Zakura Kim
เราอาจจะเคยได้ยินชื่อหูฟัง “อังกอร์ หรือ ENCORE” กันมาบ้างแล้ว เค้าเพิ่งจะเปิดตัวได้ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหูฟังแบรนด์นี้ได้รับแรงบันดาลใจจากพี่ตูน Bodyslam ที่มีประสบการณ์การใช้งานหูฟังแบบ IN In Ear Monitor มายาวนาน จนสุดท้ายก็พัฒนาและส่งมอบประสบการณ์ดี ๆ ให้กับเหล่าหูเทพ ในบทความนี้เราจะมาชมรีวิวของหูฟัง ENCORE 2 รุ่นด้วยกัน
รีวิวหูฟัง ENCORE รุ่น RISING และ PASSION คุณภาพเสียงเยี่ยม ในราคาที่จับต้องได้
แต่ก่อนที่จะไปชมรีวิว เรามาทำความรู้จักกับแบรนด์ ENCORE กันสักหน่อยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร
แรงบันดาลใจของพี่ตูนสู่สุดยอดเสียงของ ENCORE
ENCORE อ่านออกเสียง อินเตอร์ว่า อองคอร์, อังคอร์, หรือ อันคอร์ เป็นคำมาจากภาษาผรั่งเศส ว่า “อ็องกอร์” แต่ถ้าอ่านแบบไทย ๆ จะออกเสียงเป็น “อังกอร์” มีความหมาย ว่า “อีกครั้ง” หรือผู้ชมร้องว่า “เอาอีก ๆ ยังไม่พอ” หลังจากที่คอนเสิร์ตจะสิ้นสุดลง นั่นคือการส่งเสียงแห่งความสุขจากผู้ฟังที่เป็นแรงบันดาลใจทำให้เกิดชื่อหูฟังนี้ขึ้น
โดยโลโก้ของ ENCORE จะเป็นรูปภูเขาที่สื่อถึงตัวตนของพี่ตูนเอง ที่มีบุคลิกนิ่ง ๆ แต่เต็มไปด้วยพลัง ดุจดั่งภูเขา และลายเส้นที่ออกแบบมาเป็นรูปภูเขานั้นมาจากตัวอักษร AW ซึ่งเป็นชื่อของพี่ตูน อาทิวราห์ คงมาลัย นั่นเอง
หูฟังตัวนี้เป็นหูฟังที่พัฒนาโดยคนไทย โดยใช้เวลากว่า 2 ปี พัฒนาโดยบริษัท D Plus Intertrade จำกัด (ผู้ผลิตฟิล์มและกระจกกันรอย Focus) ซึ่งจับมือกับ พี่ตูนในการออกแบบและพัฒนาหูฟังจากประสบการณ์ตรงของพี่ตูนที่ได้สัมผัสกับหูฟัง In Ear Monitor มาอย่างยาวนาน จนรู้ว่า “เราต้องการอะไร”
ทีมงานก็เลยอยากแนะนำรีวิวหูฟังจากแบรนด์ ENCORE ด้วยกัน 2 รุ่น จะมีอะไรเด็ด ๆ บ้าง ไปชมกันเลย
รีวิวหูฟัง In Ear Monitor จาก ENCORE รุ่น RISING สำหรับมืออาชีพ
หูฟัง ENCORE รุ่น RISING เป็นหูฟังมอนิเตอร์แบบมีสาย ซึ่งเรามักจะเห็นกันในสตูดิโอหรือนักร้องที่ขึ้นคอนเสิร์ต หูฟังตัวนี้มีคุณสมบัติเด่นด้านการแยกรายละเอียดเสียงได้ดีกว่าหูฟังทั่วไป แยกเสียงของเครื่องดนตรีได้ชัดเจน ทำมาเพื่อการฟังระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ วางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท
ดีไซน์และการสวมใส่
ENCORE รุ่น RISING ขึ้นรูปด้วยวัสดุอะคริลิคเรซิ่นเกรดการแพทย์ ที่ผลิตงานแบบแฮนด์เมด มีสาย OFC ทองแดงที่ชุบด้วยเงินเชื่อมต่อกับตัวหูฟังด้วยขั้วมาตรฐานแบบ MMCX สามารถถอดสายออกได้ รองรับการอัปเกรดสายในอนาคต
ตัวหูฟังเป็นรูปแบบ In-Ear หลายคนอาจจะคิดว่าสวมใส่แล้วอึดอัดและเจ็บหู แต่หูฟังตัวนี้ได้รับการออกแบบมาให้เหมาะสมกับสรีระของหูตามหลัก Ergonomics สวมใส่สบาย ไม่เจ็บหู เมื่อสวมใส่แล้วมีความกระชับพอดีกับหู ลงตัวทั้งการสวมใส่และการฟัง
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ได้แก่ หูฟัง ENCORE รุ่น RISING 1 คู่, คู่มือการใช้งาน 1 ชุด, เคสใส่หูฟังพร้อมผ้าป้องกัน, จุกยาง 3 คู่ ขนาด (S, M, L) และสายเชื่อมต่อหูฟังแบบ MMCX 1 คู่ รองรับพอร์ตเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม.
