App Store Best Of 2018
in , ,

Apple ประกาศ Best of the App Store แอปและเกมยอดนิยมแห่งปี 2018 ทั่วโลก

4 ธันวาคม 2018 Apple ได้ประกาศอันดับสุดยอดแอปพลิเคชันยอดนิยมประจำปี 2018 ที่มีทั้งเกมและแอปบน iPhone, iPad, Mac, Apple TV และแอปสำหรับ Apple Watch มีอะไรบ้างนั้นไปชมกันเลย

แอปยอดนิยมประจำปี 2018 ของทั่วโลก

Apple Best Of The App Store 2018 1

เกมยอดนิยมประจำปี 2018 ของทั่วโลก

Apple Best Of The App Store 2018 2

แอปสำหรับ Apple Watch ยอดเยี่ยมแห่งปี 2018 ของทั่วโลก

Apple Best Of The App Store 2018 3

  1. WaterMinder
  2. Lifesum
  3. 10% Happier
  4. Carrot Weather
  5. FunGolf GPS
  6. Swing Tennis Tracker
  7. Slopes
  8. App in the Air
  9. Overcast
  10. Just Press Record

แอปฟรีสำหรับ iPhone ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. TikTok-Global Video Community
  2. LINE
  3. Messenger
  4. Facebook
  5. YouTube: Watch, Listen, Stream
  6. Shopee TH: 11.11 Big Sale
  7. Instagram
  8. JOOX Music – Live and Karaoke
  9. Lazada 11.11 Biggest Sale
  10. Google Maps – Transit & Food
  11. TrueMoney Wallet
  12. Google
  13. K PLUS
  14. Camera360 – Selfie Sticker Cam
  15. Gmail – Email by Google
  16. LINE TV
  17. SCB EASY
  18. Google Translate
  19. TrueID
  20. Google Chrome

แอปที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ iPhone ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. kirakira+
  2. Pastel Keyboard Themes Color
  3. Analog Paris
  4. Analog London
  5. Gudak Cam
  6. Analog Tokyo
  7. Analog Seoul
  8. Feica Cam
  9. Forest – Stay focused
  10. CamToPlan PRO
  11. LightX
  12. Analog Portland
  13. Whitecam – White is Beautiful
  14. DSLR Camera
  15. TouchRetouch
  16. Glitché
  17. Analog Wedding
  18. PLOT
  19. Analog Jeju
  20. Evo Wallet – Money Tracker

เกมฟรีสำหรับ iPhone ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. Garena Free Fire
  2. PUBG MOBILE
  3. Garena RoV
  4. Rules of Survival
  5. Identity V
  6. Helix Jump
  7. Panya – Live Trivia Game Show
  8. Werewolf Online – WWO
  9. Candy Crush Saga
  10. LINE Let’s Get Rich
  11. Subway Surfers
  12. Hay Day
  13. Garena Contra: Return
  14. The Sims™ Mobile
  15. Mobile Legends: Bang Bang
  16. Knife Hit
  17. Sniper 3D Assassin: Gun Games
  18. Cookie Run: OvenBreak
  19. Happy Glass
  20. Yulgang Mobile

เกมที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ iPhone ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. Pocket Aquarium!
  2. Hitman Sniper
  3. The Sun: Origin
  4. Small Farm Plus
  5. Minecraft
  6. Ski Safari 2
  7. Earn to Die 2
  8. 贪婪洞窟(The Greedy Cave)
  9. Stardew Valley
  10. Assassin’s Creed Identity
  11. Doodle Jump
  12. Peace, Death!
  13. Plague Inc.
  14. Cut the Rope: Magic GOLD
  15. Infinity Blade III
  16. Cytus II
  17. Isoland
  18. Real Steel
  19. Ski Safari
  20. Pocket Build

แอปฟรีสำหรับ iPad ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. YouTube: Watch, Listen, Stream
  2. Facebook
  3. LINE
  4. Messenger
  5. Calculator – Free Calculator
  6. TikTok-Global Video Community
  7. LINE TV
  8. Lazada 11.11 Biggest Sale
  9. Google Chrome
  10. Gmail – Email by Google
  11. Netflix
  12. Google
  13. Google Maps – Transit & Food
  14. Microsoft Word
  15. Google Drive
  16. Viu HD
  17. Google Translate
  18. Spotify Music
  19. TrueID
  20. Microsoft Excel

แอปที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ iPad ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. GoodNotes 4
  2. Notability
  3. Procreate
  4. