Apple
in ,

Apple ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้า พร้อมเปิดโปรแกรมลดราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่

Apple ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้า โดยมีการกล่าวขอโทษ และอธิบายถึงสาเหตุของปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งเสนอวิธีแก้ปัญหาด้วย

Apple ออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับการทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้า

รายละเอียดและใจความสำคัญของ แถลงการณ์ เกี่ยวกับการทำให้ iPhone รุ่นเก่าช้า โดย Apple มีดังนี้

Iphone Battery And Performance 1

Apple เผยว่าได้ทราบปัญหาดังกล่าวมาจากผู้ใช้ และแน่นอนว่าปัญหานี้ทำให้ผู้ใช้หลายคนรู้สึกแย่และไม่เชื่อมันต่อ Apple โดย Apple เองได้กล่าวขอโทษผู้ใช้และเผยว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด และ Apple เองไม่มีวัตถุประสงค์ที่ต้องการย่ออายุสินค้า (เพื่อให้ผู้ใช้ไปซื้อรุ่นใหม่) เพียงแต่ต้องการให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเท่านั้น

แบตเตอรี่มีอายุทางเคมีเพิ่มขึ้น

ถัดมา Apple ได้อธิบายข้อมูลเกี่ยวกับแบตเตอรี่ใน iPhone ไว้ว่า ข้อจำกัดทางด้านอายุทางเคมีของแบตเตอรี่ มีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพของการจ่ายไฟและความต้านทานแบตเตอรี่ การปรับลดการจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ภายในนั้น (อุปกรณ์ที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพมากแล้ว) จะช่วยป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์ภายใน และการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิด

รายละเอียดเพิ่มเติม

แบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้ทุกชนิดเป็นชิ้นส่วนที่ใช้แล้วหมดไปซึ่งจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อมีอายุทางเคมีเพิ่มขึ้น

เมื่อแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีอายุทางเคมีเพิ่มมากขึ้น ความสามารถในการเก็บประจุจะลดลง ซึ่งจะส่งผลให้อุปกรณ์จำเป็นต้องชาร์จซ้ำในรอบระยะเวลาที่สั้นลงกว่าเดิม นอกจากนี้ ความสามารถในการจ่ายไฟอย่างรวดเร็วของแบตเตอรี่จะลดลงด้วยเช่นกัน ซึ่งชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต้องสามารถดึงกำลังไฟจากแบตเตอรี่ได้อย่างทันทีเพื่อให้โทรศัพท์สามารถทำงานอย่างเป็นปกติได้ คุณสมบัติหนึ่งที่ส่งผลต่อการจ่ายไฟอย่างทันทีนี้ คือความต้านทานของแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ที่มีความต้านทานสูงจะไม่สามารถจ่ายไฟได้เร็วพอตามที่ระบบต้องการ ซึ่งความต้านทานของแบตเตอรี่สามารถเพิ่มขึ้นได้หากแบตเตอรี่มีอายุเคมีสูง ความต้านทานของแบตเตอรี่จะเพิ่มขึ้นชั่วคราวเมื่อแบตเตอรี่มีระดับการประจุต่ำ และอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ โดยเมื่อผนวกกับอายุทางเคมีที่สูงแล้ว ความต้านทานจะเพิ่มยิ่งขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้เป็นลักษณะเฉพาะของคุณสมบัติทางเคมีในแบตเตอรี่ซึ่งเป็นปกติทั่วไปของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั้งหมดในอุตสาหกรรมนี้

เมื่อมีการดึงกำลังไฟจากแบตเตอรี่ที่มีระดับความต้านทานสูง แรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ก้อนนั้นจะลดลงเป็นอย่างมาก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ จำเป็นต้องใช้แรงดันไฟฟ้าอย่างน้อยจำนวนหนึ่งเพื่อให้สามารถทำงานได้ ซึ่งชิ้นส่วนเหล่านี้จะหมายรวมถึงอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายในของอุปกรณ์ วงจรควบคุม และตัวแบตเตอรี่เอง ระบบการจัดการพลังงานจะกำหนดขีดปริมาณการจ่ายไฟของแบตเตอรี่ รวมถึงจัดการปริมาณงานเพื่อให้สามารถควบคุมรักษาการทำงานได้ เมื่อมาถึงจุดที่ไม่สามารถส่งกำลังไฟไปจุนเจือการทำงานได้เพียงพอแม้ระบบการจัดการพลังงานจะทำงานเต็มขีดความสามารถแล้วก็ตาม ระบบจะปิดเครื่องเพื่อปกป้องชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เหล่านี้ ซึ่งแม้ว่าการปิดเครื่องนี้จะเป็นการกระทำโดยเจตนาจากฝั่งของอุปกรณ์ ฝั่งของผู้ใช้อาจไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น

การป้องกันไม่ให้ปิดเครื่องโดยไม่คาดคิด

Apple เผยว่า ตั้งแต่ iOS 10.2.1 ได้มีการอัปเดตตัวจัดการพลังงานเพื่อป้องกันปัญหาให้ iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus และ iPhone SE ไม่ปิดตัวเองลงโดยไม่คาดคิด ซึ่งอัปเดตนี้ครอบคลุมไปถึง iPhone 7, iPhone 7 Plus ที่มี iOS 11.2 และในอนาคตก็มีการพัฒนาฟีเจอร์นี้ต่อไปให้ดีขึ้นอีก

