Music App For Iphone Cover
in , , , , , ,

แนะนำวิธีและแอปฟังเพลงบน iPhone, iPad ง่ายๆ ไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์ให้เหนื่อย

ซื้อ iPhone, iPad มาใหม่แต่ที่บ้านไม่มีคอมพิวเตอร์เลยถ้าอยากจะฟังเพลงทำได้ไหม​? คำถามนี้ถือว่าเป็นคำถามยอดฮิตมากๆ ครับ วันนี้ทีมงาน iMod จะมาตอบให้ฟังกันครับ

ฟังเพลงบน iPhone, iPad ง่ายๆ ไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์ให้เหนื่อย

โจทย์ของเราคือมี iPhone, iPad  แต่ไม่มีคอมพิวเตอร์ถ้าอยากฟังเพลงต้องทำไงบ้าง มีทางเลือกไหนบ้าง ไปชมกันครับ

ทางเลือกที่เห็นว่าจะเหมาะสมที่สุดคือใช้งานผ่านแอปพลิเคชันที่ให้บริการสตรีมมิ่งเพลงมาฟังนั่นเองครับ ข้อดีคือไม่ต้องเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาที่มีอินเทอร์เน็ตและไม่มีเน็ตก็สามารถฟังได้ มาดูกันว่ามีแอปตัวไหนบ้าง

ก่อนไปดูแอปฟังเพลงนั้นสิ่งที่ต้องมีคืออินเทอร์เน็ตทั้ง WiFi, 4G ตามแต่สะดวก

ถ้าจะใช้งานผ่านเครือข่ายมือถือ 3G, 4G แนะนำให้สมัครแพ็กเกจแบบเน็ตไม่อั้นของแต่ละเครือข่ายเพื่อให้แน่ใจว่าอินเทอร์เน็ตของเราจะไม่หมดเพราะด้วยการสตรีมมิ่งแบบนี้ต้องใช้อินเทอร์เน็ตตลอดเวลายกเว้นเพลงที่เราดาวน์โหลดลงมาแล้ว

ถ้าหากใช้งาน WiFi ที่บ้านก็สามารถทำได้เลยแต่ว่าบางบ้านหรือหอพักของเราไม่มี WiFi แนะนำว่าให้ไปใช้ตามห้างเช่น True WiFi, AIS WiFi, dtac WiFi ซึ่งจะมีความเร็วที่สูงสามารถดาวน์โหลดเพลงได้อย่างรวดเร็ว (เช็คแพ็กเกจมือถือที่คุณใช้งานอยู่ว่าสามารถใช้งาน WiFi ได้ฟรีมากน้อยเท่าไหร่ ให้ติดต่อผ่าน Call Center ของผู้ให้บริการมือถือแต่ละเจ้าด้วยตนเอง)

เมื่อเตรียมอินเทอร์เน็ตพร้อมแล้วไปชมแอปฟังเพลงบน iPhone โดยไม่ต้องพึ่งคอมพิวเตอร์กันครับ

1. Apple Music

Iphone X Apple Music
Apple Music iOS 11 บน iPhone X

แอปนี้มีมาใน iOS ทุกเครื่องทั้ง iPhone, iPad สามารถสมัครและเปิดใช้งานได้เลย สำหรับครั้งแรกทาง Apple   จะให้ใช้งานฟรี 90 วัน หลังจากนั้นเลือกได้ว่าจะสมัครรายเดือนแบบไหนซึ่งจะมีให้เลือก 3 แบบคือ สำหรับคนทั่วไป 129/เดือน, แบบครอบครัวใช้ได้ทั้งหมด 6 คน ราคา 199/เดือน และสำหรับนักศึกษาราคา 69/เดือน

