รีวิว – (สัมผัสแรก) คอมพิวเตอร์วางตัก Gateway รุ่น ID47H

ไม่ผิดหรอกครับ ตอนนี้คุณอยู่ใน iPhonemod.net ไม่ได้เข้าเว็บฯ ผิดแต่อย่างใด = =” วันนี้จะมาแปลกกว่าทุกทีนิดนึงคือรีวิว “คอมพิวเตอร์วางพัก” หรือ Notebook (เออ… เรียก Notebook ดีกว่าเนอะ = =”) จริง ๆ แล้วเว็บฯ เราก็นำเสนอหลายอย่างครับ เพราะทุกสิ่งล้วนเกี่ยวเนื่องกัน 0_0 v (จะว่าไปมี iPhone ก็ต้องมีคอมฯ นี่เนอะ) หากจะให้พูดแต่เรื่อง Jailbreak ก็คงใช่เรื่อง ใครจะบ้าซื้อคอมฯ มา Jailbreak อย่างเดียวละเนอะ -*- ซึ่งถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคดีกว่าครับ ซึ่งยี่ห้อที่ผมจะนำเสนอคือ Gateway นั่นเอง เนื่องจากผมเห็นว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ และเป็นแบรนด์ที่ทำตลาดในอเมริกามานาน แต่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก แต่อยากจะบอกว่ามันเป็นแบรนด์ที่เกรดอยู่ในขั้นดีมาก ๆ ตัวหนึ่ง จุดขายของมันจะเป็นทางด้านดีไซน์และวัสดุชั้นยอดมากกว่า (-3-)

ตัว ID47H นั้นมาพร้อมกล่องที่สวยงาม เลิศหรู และไฮโซ ซึ่งผมแนะนำให้คุณเก็บกล่องไว้บูชา XD เว้ย… ไม่ใช่ ก็แกะออกมาครับ เพียงแต่ว่ามันสวยดีถือแล้วไม่อายใครเท่านั้นเอง -..-

เมื่อแกะกล่องออกมาก็พบกับคู่มือและการรับประกัน

อุปกรณ์ที่แถมมากับเครื่องที่ประหลาดกว่าชาวบ้านก็คือ มีผ้าแถมมาให้หนึ่งผืน ซึ่งผมขอตั้งชื่อให้ว่า “ผ้าอเนกประสงค์ Gateway – – v” สามารถใช้งานได้ถึง 3 ใน 1 คือ ใช้เช็ดหน้าจอก็ได้ ใช้รองคีย์บอร์ดตอนปิดเครื่องก็ดี แถมยังเอามาทำเป็นที่รองเมาส์ได้อีก ซึ่งการใช้งานจริง ๆ ผมขอยืนยันว่า ห่วย !!! 😛

ตัวเครื่องเมื่อแกะออกมาจะพบกับจุดเด่นใหญ่ ๆ เลยกลางจอ ให้รู้ว่า “ตูก็จอ 14″ นะ” แต่หากไม่บอกมองเผิน ๆ แล้วผมคงจะต้องคิดว่าเป็นจอ 13″ เป็นแน่แท้ เนื่องด้วยขนาดที่เล็กอย่างเหลือเชื่อของมัน ไม่เคยคิด เคยฝันมาก่อนว่าจะมาเจอ Notebook (ขอเรียกแบบนี้แล้วก็เนอะ คอมพิวเตอร์วางตักมันยังไง ๆ ไม่รุ ~~) ขนาด 13″ ที่ได้จอขนาด 14″ แถมเท่านั้นยังไม่พอ มันมี DVD Drive ฝังมาให้ด้วย !!!

