in , , ,

Apple เปิดตัวฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ ควบคุมอุปกรณ์ด้วยดวงตา รันคำสั่งลัดด้วยเสียง และอื่น ๆ 

พามาส่องฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ ๆ ที่ Apple อัปเดตเข้ามาให้เราได้ใช้งานในปี 2024 นี้ แต่ละอันน่าสนใจมาก ๆ จะมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย

Apple เปิดตัวฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ ควบคุมอุปกรณ์ด้วยดวงตา รันคำสั่งลัดด้วยเสียง และอื่น ๆ

Apple ประกาศเปิดตัวคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใหม่สำหรับ iPhone และ iPad ที่จะพร้อมใช้งานภายในปี 2024 นี้ มีฟีเจอร์มากมายที่น่าสนใจ ทีมงานสรุปมาให้อ่านแล้ว มาดูกันเลย

การติดตามดวงตา

ผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายสามารถควบคุม iPad และ iPhone ได้ด้วยการใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว โดยจะใช้กล้องหน้าในการตรวจจับและติดตาม ผู้ใช้สามารถใช้การติดตามดวงตาเพื่อเลื่อนผ่านองค์ประกอบต่าง ๆ ของแอปฯ และใช้ Dwell Control หรือการควบคุมการอยู่นิ่งเพื่อเปิดใช้งานแต่ละองค์ประกอบ เข้าถึงฟังก์ชั่นเพิ่มเติม เช่น ปุ่มจริง การปัด และคำสั่งนิ้วอื่น ๆ โดยใช้ดวงตาเพียงอย่างเดียว

Music Haptics

ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถสัมผัสถึงเสียงเพลงผ่าน Taptic Engine ใน iPhone ได้ โดยระหว่างที่ใช้งาน iPhone จะมีการแตะ ผิวสัมผัส และการสั่นที่ได้รับการปรับแต่งให้เข้ากับเสียงเพลง Music Haptics ใช้งานได้กับเพลงหลายล้านเพลงใน Apple Music แถมยังมี API สำหรับนักพัฒนาเพื่อทำให้เสียงเพลงเข้าถึงได้มากขึ้นในแอปภายนอกอีกด้วย

Vocal Shortcuts

ผู้ใช้สามารถกำหนดคำสั่งเสียงพูดที่ Siri สามารถเข้าใจได้ในแบบของตัวเอง เพื่อเปิดใช้งานคำสั่งลัดและทำงานที่ซับซ้อนให้สำเร็จได้แค่การสั่งแค่คำเดียว

Listen for Atypical Speech

ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการปรับปรุงการจำเสียงพูดสำหรับรูปแบบเสียงพูดที่หลากหลาย โดยจะใช้การเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อจดจำรูปแบบเสียงพูดของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่มีอาการผิดปกติหรืออาการลุกลามซึ่งส่งผลต่อการพูด เช่น สมองพิการ โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง (ALS) หรือโรคหลอดเลือดสมอง

Vehicle Motion Cues

ฟีเจอร์ที่ช่วยลดภาวะป่วยจากการเคลื่อนไหวหรืออาการเมารถเมื่อใช้ iPhone หรือ iPad ในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ ลดอาการ Motion Sickness ระหว่างที่เล่น iPhone, iPad บนรถที่วิ่งอยู่

การช่วยการเข้าถึงใน CarPlay

ผู้ใช้สามารถการสั่งการด้วยเสียง มีการจำเสียง และฟิลเตอร์สีให้ใช้งาน โดยผู้ใช้สามารถไปยังส่วนต่าง ๆ บน หน้าจอ CarPlay และควบคุมแอปฯ ต่าง ๆ ได้โดยใช้แค่เสียงเท่านั้น ลดภาระที่ต้องเอื้อมมือมาแตะที่จอในระหว่างขับรถ

ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินก็สามารถเปิดการแจ้งเตือนเพื่อรับแจ้งเตือนเสียงแตรรถและเสียงไซเรนได้

สำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดสี ฟิลเตอร์สีจะทำให้อินเทอร์เฟซ CarPlay ใช้งานได้ง่ายขึ้น พร้อมคุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงด้านการมองเห็นอื่น ๆ เช่น ข้อความตัวหนาและข้อความขนาดใหญ่