ข้อควรทราบของ Apple Music

  • เสียงดี มีเพลงให้เลือกเยอะทั้งไทยและสากล
  • ฟังได้หลากหลายอุปกรณ์อย่าง iPhone, iPad, Mac, Windows, Apple Watch, CarPlay, AppleTV, Sonos หรือแม้กระทั่ง Android ก็ใช้บริการนี้ได้
  • ดาวน์โหลดไว้ฟังตอนไม่มีอินเทอร์เน็ตได้แถมคุณภาพเสียงนั้นเลือกความละเอียดสูงได้
  • ใช้งานร่วมกับ CarPlay (ฟังในรถยนต์) แสดงผลและควบคุมได้อย่างสมบูรณ์
  • ฟังได้ทั่วโลกไม่จำกัดเฉพาะประเทศไทย

ข้อมูลเพิ่มเติม Apple Music

2. Spotify

Spotify Ipad
Spotify บน iPad iOS 11

ผู้ให้บริการฟังเพลงออนไลน์อีกหนึ่งรายที่ได้รับความนิยม จริงๆ แล้ว Spotify มีผู้ใช้บริการมากกว่า Apple Music ผลงานคุณภาพที่ผู้ชอบการฟังเพลงต้องลอง หลักการก็จะเป็นเหมือนกับ Apple Music ที่เราต้องสมัครสร้างบัญชีแต่ดีคือสามารถผูกกับ Facebook ของเราได้เลย Spotify จะมีค่าบริการเหมือนกันหากเราต้องการใช้ฟีเจอร์แบบเต็มเช่น ฟังเพลงไม่มีโฆษณาขั้น, ดาวน์โหลดเพลงไว้ฟังได้ หรือการเลือกฟังเพลงที่ต้องการ ฯลฯ แต่ทั้งนี้ที่ดีอีกอย่างของ Spotify คือ ฟังเพลงได้ฟรี โดยไม่เสียเงินนั่นเองครับ

ข้อควรทราบของ Spotify

  • สมัครฟังเพลงฟรีได้แบบมีโฆษณาคั่นและไม่สามารถเลือกเล่นเพลงเฉพาะเจาะจงที่ต้องการได้ สามารถเลือกฟังแบบสุ่มได้เท่านั้น (ถ้าอยากเลือกได้ตามใจต้องสมัครรายเดือน ราคา 129 สำหรับคนทั่วไปและ 199 สำหรับแบบครอบครัว)
  • เสียงคุณภาพดี
  • สะดวก สมัครง่ายสามารถเชื่อมกับบัญชี Facebook ได้
  • ฟังได้หลายอุปกรณ์ทั้ง iPhone, iPad, Mac, Windows และระบบอื่นๆ อย่าง Android ได้
  • ใช้งานร่วมกับ Apple CarPlay ได้
  • บัญชี Spotify ที่สมัครในไทยหากนำไปใช้งานที่ต่างประเทศจะใช้ได้ไม่เกิน 15 วัน
  • Spotify ฟรีเลือกฟังเพลงไม่ได้แต่สามารถกดเลื่อนเพลง (Skip) ได้ในจำนวนที่กำหนดในแต่ละชั่วโมง

ข้อมูลเพิ่มเติม Spotify

ดาวน์โหลด Spotify ได้ที่ฟรีจาก App Store

3. JOOX Music

Joox Music Iphone X

แอปนี้เป็นจะเป็นขวัญใจมวลชนคนไทยที่ชอบฟังเพลงบนสมาร์ทโฟนมากที่สุดด้วย ความที่ JOOX Music นั้นสามารถเลือกฟังเพลงได้แบบฟรี ยังๆ ยังไม่พอสามารถดาวน์โหลดเพลงไว้ฟังออฟไลน์ได้ด้วยมากสุด 200 เพลงสำหรับบัญชีฟรี หากต้องการสมัครสมาชิกแบบ VIP ราคามีให้เลือกเริ่มต้นสัปดาห์ละ 69 บาท, เดือนละ 129 บาท นอกจากนั้นยงมีโปรโมชันแบบ 3, 6, 12 เดือนที่ราคาจะถูกลงไปอีก