ส่วนทางด้านฝั่งรองข้อมือด้านขวาก็จะสะดุดเช่นกันกับคำว่า 14″ จอใหญ่ในขนาดไซต์เล็กและสวยงาม !!! แถมยังมีช่องใส่ DVD ด้วยอีกนะ โดดเด่นด้วยปุ่มพิเศษเฉพาะ Social Networks (อินเทรนมาก ๆ … >,<) พร้อม Software MyBackup ซึ่งถ้าไปซื้อมาก็แพงอยู่ และ USB 3.0 เท่านั้นยังไม่พอยังมี USB Charge อัตโนมัติแม้ปิดเครื่องอีก หากใครเอาไว้ใช้ชาร์จ iPhone อย่างผมจะสะดวกมากเลย รองรับการเชื่อมต่อออกจอด้วย HDMI ด้วยนะ

ย้ายมาตรงบริเวณ Touch Pad จะมีสัญลักษณ์เพื่อช่วยสำหรับการใช้งานอยู่ก็คือ ระบบ Multi-Gesture ที่ช่วยให้การใช้งานได้หลายนิ้วและสะดวกขึ้น สามารถ Zoom เข้าออกได้สบาย ๆ หรือจะเลื่อน Scroll Bar ก็ไม่ยาก ฯลฯ

เขยิบ ๆ ๆ >,< ไปอีกนิดทางด้านขวาจะพบกับสติกเกอร์ยืนยันต่าง ๆ นา ๆ ถึงสรรพคุณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Core i Gen 2 ที่เลือกใช้ i5 การ์ดจอของ NVIDIA OPTIMUS ที่ช่วยเพิ่มทั้งประสิทธิภาพและเวลาใช้งานของแบตฯ อ้อ… ตัวนี้แถม Windows 7 Home Premium 64Bit มาให้ด้วยนะไม่ต้องไปเสียเวลาหรือให้ช่างมาลง OS ละเมิดลิขสิทธิ์ให้ เรียกว่าเปิดมาใช้ได้เลย เหมือนปลากระป๋อง *0*

มาด้านบนจะเจอโฆษณาว่า DOLBY HOME THEATER เพื่อเป็นการรับรองว่า อุปกรณ์ชนิดนี้ให้เสียงที่คุณภาพสูงเหมาะกับใช้งานตามบ้าน ดั่ง HOME THATER ย่อม ๆ เลยทีเดียว เท่าที่ได้ลองมันให้พลังเสียงที่เกินตัวของมันมาก ๆ เมื่อเทียบกับ Notebook แบรนด์ทั่ว ๆ ไปที่ราคาไม่สูงมากนัก ปรากฎว่าเสียงห่างอย่างเหลือชั้น ทั้งมีมิติมากกว่า กว้างกว่า และดังกว่า แต่ก็ยังไม่ถือว่าจะสู้ลำโพงแยกดี ๆ ได้อยู่ดี (แต่ถ้าสู้กับลำโพงจีนห่วย ๆ ตัวเล็ก ๆ หรือว่า Notebook Netbook ทั่ว ๆ ไปตัว ยังถือว่าตัวนี้ชนะขาด)

ตัวนี้ฝาหลังออกแนวเรียบ ๆ สไตล์ Gateway ครับ มีตรา Gateway อยู่ทางด้านบนขวาเหมือน ๆ กันทุกรุ่น โดยสวนตัวแล้วผมไม่ค่อยชอบลายนี้เท่าไหร่มันดูเรียบ ๆ เกินไป และไม่ค่อยมีสไตล์เหมือนตัวผมน่ะครับ โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าหากมีการเจาะ หรือทำนูน หรืออาจจะทำให้เห็นเป็นดวงไฟแบบ Apple นี่จะแจ่มมาก ๆ แต่ก็นับว่าฝาแบบนี้อาจจะเป็นที่ชื่นชอบสำหรับคนที่ชอบสลักตกแต่ง ติดสติกเกอร์หรืออื่น ๆ ลงบนเครื่อง เพราะพื้นที่ว่างเยอะและเรียบมาก ๆ (*0*)

ตรา Gateway ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์นี้ครับ คล้าย ๆ คลิปหนีบกระดาษ -..-

