Sasithakan Sritonthip
Apple เปิดตัว watchOS 26 มาพร้อมดีไซน์ซอฟต์แวร์ใหม่ และฟีเจอร์ใหม่อย่าง Workout Buddy เป็นผู้ช่วยในการออกกำลังกายแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ช่วยให้การใช้งานเพลิดเพลินมากขึ้น พร้อมด้วย Apple Intelligence ช่วยทำให้วิดเจ็ตและแอปข้อความฉลาดยิ่งขึ้น
watchOS 26 มาพร้อมฟีเจอร์ตัวใหม่ Workout Buddy ช่วยให้ผู้ใช้แอ็คทีฟในการออกกำลังกายมากขึ้น
Apple ได้เผยโฉม watchOS 26 ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่อันสวยงามและความอัจฉริยะที่มากกว่าเดิมเพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ปรับแต่งได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ผู้ใช้แอ็คทีฟ มีสุขภาพดี และต่อติดกับทุกเรื่องอยู่เสมอ ดีไซน์ใหม่อย่าง Liquid Glass ทำให้คุณสมบัติอย่างวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ ศูนย์ควบคุม หน้าปัดรูปภาพ รวมถึงส่วนนำทางและการควบคุมภายในแอปสื่อความหมายได้มากขึ้น โดยยังคงไว้ซึ่งความรู้สึกที่คุ้นเคยของ watchOS ทันทีที่ได้สัมผัส Apple Intelligence ยกระดับประสบการณ์ด้านฟิตเนสด้วย Workout Buddy ที่จะมอบแรงบันดาลใจผ่านเสียงในแบบที่เข้ากับผู้ใช้ แอปออกกำลังกายมาพร้อมกับเลย์เอาท์ใหม่ พร้อมด้วยเพลงที่คัดสรรตามรสนิยมของผู้ใช้และการออกกำลังกายแต่ละประเภท watchOS 26 จะยกระดับการใช้งานในชีวิตประจำวันให้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยคำแนะนำในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและการอัปเดตแอปข้อความ พร้อมเปิดตัวท่าทางใหม่อย่างการพลิกข้อมือข้างเดียวเพื่อปิดการแจ้งเตือนอย่างง่ายดาย
“Apple Watch เป็นคู่หูที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้คนนับล้านทั่วโลก และ watchOS 26 ก็ได้นำความอัจฉริยะมาใช้เพื่อมอบประสบการณ์ที่ปรับแต่งได้มากยิ่งขึ้น” David Clark ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย watchOS Engineering ของ Apple กล่าว “ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์ใหม่ที่สวยสะดุดตา คุณสมบัติ Workout Buddy ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence การแนะนำเพลงที่เข้ากับผู้ใช้ในแอปออกกำลังกาย ไปจนถึงวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและแอปข้อความที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น เรารู้สึกตื่นเต้นกับวิธีต่างๆ มากมายที่ watchOS 26 จะช่วยให้ผู้ใช้แอ็คทีฟ มีสุขภาพดี ต่อติดกับทุกเรื่องอยู่เสมอ และปลอดภัยตลอดทั้งวัน”
ดีไซน์ใหม่อันสวยงาม