ไดรฟ์เวอร์ 5 ตัว รายละเอียดเสียงครบ คุณภาพเสียงเยี่ยม
จุดเด่นสำคัญของหูฟัง ENCORE รุ่น RISING คือไดร์เวอร์ Balanced Armature ที่ถูกใส่เข้ามามากถึง 5 ตัว ที่ใช้คุมย่านเสียงแต่ละย่านความถี่ (1L + 1M + 3H) แน่นอนว่าการฟังเข้าถึงรายละเอียดทุกยานเสียงระดับสูง ย่านเบสลึก เสียงกลางชัด เสียงแหลมจัดจ้าน แต่ไม่บาดหู
สำหรับการทดลองฟังด้วย ENCORE รุ่น RISING แล้ว พบว่าเสียงไม่ถูกปรับแต่งเหมือนหูฟังทั่วไปที่ได้รับการปรับแต่งให้การฟังสนุกมาแล้ว การฟังด้วยหูฟังตัวนี้จะได้ยินเสียงจริงของแต่ละย่านเสียง เก็บรายละเอียดและแยกได้อย่างชัดเจน ซึ่งบางเสียงหูฟังทั่วไปไม่สามารถฟังออกได้
ไร้การรบกวนด้วย Noise Cancelling
ในรุ่นนี้ยังมีฟีเจอร์การตัดเสียงรบกวนหรือ Noise Cancelling ได้ สามารถตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้ผู้ฟังมีสมาธิกับการเก็บรายละเอียดแต่ละเสียงได้โดยไร้การรบกวน
ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะเสียงดัง อย่างการใส่ขึ้นคอนเสิร์ตหรือขึ้นร้องเพลง เล่นดนตรีบนเวทีก็ช่วยให้โฟกัสกับรายละเอียดเสียงต่าง ๆ ได้ดี ไม่หลุดโฟกัสที่ส่งผลทำให้เล่นดนตรีหรือร้องจนเกิดความเพื้ยน
สเปกทางเทคนิคของหูฟัง ENCORE รุ่น RISING
- ไดร์เวอร์ : 5 Balanced Armature 1L+1M-3K
- ความต้านทาน : DCR 300 +- 10%
- ความถี่ที่ตอบสนอง : 20Hz – 40KHz
- Sensitivity : 110 +- 2db
- L&R Channel Balance Sensitivity : <= 2db
- Max Input Power : 20mW
- Length : 1.2m (+-0.05)
- Distortion : < 2%
สรุปหูฟัง ENCORE รุ่น RISING เหมาะกับใคร
ENCORE รุ่น RISING เป็นหูฟังประเภท Monitoring ที่เก็บรายละเอียดเสียงได้ครบถ้วน แยกเสียงเครื่องดนตรีได้ชัดเจน พร้อมกับตัดเสียงรบกวนรอบข้างเพื่อให้ผู้ฟังโฟกัสกับเสียงได้ไม่มีหลุด
หูฟังตัวนี้จึงเหมาะกับการฟังเพลงแบบมืออาชีพ โดยเฉพาะผู้ที่เป็นนักร้องหรือนักดนตรีต้องใช้ในห้องอัด สตูดิโอ หรือขึ้นเวที ขึ้นคอนเสิร์ต
นอกจากนี้ยังเหมาะกับผู้ฟังที่ทำงานในส่วนตรวจสอบความเพี้ยนของเสียง หูฟังตัวนี้จึงตอบโจทย์กับผู้ที่ทำงานเฉพาะกลุ่มมืออาชีพ ซึ่งในราคานี้หากเทียบกับหูฟังมอนิเตอร์ทั่วไป ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
สำหรับคนฟังทั่วไปที่ไม่ใช่นักร้องหรือนักดนตรีมืออาชีพ แนะนำให้หาหูฟังเอ็นเตอร์เทนที่น่าจะเหมาะสมกว่า ซึ่งทีมงานมีรีวิวหูฟัง ENCORE รุ่น PASSION ที่เป็นหูฟังไร้สายเหมาะกับการฟังเพลงสนุก ๆ ใส่ได้ทุกไลฟ์สไตล์มาแนะนำให้ชมกันอีกหนึ่งรุ่น
รีวิวหูฟัง ENCORE รุ่น PASSION เหมาะกับทุกไลฟสไตล์