คุณสมบัติการช่วยการเข้าถึงใน VisionOS

สำหรับผู้ใช้ Vision Pro ผู้ใช้ที่หูหนวกหรือมีปัญหาในการได้ยินสามารถใช้ฟีเอจร์คำบรรยายสดแบบทั่วทั้งระบบให้เลือกใช้  มีฟีเจอร์คำบรรยายสดสำหรับ FaceTime, การรองรับอุปกรณ์ช่วยฟัง Made for iPhone, ตัวประมวลผลเสียงของประสาทหูเทียมเพิ่มเติม, คุณสมบัติลดความโปร่งใส, Smart Invert, และการทำให้แสงสว่างวาบมืดลง

ข้อมูลอัปเดตเพิ่มเติม

  • สำหรับผู้ใช้ที่ตาบอดหรือมองเห็นไม่ชัด VoiceOver จะมาพร้อมเสียงใหม่ๆ Voice Rotor หรือตัวหมุนเสียงพูดที่ยืดหยุ่น การควบคุมระดับเสียงแบบกำหนดเอง และความสามารถในการปรับแต่งคำสั่งลัดคีย์บอร์ด VoiceOver บน Mac
  • แว่นขยาย จะนำเสนอโหมดตัวอ่านใหม่และตัวเลือกในการเปิดโหมดการตรวจจับได้อย่างง่ายดายด้วยปุ่มแอ็คชั่น
  • ผู้ใช้อักษรเบรลล์จะมีวิธีใหม่ในการเริ่มต้นและอยู่ในโหมด การป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอ เพื่อการควบคุมและแก้ไขข้อความที่รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การป้อนอักษรเบรลล์บนหน้าจอยังรองรับภาษาญี่ปุ่น การป้อนอักษรเบรลล์แบบหลายบรรทัดด้วย Dot Pad และตัวเลือกในการเลือกตารางอินพุตและเอาต์พุตที่แตกต่างกันอีกด้วย
  • สำหรับผู้ใช้ที่มองเห็นไม่ชัด Hover Typing จะแสดงตัวอักษรที่ใหญ่ขึ้นเมื่อพิมพ์ในช่องข้อความ โดยสามารถแสดงในแบบอักษรและสีที่ผู้ใช้ต้องการได้
  • สำหรับผู้ใช้ที่เสี่ยงต่อการสูญเสียความสามารถในการพูด คุณสมบัติ เสียงส่วนตัว จะพร้อมให้บริการในภาษาจีนกลางเร็วๆ นี้ และผู้ใช้ที่มีปัญหาในการออกเสียงหรืออ่านประโยคเต็มๆ จะสามารถสร้างเสียงส่วนตัวโดยใช้วลีที่สั้นลงได้
  • สำหรับผู้ใช้ที่พูดไม่ได้ คุณสมบัติ เสียงพูดสด จะมาพร้อมหมวดหมู่ต่างๆ และรองรับการแสดงควบคู่ไปกับ คำบรรยายสด
  • สำหรับผู้ใช้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย Virtual Trackpad สำหรับ AssistiveTouch จะช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมอุปกรณ์ของตนโดยใช้พื้นที่เล็กๆ ของหน้าจอเป็นแทร็คแพดที่ปรับขนาดได้
  • การควบคุมสวิตช์ จะมีตัวเลือกในการใช้กล้องบน iPhone และ iPad เพื่อจดจำการใช้คำสั่งนิ้วในท่าทางต่าง ๆ แทนสวิตช์
  • การควบคุมด้วยเสียง จะรองรับคำศัพท์แบบกำหนดเองและคำที่ซับซ้อน

คุณสมบัติใหม่เหล่านี้เป็นการผสมผสานพลังของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Apple เข้าด้วยกัน พร้อมการใช้ประโยชน์จาก Apple silicon, AI และการเรียนรู้ของระบบบนอุปกรณ์ เพื่อยกระดับคำมั่นสัญญาที่ Apple ยึดมั่นมาอย่างยาวนานหลายทศวรรษในการออกแบบผลิตภัณฑ์สำหรับทุกคน

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nooknick Yanika

Humanities, English Literature
Chiangmai University