ดีไซน์ซอฟต์แวร์ใหม่ที่สวยสะดุดตาพร้อม Liquid Glass ช่วยปรับลุคของ watchOS 26 ให้สดใหม่ยิ่งขึ้น โดยดีไซน์ใหม่นี้จะยกระดับประสบการณ์การใช้งานแอปต่างๆ ให้สดใสและสื่อความหมายได้อย่างเต็มที่ด้วยการสะท้อนและหักเหภาพของคอนเทนต์โดยใช้การเรนเดอร์แบบเรียลไทม์ ซึ่งจะช่วยให้คอนเทนต์ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น และทำให้การใช้งาน Apple Watch เพลิดเพลินยิ่งกว่าเดิม วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ คำแนะนำในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ การแจ้งเตือน ศูนย์ควบคุม รวมถึงการควบคุมและการไปยังส่วนต่างๆ ภายในแอปจะปรับมาใช้ดีไซน์ใหม่ทั้งหมด หน้าปัดรูปภาพยอดนิยมก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยตัวเลขที่ทำด้วย Liquid Glass เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มองเห็นภาพถ่ายของตนเองได้มากยิ่งขึ้น
Apple Intelligence พร้อมเสริมการออกกำลังกายด้วย Workout Buddy
Workout Buddy คือประสบการณ์ฟิตเนสในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วย Apple Intelligence ซึ่งจะนำข้อมูลการออกกำลังกายและประวัติด้านฟิตเนสของผู้ใช้มาสร้างข้อมูลเชิงลึกที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ใช้แต่ละรายในระหว่างการออกกำลังกาย โดยอิงจากข้อมูลอย่างอัตราการเต้นของหัวใจ ระยะทาง วงแหวนกิจกรรม เป้าหมายด้านฟิตเนสส่วนบุคคล และอื่นๆ อีกมากมาย
เช่น เมื่อผู้ใช้เริ่มออกวิ่ง Workout Buddy จะพูดให้กำลังใจในแบบที่สอดคล้องกับผู้ใช้โดยอาจทบทวนให้ฟังว่าสัปดาห์นี้พวกเขาวิ่งไปกี่กิโลเมตรแล้ว หรือแชร์ความคืบหน้าเมื่อเทียบกับเป้าหมายวงแหวนกิจกรรมที่ตั้งไว้ เช่น “เยี่ยมมากที่คุณลุกขึ้นมาวิ่งในเช้าวันพุธแบบนี้ อีกแค่ 18 นาที คุณก็จะปิดวงแหวนการออกกำลังกายได้แล้ว คุณสะสมระยะมา 10 กิโลเมตรแล้วในสัปดาห์นี้ วันนี้ คุณจะทำได้มากกว่าเดิมอีก”
ในระหว่างการออกกำลังกาย Workout Buddy สามารถบันทึกช่วงเวลาสำคัญ เช่น ระยะเวลาที่ใช้ไปในแต่ละกิโลเมตรหรือแจ้งให้ทราบเมื่อผู้ใช้ทำสถิติใหม่โดยอิงจากประวัติด้านฟิตเนสของพวกเขา เช่น “ในกิโลเมตรที่ 4 คุณเร่งความเร็วขึ้น และวิ่งกิโลเมตรล่าสุดได้ในเวลา 8 นาที 28 วินาที” “เฮ้ ดูนี่สิ ระยะทางรวมที่คุณวิ่งตั้งแต่ต้นปีทะลุ 320 กิโลเมตรไปแล้ว ไม่ธรรมดาเลย”
เมื่อผู้ใช้จบการออกกำลังกาย Workout Buddy จะสรุปสถิติการออกกำลังกายพร้อมแสดงความยินดีกับความสำเร็จของพวกเขา เช่น “เยี่ยมมากที่หาเวลาออกกำลังกายได้ คุณวิ่งไป 7 กิโลเมตรในเวลาเพียงแค่ 34 นาทีเศษๆ เท่านั้น เพซเฉลี่ยของคุณอยู่ที่ 5:34 นาทีต่อกิโลเมตร และอัตราการเต้นหัวใจเฉลี่ยอยู่ที่ 128 ครั้งต่อนาที คุณทำระยะได้มากที่สุดในรอบ 28 วันเลยนะ ก้าวต่อไปของคุณคืออะไร”
Workout Buddy จะวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน Apple Intelligence ในแบบที่เป็นส่วนตัวและปลอดภัยเพื่อมอบแรงบันดาลใจได้อย่างตรงใจในแบบเรียลไทม์ จากนั้นโมเดลข้อความเป็นเสียงพูดแบบใหม่จะแปลงข้อมูลเชิงลึกเหล่านั้นเป็นเสียงพูดแบบไดนามิกที่พัฒนาขึ้นจากข้อมูลเสียงของเทรนเนอร์จาก Fitness+ เสียงที่ออกมาจึงมีพลัง สไตล์ และโทนที่เข้ากับการออกกำลังกายจริงๆ