ข้อควรทราบของ JOOX Music

  • เพลงเยอะดีทั้งไทยและสากล
  • มีคาราโอเกะให้ร้อง
  • สะดวก สมัครง่ายสามารถเชื่อมกับบัญชี Facebook ได้
  • ฟังเพลงฟรีเลือกเพลงที่อยากฟังได้ ดาวน์โหลดเพลงไว้ฟังออฟไลน์ได้ 200 เพลงสำหรับผู้ใช้งานแบบฟรี และดาวน์โหลดได้ไม่จำกัดสำหรับผู้ใช้งาน VIP ถือว่ายืดหยุ่นกว่าให้ผู้บริการรายอื่นมาก
  • คุณภาพเสียงความละเอียดสูงสุด 320Kbps พอๆ กับ Apple Music และ Spotify แต่จากประสบการณ์แล้วเสียงจาก Apple Music จะดีที่สุด (จากความเห็นส่วนตัวลองเทียบการฟังผ่าน CarPlay ชุดเครื่องเสียง Alpine เพลงที่เปิดจาก Apple Music จะเสียงดีกว่า)
  • สามารถรับสิทธิ์ VIP ได้ง่ายๆ ด้วยการแชร์เพลงรายวันใช้ได้นาน 12 ชม. สำหรับผู้ที่ไม่อยากเสียตัง
  • Playlist ของ JOOX Music ค่อนข้างที่จะโดนใจคนไทย หาง่าย เจอเพลงที่โปรดปรานเยอะ
  • ฟังได้ทั้ง iPhone, Android แต่เสียดายที่เวอร์ชันบน iPad นั้นยังไม่มี หากอยากฟังบน iPad ต้องดาวน์โหลดแอปที่เป็นเวอร์ชันของ iPhone มาใช้แทน
  • สามารถฟังผ่านคอมพิวเตอร์ได้ด้วยการใช้งานผ่านเว็บบราวน์เซอร์
  • ไม่รองรับ CarPlay แบบเต็มรูปแบบแต่ว่าสามารถเปิดเพลงบน JOOX Music ให้เสียงออกที่เครื่องเสียง CarPlay ได้ เพียงหน้า UI ไม่แสดงให้เลือกได้แบบ Apple Music และ Spotify
  • ไม่สามารถใช้งานในต่างประเทศได้

ดาวน์โหลด JOOX Music ได้ฟรีที่ App Store

4. YouTube

Iphone 8 Youtube

แอปนี้แน่นอนว่าทุกคนจะต้องรู้จักและต้องโหลดมาใช้งานกันทุกคนเพราะทุกคลิปเด่นดังนั้นอัปโหลดลง YouTube หมด ไม่ว่าจะเพลงเก่า ใหม่ เพลง Cover หรือเพลงที่ทำขึ้นมาเองโดยศิลปินไร้สังกัดหรือมือสมัครเล่นก็สามารถขึ้นไปอยู่บน YouTube ได้ ดังนั้นทางเลือกจึงมีให้ค่อนข้างกว้างแถมยังฟังได้ฟรีอีกต่างหาก

ข้อจำกัดของ YouTube เวอร์ชันทางการจาก Google คือ ไม่สามารถดาวน์โหลดไว้ฟังออฟไลน์ได้ทุกคลิปและหากต้องการรับชมหรือฟังเนื้อหาจาก YouTube นั้นจะมีการกินปริมาณอินเทอร์เน็ตที่มากกว่าทุกแอปที่บอกมาเนื่องมาจากคลิปที่จะแสดงนั้นมาทั้งภาพและเสียงแน่นอนว่าไฟล์ต้องใหญ่กว่าไฟล์เสียงอย่างเดียวเท่านั้น ฉะนั้นการรับฟังผ่าน YouTube จึงแนะนำสำหรับผู้ที่ใช้งานผ่าน WiFi หรือผู้ที่สมัครแพ็กเกจอินเทอร์เน็ตจำนวนมากหรือใช้งานได้แบบไม่อั้นจะเหมาะสม