รายละเอียดเพิ่มเติม

เมื่อแบตเตอรี่มีระดับการประจุต่ำ อายุเคมีสูง หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิต่ำ ก็มีโอกาสสูงขึ้นที่ผู้ใช้จะประสบเหตุการณ์เครื่องปิดลงโดยไม่คาดคิด ซึ่งในกรณีร้ายแรง การปิดเครื่องอาจเกิดขึ้นถี่มากจนส่งผลให้อุปกรณ์เชื่อถือไม่ได้หรือไม่สามารถใช้งานได้ iOS 10.2.1 (เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2017) มาพร้อมกับรายการอัพเดทสำหรับ iPhone รุ่นเก่าเพื่อป้องกันไม่ให้เครื่องเหล่านั้นปิดลงโดยไม่คาดคิด ซึ่งจะมาพร้อมคุณสมบัติสำหรับ iPhone 6, iPhone 6 Plus, iPhone 6s, iPhone 6s Plus และ iPhone SE ที่จะพุ่งเข้าไปจัดการระบบเวลาที่เครื่องทำงานเต็มขีดสุดอย่างฉับพลัน (เฉพาะเมื่อจำเป็น) เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ปิดเครื่องอย่างไม่คาดคิด ความสามารถนี้ครอบคลุมไปถึง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ติดตั้ง iOS 11.2 และเราจะเดินหน้าปรับปรุงคุณสมบัติการจัดการพลังงานให้ดียิ่งขึ้นต่อไป โดยส่วนเดียวที่เพิ่มเข้ามาของคุณสมบัตินี้ คือส่วนที่ป้องกันไม่ให้ปิดเครื่องอย่างไม่คาดคิด ทั้งนี้เพื่อให้สามารถใช้งาน iPhone ต่อไปได้

วิธีการทำงานของการจัดการพลังงานคือจะคอยตรวจตราหลายๆ ส่วนพร้อมกัน ซึ่งได้แก่ อุณหภูมิของอุปกรณ์ ระดับการประจุของแบตเตอรี่ และความต้านทานของแบตเตอรี่ โดย iOS จะเข้าไปจัดการประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของส่วนประกอบระบบบางชิ้น อาทิ CPU และ GPU เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการปิดเครื่องโดยไม่คาดคิดเฉพาะเมื่อตัวแปรเหล่านี้จำเป็นต้องรับการจัดการเท่านั้น การเข้าไปจัดการดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณงานของอุปกรณ์ปรับสมดุลด้วยตัวเอง ทำให้เครื่องกระจายงานระบบได้ราบรื่นขึ้นแทนการเร่งประสิทธิภาพการทำงานอย่างฉับพลันเป็นวงกว้างพร้อมกันทั้งหมด ในบางกรณี ผู้ใช้อาจไม่ได้รู้สึกว่าอุปกรณ์มีประสิทธิภาพการทำงานประจำวันที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งระดับการเปลี่ยนแปลงที่รับรู้ได้จะขึ้นอยู่กับว่าอุปกรณ์ดังกล่าวจำเป็นต้องรับการจัดการพลังงานมากน้อยเพียงใด

ข้อมูลเพิ่มเติม – แบตเตอรี่และประสิทธิภาพการทำงานของ iPhone

Apple เสนอวิธีแก้ปัญหา

Apple ได้เผยถึงแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น ไว้ดังนี้

  1. Apple จะเปิดโปรแกรมการเปลี่ยนแบตเตอรี่ (ครอบคลุมไปถึง iPhone ที่หมดประกันแล้วด้วย) โดยลดราคาการเปลี่ยนแบตเตอรี่จาก 50 – 79 ดอลลาร์ เหลือ 29 ดอลลาร์ สำหรับผู้ใช้ iPhone 6 หรือรุ่นใดก็ได้ที่แบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้วต้องเข้ารับบริการ โดยโปรแกรมนี้จะเริ่มเปิดตั้งแต่สิ้นเดือน ม.ค. 2018 จนถึง ธ.ค. 2018
  2. ต้นปี 2018 จะมีการปล่อยอัปเดต Software มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่ และประสิทธิภาพของตัวเครื่องเองได้
  3. Apple จะดำเนินการปรับปรุง พัฒนา และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ โดยเฉพาะเรื่องประสิทธิภาพของตัวเครื่องเมื่อทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพลง

Apple เน้นย้ำว่าความเชื่อมั่นจากผู้ใช้มีความหมายต่อ Apple มาก และ Apple จะรักษาความเชื่อมั่นไว้อย่างดีที่สุด เพราะ Apple อยู่ได้ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่นจากผู้ใช้

ที่มา – Apple.com

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Thitirath Kinaret

เต้นท์ iMoD : ป.ตรี วิศวกรรมซอฟต์แวร์ ป.โท บริหารธุรกิจ ม.พายัพ ชอบความสวยงามแบบเรียบง่าย ตามแบบฉบับของ Apple @Contact : facebook.com/tentzy