Workout Buddy จะใช้งานได้บน Apple Watch พร้อมเฮดโฟนที่เปิดใช้งานบลูทูธ และต้องมี iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence อยู่ใกล้ๆ คุณสมบัตินี้จะเริ่มให้บริการในภาษาอังกฤษ โดยครอบคลุมประเภทการออกกำลังกายยอดนิยมหลายรูปแบบ เช่น วิ่งกลางแจ้งและในร่ม, เดินกลางแจ้งและในร่ม, ปั่นจักรยานกลางแจ้ง, HIIT, ออกกำลังกายทั่วทุกส่วน และออกกำลังกายเฉพาะส่วน
ประสบการณ์การออกกำลังกายที่ได้รับการอัปเดตเพิ่มเติม
แอปออกกำลังกายเป็นหนึ่งในแอปยอดนิยมบน Apple Watch และ watchOS 26 ก็ได้นำการอัปเดตครั้งใหญ่ที่สุดมาสู่เลย์เอาท์และการไปยังส่วนต่างๆ ภายในแอปนับตั้งแต่เปิดตัวมา ปุ่มใหม่ 4 ปุ่มบนมุมของแอปช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงคุณสมบัติโปรดในการปรับแต่งการออกกำลังกายได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมุมมองขณะออกกำลังกาย กำหนดการออกกำลังกายเอง ตัวคุมเพซ เส้นทางการแข่งขัน และอีกมากมาย
ผู้ใช้สามารถตั้งค่าเพลงและพ็อดคาสท์ให้เล่นโดยอัตโนมัติเมื่อเริ่มออกกำลังกายในแอปออกกำลังกายได้โดยตรงเพื่อเพิ่มแรงบันดาลใจ และวันนี้ Apple Music สามารถเลือกเพลย์ลิสต์ที่เหมาะกับการออกกำลังกายของผู้ใช้มากที่สุดโดยอิงจากประเภทของการออกกำลังกายและรสนิยมส่วนตัวของผู้ใช้แต่ละรายเพื่อความสะดวกสบายอีกขั้น1 หรืออีกทางหนึ่ง ผู้ใช้สามารถดูคำแนะนำเพลย์ลิสต์หรือพ็อดคาสท์ที่อิงจากสิ่งที่เคยฟังล่าสุดระหว่างการออกกำลังกายประเภทนั้นๆ ได้เช่นกัน
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะให้คำแนะนำแบบเชิงรุกได้มากขึ้น
วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างรวดเร็วจากหน้าปัดใดก็ได้ และใน watchOS 26 วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้ปรับปรุงอัลกอริทึมการคาดการณ์ให้แม่นยำยิ่งขึ้นโดยผสานข้อมูลตามบริบท ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ และพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้เพื่อแสดงคำแนะนำเชิงรุกที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้ในขณะนั้นและใช้งานได้ทันที โดยคำแนะนำจากวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะซึ่งใช้ดีไซน์ Liquid Glass จะปรากฏบนหน้าจอในรูปแบบคำแนะนำที่ไม่รบกวนสายตา ตัวอย่างเช่น คำแนะนำสำหรับคุณสมบัติการติดตามการเดินอาจปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณ หรือคำแนะนำสำหรับการออกกำลังกายแบบพิลาทิสอาจแสดงขึ้นเมื่อผู้ไปถึงสตูดิโอในช่วงเวลาที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
ความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นในแอปข้อความ
Apple Watch รองรับการแปลแบบเรียลไทม์ในแอปข้อความด้วย Apple Intelligence โดยจะแปลข้อความที่ได้รับเป็นภาษาที่ผู้ใช้ต้องการโดยอัตโนมัติ ซึ่งทั้งหมดนี้ทำได้บนข้อมือเลยทันที2 และเมื่อผู้ใช้ตอบกลับ ข้อความของพวกเขาก็สามารถแปลเป็นภาษาของคู่สนทนาได้ทันทีเช่นกัน คุณสมบัติ Live Translation จะใช้งานได้บน Apple Watch Series 9, Apple Watch Series 10 และ Apple Watch Ultra 2 พร้อมกับ iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence
