in ,

บทวิจารย์ : เลือก iPad2 อย่างไรให้เหมาะสมกับเรา?

เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านนั้นคงจะรอการเข้ามาของ iPad2 อยู่ (ผมก็หนึ่งในนั้น ^^ //) เรื่องราคานั้นคงจะเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า iPad2 นั้นคาดว่าน่าจะเปิดตัวราคาเท่าเหมือนตอน iPad1 แป๊ะ ๆ ส่วนวิธีการเลือกคิดว่าคงจะเป็นไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน ว่าต้องการใช้ความจุเท่าไหร่? และแบบไหน (3G/WiFI) โดยราคาเปิดตัวน่าจะอยู่ราว ๆ ช่วงนี้คือ …

iPad 2 Wi-Fi
• 16GB $499 น่าจะเปิดตัวประมาณ 15,900 บาท
• 32GB $599 น่าจะเปิดตัวประมาณ 18,900 บาท
• 64GB $699 น่าจะเปิดตัวประมาณ 21,900 บาท

iPad 2 Wi-Fi + 3G
• 16GB $629 น่าจะเปิดตัวประมาณ 19,900 บาท
• 32GB $729 น่าจะเปิดตัวประมาณ 22,900 บาท
• 64GB $829 น่าจะเปิดตัวประมาณ 25,900 บาท

จากราคาขั้นต้นจะเห็นได้ว่ามีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่าง iPad 2 Wi-Fi กับ iPad 2 Wi-Fi + 3G ซึ่งความห่างของราคาจะเห็นได้ว่าอยู่ที่ 4,000 บาท (แน่ะ แพงเนอะ >_<) โดยหากซื้อ Wi-Fi Router 3G แบบแยกต่างหากที่มีแบตฯ แยกอยู่ได้ราว ๆ 3-5 ชม. ก็จะมีราคาที่ 2-4 พันบาท เช่นเดียวกัน เพียงแต่ประหยัดแบตฯ ของ iPad มากกว่า และการใช้งานอาจจะหลายหลายกว่า เพราะว่า iPad2 ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ Personal Hotspot เหมือน iPhone4 ได้ -_-” เพราะว่า Apple ล็อคมาจากโรงงาน (แต่ปัญหาทั้งหมดแก้ได้ด้วยการ JailBreak) – – v ซึ่งสำหรับคนที่ไม่คิดจะ JailBreak นั้นอาจจะใช้ประโยชน์ของ 3G ได้ไม่เต็มที่นัก เพราะแชร์ให้เครื่องอื่นไม่ได้

(จากภาพด้านบนเทียบระหว่าง iPad1 กับ iPad2) เอาล่ะครับ เกริ่นมาซะยาวเลย ^^ เรามาเข้าสู่กระบวนการ “ถามใจตัวเอง” กันก่อนดีกว่าว่าเลือกแบบไหนให้ตรงกับใจเรามากที่สุด

คำถาม : ซื้อตัว WiFi หรือ 3G ดี?

คำตอบ : อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการใช้ 3G รึปล่าว? และพื้นที่ที่นำไปใช้งานส่วนใหญ่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตหรือมี WiFi มากน้อย แค่ไหน? โดยแน่นอนว่าคนใช้ 3G จะต้องอยู่ในพื้นที่ที่ ให้บริการ ทดสอบบริการ ด้วยโดยหลัก ๆ จะเป็น กทม. และบางจังหวัด (ขึ้นอยู่กับค่ายที่ใช้) โดยหลายคนอาจจะไม่ทราบว่าหากเราซื้อ iPad 3G นอกจากจะได้ 3G แล้ว เรายังได้ GPS และเข็มทิศมาด้วย ซึ่งแน่นอนว่า 2 อย่างนี้ในตัว WiFi ไม่มี ทีนี้ก็ต้องถามใจตัวเองแล้วครับว่า แลกกับ 4,000 บาท คุ้มหรือปล่าว หรืออาจจะใช้มือถือ Share WiFi ก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่หากถามผม ๆ เลือกตัว 3G ครับ เนื่องจากมือถือผม Share 3G ไม่ได้ แล้วผมก็ไม่อยากพกอุปกรณ์หลาย ๆ อย่างให้มากความ (หมายถึง 3G Router)

คำถาม : ซื้อตัวความจุเท่าไหร่ดี?