ทั้ง 4 แอปที่แนะนำมานั้นคาดว่าจะเพียงพอกับความต้องการเพื่อตอบสนองต่อการฟังเพลงของผู้ใช้งาน iPhone, iPad แล้ว ถ้าหากเลือกสายประหยัดที่สุดก็คงแนะนำให้ใช้ JOOX Music นะครับ ด้วยความที่ราคานั้นเท่ากันกับ Apple Music กับ Spotify แต่ทว่า JOOX Music นั้นเลือกฟังเพลงแบบฟรีได้แถมดาวน์โหลดไว้ฟังออฟไลน์สำหรับผู้ใช้งานฟรีได้อีกด้วย ถ้าจะซื้อก็มีราคารายสัปดาห์, ราย  3, 6  และ 12 เดือนให้เลือก

ดาวน์โหลด YouTube ได้ฟรีที่ App Store

แล้วแอดมินใช้ตัวไหนอยู่?

ผมใช้ Apple Music เป็นหลัก สมัครแพ็กเกจครอบครัวครับเดือนละ 199 บาทและแชร์กันถือว่าคุ้มมาก อีกทั้งผมใช้งานกับ Apple CarPlay บ่อยมากซึ่งเหมาะสมที่สุดแล้วที่เลือกตัวนี้ รองลงมาก็เป็น Spotify แบบฟังฟรีครับ อันนี้ไม่ได้สมัครแบบพรีเมี่ยม หลักๆ เอาไว้หา Playlist เพลงให้เข้ากับบบรรยากาศเช่นการวิ่งเป็นต้น

ส่วน JOOX Music ก็ใช้บ้างในยามที่อยากจะร้องคาราโอเกะและเลือกเพลงที่จะร้องเกะกับเพื่อน รายชื่อเพลงมมันจะหาง่าย 😀 ท้ายสุดก็คงเป็น YouTube แหละ ด้วยความที่ผมไม่ค่อยชอบดู MV เท่านั้น ถ้าจะดูจริงๆ ก็มันจะเปิดผ่านคอมหรือจอทีวีใหญ่ๆ เอา ดังนั้น YouTube บนมือถือจึงไม่ค่อยได้ใช้งาน

นอกจาก 4 แอปที่บอกมานั้นมีแอปอื่นๆ อีกไหม?

Trueid Iphone X

มีครับ ก็อย่างเช่น

  • TrueID จาก TrueMove H ขอบอกก่อนว่าไม่ใช่แค่ลูกค้าทรูที่ใช้งานได้นะ เครือข่ายอื่นก็สมัครใช้งานได้ เปิดบัญชี TrueID ขึ้นมาแล้วเลือกใช้งานผ่านแอป TrueID ในแอปนั้นจะมีเพลงให้เลือกฟังได้เลย (มีหนัง, บอล, รายการทีวีออนไลน์ให้เลือกด้วย) ลองไปเล่นกัน
  • Tidal  อีกหนึ่งแอปฟังเพลงออนไลน์ที่ต้องเสียเงินรายได้ ฟังฟรี 30 วันแรกหลังจากนั้นราคารายเดือนอยู่ที่ 169 บาท เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบฟังเพลงสากล
  • แอปสำหรับฟังวิทยุออนไลน์ เช่น TuneIn Radio, Thailand Radio ฯลฯ เหล่านั้นก็เลือกฟังได้เช่นกัน ขอแค่มีเน็ตก็ฟังได้แล้วสบายๆ

เหล่านี้คาดว่าจะเพียงพอแล้วกับความต้องการ หากใครมีแอปไหนหรือว่าช่องทางไหนเพิ่มเติมสามารถคอมเมนต์แนะนำกันเข้ามาได้นะครับ ตัวไหนที่เป็นประโยชน์ทางทีมงานจะเพิ่มเข้าไปในบทความให้ครับผม

บทความโดย iPhoneMod.net

 

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Attapon Thaphaengphan

ศิษย์เก่าวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ม. ขอนแก่น ผู้ก่อตั้ง iPhoneMod.net ตั้งแต่ปี 2009
อดีต Dell Technical Support รู้จัก ​Apple เพราะ Macbook Pro และใช้ iPhone ตั้งแต่รุ่น 3G จนถึงปัจจุบัน