นอกจากนี้ Apple Watch ยังสามารถแนะนำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องในแอปข้อความได้อย่างชาญฉลาดโดยอิงจากบริบทของการสนทนาสำหรับผู้ใช้ที่ตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์เป็นภาษาอังกฤษ เช่น แนะนำให้เริ่มเช็คอิน เมื่อเพื่อนขอให้แจ้งเมื่อถึงบ้าน คุณสมบัติ Customizable Backgrounds ที่ตั้งค่าไว้บน iPhone จะปรากฏบน Apple Watch เช่นกันเพื่อให้การสนทนามีความเฉพาะตัวและโดดเด่นยิ่งขึ้น และผู้ใช้ยังสามารถตอบแบบสำรวจได้โดยตรงจากข้อมืออีกด้วย คุณสมบัติการตอบกลับอัจฉริยะมีความแม่นยำยิ่งขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ตั้งค่าภาษาของอุปกรณ์เป็นภาษาอังกฤษด้วยโมเดลภาษาบนอุปกรณ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้สามารถสร้างคำตอบที่เหมาะสมยิ่งขึ้นตามเนื้อหาของบทสนทนา
การจัดการการแจ้งเตือนที่ง่ายดายยิ่งขึ้น
ผู้ใช้จะจัดการการแจ้งเตือนได้ง่ายขึ้นด้วยท่าทางพลิกข้อมือแบบง่ายๆ บน Apple Watch Series 9, Apple Watch Series 10 และ Apple Watch Ultra 2 เมื่อผู้ใช้ยกข้อมือขึ้นเพื่อดูการแจ้งเตือนแต่ยังไม่พร้อมตอบกลับ ก็สามารถหงายข้อมือและพลิกกลับอย่างรวดเร็วเพื่อปิดการแจ้งเตือนทิ้งไปได้ทันที ท่าทางพลิกข้อมือสามารถใช้ในการปิดการแจ้งเตือนและสายเรียกเข้าทิ้งไป ปิดเสียงนาฬิกานับถอยหลังและนาฬิกาปลุก รวมถึงกลับไปยังหน้าปัดนาฬิกาได้อย่างสะดวก โดยท่าทางนี้จะใช้ข้อมูลจากอุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวและไจโรสโคปร่วมกับโมเดลการเรียนรู้ของระบบเพื่อวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของข้อมือผู้ใช้ ท่าทางพลิกข้อมือจะเพิ่มเข้ามาควบคู่กับการแตะสองครั้งเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุม Apple Watch ด้วยมือข้างเดียวได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเวลาที่มืออีกข้างไม่ว่าง เช่น ขณะพาสุนัขเดินเล่น ทำอาหาร หรือถือแก้วกาแฟอยู่
Apple Watch ยังสามารถปรับระดับเสียงของลำโพงโดยอัตโนมัติตามเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมรอบตัวผู้ใช้สำหรับการแจ้งเตือน นาฬิกานับถอยหลัง นาฬิกาปลุก สายเรียกเข้า และ Siri เพื่อให้ผู้ใช้สามารถต่อติดกับทุกอย่างได้เสมอโดยไม่รบกวนคนรอบข้าง
การอัปเดตเพิ่มเติมใน watchOS 26 มีดังนี้
- แอปโน้ต: แอปจะมาอยู่บน Apple Watch แล้ว ผู้ใช้จึงเข้าถึงโน้ตของตนได้ทันทีจากข้อมือ ผู้ใช้ยังสามารถปักหมุดและปลดล็อคโน้ต บันทึก ทำเครื่องหมายบนเช็คลิสต์ว่าสำเร็จ รวมถึงสร้างโน้ตใหม่ด้วย Siri, การป้อนตามคำบอก และคีย์บอร์ดได้อีกด้วย