คำตอบ : ตัวความจุมีให้เลือกทั้งหมด 3 ความจุคือ 16GB 32GB 64GB แบ่งตามเรตราคาครับ หากเราเทียบกันแล้วจะพบว่าราคาห่างกันเรตละ 3,000 บาท หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ เพิ่มความจุอีก 1 เท่า เพิ่มเงินอีก 3,000 บาท และเพิ่มความจุอีก 3 เท่า เพิ่มเงินอีก 6,000 บาท ดูเผิน ๆ เหมือนกับว่าซื้อ 64GB จะคุ้มสุด แต่อย่าลืมไปว่าหากเราซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ก็เท่ากับเสียเงินไปฟรี ๆ ตรงนี้หลาย ๆ คนคงต้องชั่งน้ำหนักกันดี ๆ ครับ ว่าจะต้องใช้เท่าไหร่? แต่ผมอยากจะเตือนว่า ซื้อ 16GB อาจจะไม่เพียงพอต่ออนาคต เนื่องจากว่า

1. ตามหลักการเทียบแปลงหน่วยความจุจากฐาน 10 ไป ฐาน 2 ในระบบคอมพิวเตอร์เราจะได้ความจุไม่ถึง 16GB
2. อย่าลืมเผื่อเนื้อที่ให้ iOS เพราะ Apple จะกันไว้เองส่วนหนึ่ง (หลัก GB อยู่)
3. หากฟังเพลงด้วยอย่างลืมเผื่อเนื้อที่ไว้เก็บเพลง
4. หากดูหนังด้วยอย่างลืมเผื่อเนื้อที่ไว้เก็บหนัง
5. หากชอบถ่ายรูป (หรือแฟนชอบถ่ายรูป) อย่าลืมเผื่อเนื้อที่ไว้ซักนิด
6. Dropbox ก็กินเนื้อที่นะ (ตั้งแต่ 100MB – 2GB แล้วแต่การตั้งค่า)
7. ถ้าชอบเล่น iMovie หรือ แต่งเพลงก็เผื่อไว้ตัดต่ออีกนิดก็ดีครับ
8. อย่าลืมเผื่อเนื้อที่ไว้สำหรับ Digital Magazine ซึ่งแต่ละเล่ม 100MB+
9. ข้อสุดท้ายนี้อยากบอกว่าเกมปัจจุบันไฟล์ใหญ่มาก 500MB+ ก็มีเยอะ เนื่องจากว่าความเป็น iPad ที่มีความละเอียดของหน้าจอสูง จึงจำเป็นต้องเป็นไฟล์ HD ที่กินเนื้อที่มากกว่า App ทั่ว ๆ ไปนั่นเอง

จาก 9 ข้อด้านบนผมได้เผื่อไว้ให้หลายข้อมาก ๆ หากใครไม่ได้ใช้ หรือคิดว่าจะไม่ใช้ข้อไหนก็ลองตัด ๆ ออกดูนะครับ แล้วอาจจะตอบโจทย์ได้ว่า คุณต้องการกี่ GB กันแน่? ส่วนถ้าถามผมนะครับ ใจผมอยากได้ 64GB แต่ผมคิดว่างบมันบานปลายเกินไป (ปัญหาใหญ่ -*-) เลยลังเลอยู่ระหว่าง 32GB กับ 64GB (ใครเล่าจะรู้ถึงตอนนั้นอาจจะกลั้นใจซื้อ 64GB ก็เป็นได้ – – v)

แล้วคุณล่ะ เลือกตัวไหน เพราะอะไร?

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย yugioh2500

หากตรงไหนแปลหรือเขียนผิดสามารถชี้แนะได้ครับ
ติดต่อ-สอบถาม-พูดคุย-แลกเปลี่ยนกันได้ที่
Twitter: @yugioh2500

49 Comments

    • คิดหนักเหมือนกัน แฮะ ๆ ๆ … เลยหาคนมาคิดหนักเป็นเพื่อน

        • รุ่น Top นี่ซื้อ Notebook ดี ๆ ได้ตัวนึงเลยนะเนี่ย ^^

    • คิดเหมือนกันเลย อิอิ… เอาไป +1

  1. ถ้าไม่ได้ซื้อมาเพื่
    อเล่นเกมส์ 16gb wifi 3G น่าจะพอ

    • เหมือนกับว่าเกมมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต คงต้องมีบาง ไม่มากก็น้อยน่ะครับ ถึงเราไม่เล่น เพื่อนเล่น แฟนเล่นอยู่ดี จริงไหมครับ ^^

      • รับรองไม่พอแน่ๆเลย ผมว่า อย่างต่ำต้อง 32g เดี๋ยวไม่พอเหมือน ipod touch

        • เคยซื้อ iPod Touch แล้วเสียใจมาก ๆ ที่ซื้อแค่ 8GB เก็บเพลงกับเกมไม่พอเลย T^T

  2. 16 little – user มือใหม่ >>เด็ก>> ทั่วๆ ไป รวมถึงคนงบน้อยอย่างผม LOL
    ผมมองว่าเหมาะกับคนที่มี iPhone iPod หรือพวก Mac มาใช้นอกสถานที่มากกว่านะ iPad นี่เอามาเสริมเบาๆ
    32 ก็โอนะครับ ไหนๆ ก็จะซื้อและ กัดฟันเพิ่มอีกนิดดีกว่าเน๊อะ
    64 ถ้าไม่ Hard user จริงๆ ก็ไม่น่าจะขนาดนั้น = =a