เรื่องรอยไม่ต้องเป็นห่วงหรือกังวลจนกระทั่งต้องเดินหาร้านติดกันรอยฝาหลังไปครับ เพราะว่ารุ่นนี้ฝาหลังจอเป็นรอยมาจากโรงงานอยู่แล้ว 555+ จึงไม่ต้องกังวลครับ แต่มันเป็นรอยจาง ๆ ที่ดูเป็นระเบียบมากกว่า

ด้านท้ายของเครื่องจะเป็นช่องระบายอากาศต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่มากมายเลยทีเดียว ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารูไหนเป็นของอะไรบ้าง

ID47H นั้นมาพร้อมกับ Windows 7 Home Premium OEM คือไม่สามารถนำไปลงเครื่องอื่นได้ โดยหากเมนบอร์ดเสียลิขสิทธิ์ก็จะสิ้นสุดไปโดยทันที

พื้นผิวด้านท้ายของตัวเครื่องมีลักษณะเป็นคล้าย ๆ พลาสสติกผสม มีความยืดหยุ่นได้หากตกแรง ๆ ???

พอร์ททางด้านซ้ายของเครื่องมีสายชาร์จ พัดลมระบายอากาศ VGA ช่องต่อ VGA ช่องต่อ HDMI ช่องต่อไมค์ หูฟัง และช่อง USB ถึง 2 ช่อง ซึ่งตัวนี้พัดลมจะหมุนรอบตามอุณหภูมิของเครื่อง โดยเท่าที่ลองไม่ค่อยร้อนเท่าใดนัก ซึ่งประทับใจมาก

ด้านหน้าเครื่องแบนราบมีเพียงไฟแสดงสถานะการชาร์จด้านหน้าเท่านั้น ที่จะกระพริบเป็นสี้เมื่อกำลังชาร์จอยู่ และเปลี่ยนเป็นสีฟ้าเมื่อชาร์จเต็ม

ด้านขวาของตัวเครื่องมี USB 3.0 ให้หนึ่งพอร์ท รวมถึง DVD Drive และช่องต่อ LAN ตรง USB 3.0 อันนี้ค่อนข้างที่จะขัดใจผมเป็นอย่างมากที่ต้องมาอยู่ด้านขวา ซึ่งปกติคนมักจะเอาไว้ต่อ Mouse มากกว่า เพียงเพราะมันใกล้และไม่เกะกะ หากนำ USB 3.0 ไปใส่ในด้านซ้ายผมว่ามันน่าจะได้ประโยชน์มากกว่าที่จะเอาไว้เสียบเมาส์ธรรมดา ๆ

ตรงมุมเครื่องมีลักษณะมนดูแข็งแรง ไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งของแบตเตอรี่ยื่นออกมาให้ดูน่าเกลียด สำหรับแบตเตอรี่นี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน ทางทีมงานของ Gateway ได้เครมเองเลยว่าสามารถใช้งานได้ถึง 1000 cycle หรือประมาณ 3 ปี ต่างจาก Notebook ทั่ว ๆ ไปที่ใช้ได้แค่ 1 ปีหรือประมาณ 500 cycle ก็เสื่อมแล้ว (แต่กลับไม่ได้ชูโรงโฆษณาเรื่องแบตเตอรี่?) อันนี้ผมว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ เลยหาก Gateway ใช้แบตเตอรี่คุณภาพสูงแบบนี้ “ผมยินดีจ่ายครับ”

ไฟด้านซ้ายเป็นสถานะเครื่อง การหมุนของ HDD และการชาร์จไฟ ส่วนตรงกลางก็คือการชาร์จไฟอยู่ดี (สวยดีนะ) รุ่นนี้ Touch Pad พิเศษตรงที่ว่าได้ซ่อนปุ่มคลิกซ้ายและขวาไว้ใน Touch Pad เลย (เหมือน Apple) ทำให้สามารถมีพื้นที่ในการ Touch Screen ได้มากกว่า ซึ่งผมชอบมาก ๆ และเบื่อ Notebook ที่ Touch Pad เล็ก ๆ เพราะใช้งานไม่สะดวกเลย การมี Touch Pad ใหญ่ ๆ ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายและเร็วมากยิ่งขึ้น แถมยังช่วยลดน้ำหนักตัวเครื่องอีกด้วย (งง…. ล่ะสิ?) ก็ไม่ต้องพกเมาส์เพิ่มไปอีกตัวให้หนักเล่นไง 🙂