สำหรับหูฟัง ENCORE รุ่น PASSION เป็นหูฟัง True Wireless ไร้สายที่เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth มีน้ำหนักเบา เหมาะกับทุก ๆ กิจกรรม ไม่ว่าจะใส่ฟังออกกำลังกาย ใส่ฟังที่ทำงาน หรือใส่ฟังระหว่างเดินทาง ก็พกพาสะดวกไปได้ทุกที่ วางจำหน่ายในราคา 2,490 บาท
ออกแบบให้ใช้งานง่าย เชื่อมต่อไร้สาย สะดวกทุกกิจกรรม
หูฟัง ENCORE รุ่น PASSION เป็นหูฟังรูปแบบ In-Ear คือมีจุกสอดเข้าไปในหู โดยออกแบบรูปทรงที่พอดีกระชับกับสรีระของหูตามหลัก Ergonomics เช่นกัน จึงทำให้การสวมใส่แน่นกระชับ ไม่หลุดง่าย ถึงแม้ว่าจะเป็นหูฟังแบบไร้สายก็ตาม
ตัวหูฟังมีขนาดเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา ทำให้การสวมใส่ระหว่างเคลื่อนไหวรู้สึกสบาย และการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 ที่รวดเร็วนั้นยังช่วยให้ไม่รู้สึกเกะกะ เนื่องจากไม่มีสายให้ต้องรำคาญ สวมหูฟังด้านซ้ายและด้านขวาได้อย่างอิสระ สามารถทำกิจกรรมออกกำลังกายได้สะดวกและต่อเนื่อง และการเชื่อมต่อกับ iPhone นั้นทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากแต่อย่างใด
การใช้งานควบคุมทำได้ง่าย ๆ ด้วยระบบ Touch Control ที่ใช้การสัมผัสควบคุมมีเดียได้ตามต้องการโดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมากด เช่น แตะหูฟังเพื่อเล่นหรือหยุดเพลง การเล่นเพลงถัดไปหรือก่อนหน้า การเพิ่มหรือลดเสียง เป็นต้น แถมยังรองรับ Siri และ Google Asisstance อีกด้วย
และด้วยความเป็น True Wireless หูฟังตัวนี้จึงมาพร้อมกับแบตเตอรี่และกล่องชาร์จที่สามารถฟังเพลงรวมกันนานต่อเนื่องได้ถึง 15 ชั่วโมง ฟังยาวนานตลอดทั้งวัน เมื่อใช้งานเสร็จแล้วก็สามารถเก็บใส่กล่องชาร์จต่อ เพื่อเตรียมไว้ใช้งานครั้งถัดไปได้เลย และกล่องชาร์จก็ช่วยให้พกพาหูฟังได้ะสะดวก
ในกล่องมีอุปกรณ์มาให้ดังนี้ หูฟัง Encore รุ่น PASSION 1 คู่, กล่องชาร์จ 1 กล่อง, จุกยางซิลิโคน 3 คู่ (ไซส์ S,M,L), คู่มือการใช้งาน และ สายชาร์จ Micro-USB 1 เส้น และสมุดบันทึก
คุณภาพเสียงดีที่ลงตัวกับทุกไลฟ์สไตล์
เรื่องของคุณภาพเสียงของหูฟัง ENCORE รุ่น PASSION จะเน้นไปทางเสียงเบสที่หนัก มีเสียงกลางและเสียงแหลมเข้ามาซัพพอร์ต ได้เสียงที่นุ่มละมุน ไม่กระแทกหูจนเกินไป เก็บรายละเอียดเสียงและช่วงมิติเสียงครบถ้วน
โดยรวมถือว่าคุณภาพเสียงยอดเยี่ยมเลยทีเดียวกำลังเสียงหากเทียบกับ AirPods 2 แล้ว Encore PASSION ถือว่าทำได้ดีกว่า ส่วนระบบการตัดเสียงนั้นไม่ใช่ ANC แบบ AirPods Pro นะ แต่ว่าจะเป็นตัดเสียงรบกวนภายนอกด้วยจุกยางของหูฟัง เหมาะสำหรับการดูหนัง ฟังเพลง ทั่วไป ดีเลย์น้อยมีอัตราดีเลย์ต่ำ