    ผมก็เล่น App เยอะนะ แต่ยังไม่ถึง 20GB ซีกที = ="

      • ผมยังไม่เคยลองถ่าย VDO ดูเหมือนกัน แต่ดูจากสเปคกล้องแล้วไม่น่าจะไฟล์ใหญ่มาก แต่ประเด็นคือ VDO ที่เรา Sync มาดูกันในคอมฯ มากกว่า

    • ถ้าเล่นแบบจิ้ม ๆ ไม่คิดอะไรเลย ผมว่า 16GB ก็ยังพอไหวอยู่ แต่กลัว User มือใหม่ พัฒนาไปอีกขั้นเดี๋ยวจะเครียดเรื่องความจุไม่พอกัน

    • ปัญหาคือ "เงิน" อย่างเดียวเลย Mod ไส้แห้ง ^^

      • Mod ใส้แห้งแล้วสมาชิกจะใส้อะไรดี 5555
        32GB+3G กลางๆ งามๆ ไม่ต้องอดข้าวอดน้ำ

        • แต่ต้องอดขนมเป็นเดือนเลยอ่ะจิ … กินข้าวราดแกงกับสาวอย่างเดียว บอกพี่จน – -"

    • ราคาซื้อ Notebook ผมได้ตัวนึงเลยนะน่ะ >,<!

      • ตัดใจซื้อไปเลยครับ ไม่อย่างงั้น ก็อั้นไว้ก่อน รอรุ่นที่จอเป็นเรติน่าแล้ว

    • iPad2 ความจุน่าจะเริ่มต้นที่ 32GB ไปเลยนะ ราคาต่ำสุดท่าจะเป็นประโยชน์กับผู้บริโภคดี

  3. ผมก็ตัดสินใจสอย 32gb 3G+wifi มาแล้วครับ แต่หลังจากใช้แล้วคุ้มครับ การใช้งานพิกัด gps การใส่ซิม 3G ใช้งานได้สบายเวลาอยู่ข้างนอกความจุที่ตอนนี้เหลือแค่ 10Gb – -"

    • ใช้คุ้มเลย ผมก็ชอบ 3G ตรงที่ว่ามันได้เรื่อง GPS ด้วยนี่แหล่ะ เผื่อจะซื้อ Map ให้อนาคต ว่าแต่การใช้ Navigatior มันกินแบรนวิชมากไหมหว่า? กลัว 3G หมด >,<!

      • ถ้ามีแอปพวก navigator. อย่างsygic. ไม่ใช้3gเลยนะครับ ไม่ต้องต่อเอจหรือ3G. เลยผมลองแล้วเพราะพวกแอปเค้าโหลดแมปมาหมดแล้วครีบ

  4. อยู่ญี่ปุ่นครับ ซื้อแล้ว64gb

    • พึ่งเข้าเมื่อวานหรอครับ?

      • ผมจองไว้กับผู้ให้บริการsoftbankครับเพราะงั้นวันแรกก็ถึงมือเลยครับ
        อยากบอกว่าสัมผัสไอแพด2แล้วไม่อยากจับไอแพด1อีกเลยครับ
        ความบางนี้เฉียบ ความเบาก็เบากว่ารุ่นแรกมากเลยครับ
        สรุปใครมีรุ่นแรกแล้วแต่ก็อยากได้แบบไม่คิดถึงรุ่นแรกเลยล่ะครับ

  5. เองไงดีอีก 3000 ก็ 64 GB แล้ว (นั่นคือเสียงที่อู่ในหัวสมองของใครหลายๆคนในตอนนี้) ผมด้วย 555++

    • นึกว่าผมจะเป็นคนเดียวซะอีก 😛

  6. 32G+3G Wifi เลยครับเป็นอย่างน้อย ผมเอามาทำเรื่องดนตรีครับ ipod 64G ผมใช้เหลือไม่ถึง20G ขนาดไฟล์เล็กๆนะ

    • แต่ในใจผมก็คิดว่าบวกอีก 3000.- ดีมั้ยนะ ได้ความจุอีกเท่านึงแน่ะ >,<

  7. ลง app เยอะก็ไม่ใช่จะได้ใช้หมด
    ลงเพลงเยอะ ก็ใช่จะฟังครบทุกเพลง
    เกมส์ลงเยอะก็ใช่จะเล่นครบทุกเกมส์

    32G 3G แหะ ๆ ๆ คงดีล่ะ ^^!

