่ไหน เปลี่ยนตรงที่สัญลักษณ์เปลี่ยนไปและเวลาใช้งานจะมีเครื่องหมายที่ Status bar ด้านบนด้านรูปเครื่องหมายปลายแหลมๆสีม่วง
สรุปความประทับใจที่มีต่อ iOS 4
- ความเร็วในการทำงานค่อนข้างที่จะเร็ว ทดสอบบน iPhone 3GS และยังไม่ได้เจลเบรค ถ้าเป็น iPhone 4 นี่ผมว่าวิ่งฉิวแน่ๆ
- ประทับใจระบบ Folder การใช้งานที่ง่ายและทำให้เป็นระเบียบมากขึ้น
- ระบบ Multitasking และการสลับแอปพลิเคชันทำได้ง่ายและรวดเร็ว ถึงแม้แอปบางตัวจะยังไม่รองรับ Multitasking เต็มรูปแบบก็ตาม
- ระบบเมลที่ดีทำให้น่าใช้งานมากขึ้น
- แอปพลิเคชันมีการอัปเดตรองรับ iOS 4 เร็วมาก ตอนแรกนึกว่าจะอดเล่นหลายๆแอปที่ชอบหลังจากอัปเดตเป็น iOS 4 แต่ที่ไหนได้ อัปเดตแล้วเล่นได้ทันที
- ชอบ Wallpaper สามารถปรับตั้งได้ตามที่ต้องการทั้งหน้า Lock screen และหน้า Home screen เหมาะาสำหรับท่านที่ไม่อยากลง Winterboard แต่อยากเปลี่ยนพื้นหลังสวยๆเพื่อไม่ให้เบื่อ
- สิ่งที่ต้องระวังหน่อยก็คือการเปิดแอปที่มากจะต้องปิด Process ด้วยอย่าปล่อยให้ค้าง เพราะเดี๋ยวกินแบตหมด (จุดนี้ยังไม่ได้ทดสอบเท่าไหร่ครับแต่ความเป็นไปได้มีครับ)
- ระวังเรื่อง EDGE สำหรับท่านที่ไม่ได้ใช้ Unlimited ของอินเทอร์เน็ตนะครับ
- ห่วงอีกเรื่องคือปุ่ม Home ทำงานหนักมากขึ้นแน่ๆ สาเหตุจากการ Switching app ที่จะต้องทำบ่อยๆ
ผมคาดว่ายังเหลืออีกหลายๆจุดที่อาจจะรีวิวไม่ครบเดี๋ยวจะเสริมเพิ่มเติมภายหลังนะครับ ทั้งนี้ข้อมูลที่รีวิวออกมาให้ได้ชมเกี่ยวกับ iOS 4 ก็เพื่อให้เพื่อนๆได้พิจารณาว่า “ตอนนี้ฉันพร้อมที่จะอัปเดต iOS 4 แล้วหรือยัง” อย่าลืมนะว่าตอนนี้ 3GS, 4 ยังไม่สามารถเจลเบรค iOS 4 ได้ครับ
อย่าลืมติดตามข่าวสารไอโฟนได้ทาง Twitter, Facebook, Email, RSS นะครับ
ขอให้สนุกกับการใช้งาน iOS 4 ครับ