ตัว Touch Pad ได้ย้ายไปทางด้านซ้ายเเยอะมาก เพื่อให้เหมาะกับสรีระของมนุษย์เวลาทำงาน ทำให้ไม่ต้องเมื่อยหรือปวดข้อมือมากจนเกินไป ซึ่ง Gateway นั้นเก็บงานได้ดีและทุกรายละเอียดจริง ๆ สมกับเป็น Notebook แบรนด์จากอเมริกา

ปุ่มรูปเด็กน้อย 3 คนนั้นเป็นปุ่มลัดพิเศษของ Gateway ในการใช้งาน Social App ซึ่งตัว App ไม่ได้เรื่องเลย ห่วยแตกมาก แล้วทำออกมาทำไมก็ไม่รู้ ไม่ได้เหมาะสมกับการใช้งานเลยแม้แต่น้อย เป็นขยะที่ไร้สาระมาก ๆ

ขนาดเครื่องถือว่าเล็กมาก ๆ ขนาดเท่าฟุตเหล็ก 1 อันพอดีเป๊ะ ๆ ๆ … พกพาสะดวก และน้ำหนักเบา (และจะเบายิ่งกว่าหากไม่ต้องติดตั้ง DVD Drive มาด้วย ซึ่งไม่จำเป็นเลย) ผมอยากได้ Notebook ที่เบา ๆ มากกว่า DVD Drive ซึ่งแทบไม่ได้ใช้งานใด ๆ เลยเมื่อลงโปรแกรมเสร็จ

ตัวบอดี้ถึงแม้จะดูเหมือนไฟดูด แต่ผมได้ทดลองแล้วไม่มีไฟดูดแต่อย่างใด (อาจะเป็นเพราะเทคนิคการออกแบบ หรือวัสดุไม่นำไฟฟ้าก็ตาม) แต่ !!! ในฐานะที่ผมเป็นสื่อที่จะต้องนำเสนอความจริงต่อผู้บริโภคแล้ว คงต้องบอกความจริงว่ามันยังดูดอยู่ ตรงบริเวณไหนน่ะหรอ? ก็ตรงเหล็กชิ้นเล็ก ๆ ระหว่าง Touch Pad กับ BODY วิธีแก้ไขคือติดตั้งสายดินซะ หรือเวลาใช้งานอย่าให้ขาสัมผัสกับพื้น = =”

มีปุ่ม “ฅ” และ “ฃ” มาให้ซึ่งแน่นอนว่าคนไทยไม่เคยได้ใช้เลย แต่ดันทะลึ่งทำมาขนาดใหญ่พิเศษ? หรือฝรั่งเขาไม่เข้าใจเรา หรือคนออกแบบได้ลองคีย์บอร์ดเดิมแล้วมาเปลี่ยนตัวอักษรเอา ผมอยากบอกกับ Gateway ดัง ๆ เลยว่าหากต้องการที่จะเป็น Notebook ที่คุณภาพสูงและใส่ใจในรายละเอียด (กลุ่มลูกค้าคล้าย ๆ SONY) ควรจะใส่ใจมากกว่านี้ เพราะว่าปุ่ม Enter นั้นควรจะใหญ่กว่านี้ เพื่อให้เคาะหรือกดได้สะดวกกว่า ส่วนปุ่ม “ฅ” และ “ฃ” ทำเล็ก ๆ หรือจิ๋ว ๆ ไว้ก็ไม่ใช่ปัญหาใด ๆ เลย ส่วนคีย์ลัดด้านซ้ายมือผมว่าไม่จำเป็นเพราะว่ามันใช้ Macro (Fn + xxx) หรือว่าปรับในเครื่องได้อยู่แล้ว หากย้ายมาทางขวาเกรงว่ามันจะมีปัญหาต่อการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นกด Enter หรือว่าอื่น ๆ ก็ตาม