  8. ผมยืนยันว่าเครื่องผมมีแค่แอปอย่างเดียวแถมซื้อตอนลดราคาส่วนใหญ่ด้วยตอนนี้ใช้ไปทั้งหมด20Gb เพราะเกมใหญ่มากอย่างฟีฟ่านี่ 800mb นะครับเกมมันใช้เนื้อที่มากยิ่งพวกเกมกราฟฟิคเยอะของค่าย EA or Gameloft. แต่ 64gb มันใหญ่ไปจริงๆคงต้องใส่วีดีโอด้วยสัก 30เรื่อง
    ผมใช้ 32Gb 3G ต่อแถวซื้อจากแอปเปิ้ลสโตร์US

    • เกมใหม่ ๆ ความจุเยอะครับ ยิ่งสำหรับ iPad เป็น HD ด้วย

  9. ใช้ 16 wifi gen1 อยู่คาดว่าถ้า ipad gen2 มาก็เลือก 16 wifi เหมาะสำหรับผมครับ

  10. สเปคบอกไม่มีGPSและเข็มทิศ แต่เอาเข้าจริงๆตัวiPad2Wifi64gb มีGPSและเข็มทิศครับแอปนำทางจากไอโฟนใช้ได้หมดไม่มีปัญหา ไม่ต่อเนตก็นำทางได้ ใครมีไอโฟนแล้วรุ่น3Gมางข้ามมันไปเถอะครับ(หรือคุณจะไม่พกโทรศัพท์) แชร์เนตจากไอโฟนได้ก็จบแล้ว 3Gเป็นตัวเลือกที่ผมว่าไม่คุ้มอย่างแรงถ้าไม่มีไอโฟนนะครับ แอนดรอยก็แชร์เนตมาiPadได้ครับ

  11. ถ้ารุ่น3GiPadโทรออกรับสายได้เมื่อไหร่ คอยหย้าเลือกรุ่น3Gครับ ผมคงขายไอโฟนพกมันเครื่องเดียวนี้ละครับ

    • โทรมาแล้วมันไม่สั่นน่ะสิครับ เพราะบางทีการติดต่อมันขาดจังหวะไป

  12. เขียนเพิ่มเติมด้วยสิครับว่า ให้ซื้อผ่าน app store ครับ เพราะไม่ต้องไปรอคิวโดนแซงคิว

  13. ผมว่า32กำลังดีครับ64 ผมเพิ่งซื้อให้เจ้านายไปใช้หนักมากครับข้อมูลต่างๆและด่วนๆมาอย่างไรก็ใช้ไม่เคยหมดว่างเยอะส่วนตัว32เหลือๆนอกจากบจะเก็บหนังไว้แต่พึงสังวอนครับคุณจะดูหนังทีหลายเรื่องขนาดนั้นเลยรึเก็บเงินไว้ดีกว่าเดี่๋ยวiPad 3 ก็มาตอนนี้ผมใช้ในงานข่าวอยู่ถือว่าหนักสุดค้มสุดแล้วส่วนใหญ่ก็ใช้แค่16และ32 คุ้มมาก

  14. แนะนำเพิ่มครับ อย่าลืมค่าใช้จ่ายที่ตามมากับตัว 3G นะครับ เดือนละอย่างน้อย ๆ ก็หลายร้อยแหล่ะ และที่สำคัญเลยแบตหมดไวกว่าตัว WiFi เร็วมาก ส่วนตัว 16GB WiFi มี GPS นะครับแถมมีมาตั้งแต่ iPad 1 แล้วด้วยครับ

  15. เล่นที่ละเกม ดูหนังที่ละเรื่อง ฟังเพลงที่กำลังอยากฟัง ที่เหลือเอาไว้ใน iTunes ในคอมเรา อยากได้เมื่อไหร่ก็แค่ซิงค์เข้าไป 16 GB เหลือแหล่ เร็วด้วยไม่หนักเครื่อง

    • เป็นความคิดทีดี "ลงเท่าที่จำเป็น"

  16. ดูท่า 32gจะเหมาะกับเรานะ

  17. แล้ว16gb wifi ถ้าจะใช้เน็ตในที่ที่ไม่มีfree wifi ทำอย่างไรได้บ้างคะ ต้องเปลี่ยนมือถือเป็นiphone ด้วยหรือเปล่า ตอนนี้ซื้wifi 3 BB มาแล้วก็เสียเงินเปล่าเพราะหาที่มีสัญญานไม่ได้เลยเครียดนะนี่