กันน้ำระดับ IPX6 ออกกำลังกายได้ไม่หวั่น
สิ่งที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือหูฟังตัวนี้มีคุณสมบัติการกันน้ำระดับ IPX6 สามารถป้องกันน้ำได้ทุกทิศทาง ดังนั้นเวลาที่เราสวมใส่ออกกำลังกายแล้วมีเหงื่อก็ไม่ต้องกังวลว่าหูฟังจะเสีย สามารถใส่วิ่งมาราธอนหรือเล่นกีฬาหนัก ๆ ได้สบาย
สเปกทางเทคนิคของหูฟัง ENCORE รุ่น PASSION
- ไดรฟ์เวอร์ : 6mm
- ความถี่ที่ตอบสนอง : 20Hz – 20KHz
- ความต้านทาน : 16 โอห์ม +- 15%
- Input Voltage : DC 5V สำหรับกล่องชาร์จ ใช้เวลาชาร์จเต็ม 1.5 ชั่วโมง
- นํ้าหนัก : หูฟัง 5.3 กรัม และกล่องชาร์จ 46 กรัม
- ขนาดหูฟัง : 28 x 26 x 17.8 มม. ต่อข้าง
- ขนาดกล่องชาร์จ : 75 x 54 x 32 มม.
- เล่นต่อเนื่อง : สูงสุด 3 ชั่วโมง x การชาร์จในกล่อง 5 รอบ ฟังต่อเนื่องสูงสุด 15 ชั่วโมง
- ความจุแบตเตอรี่ : หูฟังข้างละ 60 mAh และกล่องชาร์จความจุ 500mAh
- ระยะเวลา Stand By : สูงสุด 2 วัน
สรุปหูฟัง ENCORE รุ่น PASSION เหมาะกับใคร
หูฟัง ENOCORE รุ่น PASSION เป็นหูฟังที่มีเสียงคุณภาพดี ระดับของเบสที่สมดุลให้ความลึกแต่ไม่หนักจนเกินไป ใช้งานแบบไร้สายสะดวก จึงเหมาะกับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการหูฟังใช้งานในชีวิตประจำวันและต้องการความสะดวกในการใช้งาน โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รองรับบลูทูธ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟน โน้ตบุ๊ค ฯลฯ
ไม่ว่าจะใส่ฟังเพลงอยู่ที่ทำงาน ที่บ้าน บนรถโดยสาร หรือจะใส่ออกกำลังกายก็ใช้งานได้สะดวกทั้งหมด เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงที่มีคุณภาพได้ทุก ๆ กิจกรรม เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์
สถานที่จัดจำหน่ายหูฟัง ENCORE
หูฟัง ENCORE รุ่น RISING ราคา 6,990 บาท ส่วนรุ่น PASSION ราคา 2,490 บาท รับประกันสินค้า 2 ปีเต็ม สามารถหาซื้อได้ที่ ตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่
แต่สำหรับใครที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้หูฟังที่มีคุณภาพดีเหมาะสมกับงบประมาณก็ลองดูหูฟังรุ่น DAWN แทนได้ ราคาเริ่มต้น 1,690 บาท ส่วนรุ่น DAWN LIMITED ราคา 1,990 บาท (มีเฉพาะสีดำ) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://encorethailand.com/ หรือ Facebook Fanpage : ENCORE THAILAND (แชทเพื่อสอบถามเพิ่มเติมได้)