ความหนาของเครื่อง ณ ส่วนที่บางที่สุดอยู่ที่ 2 เซนนิด ๆ เท่านั้น ซึ่งถือว่าทำได้ดีมาก

และส่วนที่หนาที่สุดของเครื่องก็อยู่ที่ 3 เซนนิด ๆ เท่านั้น ซึ่งก็คือว่าทำได้ดีมากเช่นเคย ตัวเครื่องจะเอียงนิด ๆ เวลาพิมพ์ทำให้สะดวกมากกว่า และไม่เอียงเยอะจนทุเรศเกินไปเหมือน Notebook หลาย ๆ รุ่น

ส่วนความยาวของเครื่องอีกด้านอยู่ที่ 22 เซนติเมตรโดยการประมาณ โดยทางทีมงานได้ทดสอบให้แล้วว่าจับถนัดกระจับมือ และน้ำหนักไม่มากจนเกินไป พกพาสะดวกเหมือน Notebook 13″ แต่ได้จอ 14″ และ CPU ใช้งานได้ยาวนานเหมือน CPU ประหยัดพลังงาน (แต่เป็น CPU ปกติ ที่แรงเหมือนเดิม ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Gateway)

สรุปข้อดี

สเปคอยู่ในขั้นดี รองรับการใช้งานทั่วไปจนถึงมืออาชีพนิด ๆ ด้วยความที่เป็น NVIDIA Optimus + กับเทคโนโลยีของ Gateway และ Intel ที่ช่วยประหยัดพลังงานเข้าไปอีก ผลก็คือแบตฯ อยู่ได้นานเวอร์ ๆ (เช้ายันเกือบเย็นสำหรับเล่นเน็ตธรรมดา) แต่หากใช้งานหนัก ๆ ระบบก็จะทำการปรับเพิ่มควาเร็ว (รวมถึงสูบแบตฯ) ให้โดยอัตโนมัติ ตัวเครื่องประกอบได้ดีมาก ๆ ขนาดเล็กกระทัดรัดในหน้าจอ 14″ เท่าเดิม ราคาไม่สูงเวอร์แถมยังมี Windows 7 แท้ให้อีก หากใครคิดจะหา Notebook ดี ๆ เบา ๆ แรง ๆ ไม่ผิดหวังแนะนำตัวนี้เลยครับ แถมได้แบตฯ คุณภาพดีอีก USB3.0, Bluetooth 3.0, HDMI รวมถึงประกัน 2 ปี นู่นนี่เยอะแยะไปหมด …

สรุปข้อเสีย

ราคา 3 หมื่นนิด ๆ หลาย ๆ คนอาจคิดว่าแพงหากดูแค่ Spece อย่างเดียว ไปซื้อแบรนด์อื่นอาจได้ถึง i7 แต่อย่าลืมไปว่าแบรนด์อื่นนั้นไม่ได้ผลิตให้ Notebook เล็กเท่านี้ เบาเท่านี้ และวัดุระดับ Premium Grade เท่านี้ (แถม OS และประกันให้อีกตั้ง 2 ปี) ผมถึงมักเตือนคนซื้ออยู่บ่อย ๆ ว่าอย่ามองแค่สเปคกระดาษให้ดูถึงอย่างอื่นด้วย ข้อเสียอีกข้อเล็ก ๆ หลาย ๆ อย่างก็คือ ลายบนฝาเครื่องที่ไม่ค่อยโดนใจผมนัก อีกทั้งปุ่มลัดต่าง ๆ บนคีย์บอร์ดที่ผมบ่นไปข้าง ๆ ต้นนั้น ที่มันอาจจะใช้ได้ แต่มันก็เป็นแค่ส่วนเกินสำหรับผมที่ไม่สามารถกำจัดทิ้งได้

ติดตามชม Review ภาคต่อได้ที่นี่

ขอขอบคุณ Acer Thailand สำหรับเครื่องทดสอบครับ

• Facebook
• Twitter
• Line