- คุณสมบัติ Hold Assist และ Call Screening สามารถใช้งานได้ในแอปโทรศัพท์เมื่อมี iPhone อยู่ใกล้ๆ โดยเมื่อผู้ใช้กำลังรอสายกับเจ้าหน้าที่ คุณสมบัติ Hold Assist จะตรวจจับได้เมื่อเจ้าหน้าที่พร้อมให้บริการ และแจ้งให้ผู้ใช้กลับมาที่สายสนทนาอีกครั้ง คุณสมบัติ Call Screening ช่วยให้ผู้ใช้จัดการสายเรียกเข้าจากหมายเลขที่ไม่รู้จักได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยจะรวบรวมชื่อและเหตุผลของการโทรก่อนที่โทรศัพท์จะดัง ทำให้ผู้ใช้สามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าจะรับสาย ปฏิเสธ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม
- ฟังสด: การควบคุมคุณสมบัติฟังสดมาอยู่บน Apple Watch แล้ว พร้อมด้วยชุดคุณสมบัติใหม่สำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือหูหนวกซึ่งรวมถึงคำบรรยายสดแบบเรียลไทม์ของเสียงที่ iPhone ได้ยินบน Apple Watch ที่จับคู่กันอยู่ Apple Watch จะทำหน้าที่เป็นรีโมทควบคุมสำหรับเริ่มหรือหยุดการใช้งานคุณสมบัติฟังสดบน iPhone ที่จับคู่กัน และยังสามารถย้อนกลับไปในช่วงบทสนทนาเพื่อฟังสิ่งที่อาจพลาดไปได้อีกด้วย
- หน้าปัดรูปภาพ: จะสุ่มเปลี่ยนภาพไปเรื่อยๆ โดยอิงจากเนื้อหาแนะนำในแอปรูปภาพ เพื่อให้ผู้ใช้ได้เห็นภาพช่วงเวลาที่มีความหมายที่สุดทุกครั้งที่ยกข้อมือขึ้นหรือแตะหน้าจอ
- แกลเลอรี่หน้าปัดนาฬิกา: ผู้ใช้สามารถค้นหาและเลือกหน้าปัดนาฬิกาได้ง่ายยิ่งขึ้นผ่านแกลเลอรี่หน้าปัดนาฬิกาโฉมใหม่ทั้งบน Apple Watch และในแอป Watch บน iPhone โดยหน้าปัดต่างๆ จะจัดกลุ่มไว้เป็นคอลเลกชั่น
เครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา
นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จาก API ใหม่ใน watchOS 26 ได้ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะและอีกมากมาย นักพัฒนาสามารถใช้ API ใหม่ของ SwiftUI เพื่อปรับใช้องค์ประกอบดีไซน์ใหม่ที่สวยงามของ watchOS 26 ได้อย่างเต็มที่ Control Widget API ช่วยให้นักพัฒนาสร้างการควบคุมแบบกำหนดเองเพื่อนำไปใช้ในศูนย์ควบคุม ปุ่มแอ็คชั่น หรือวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ ขณะที่ Smart Stack Relevance API ก็ช่วยให้นักพัฒนาเพิ่มวิดเจ็ตของบริษัทอื่นลงในวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะได้โดยอิงจากสัญญาณใหม่ๆ เช่น สถานที่ที่น่าสนใจโดยต้องได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ในการเข้าถึงข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งก่อน เช่น เมื่อผู้ใช้เดินทางถึงรีสอร์ตสกี วิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะสามารถแสดงวิดเจ็ตของแอป Slopes ได้อย่างชาญฉลาดด้วย API ตำแหน่งที่ตั้งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และตอนนี้แอป Dark Noise ก็สามารถเพิ่มการควบคุมแบบกำหนดเองลงในศูนย์ควบคุมได้เช่นกัน เพื่อให้ผู้ใช้เปิดเสียงบรรยากาศสำหรับการนอนหลับได้อย่างสะดวกโดยไม่ต้องหยิบ iPhone ขึ้นมา
ที่มา: Apple
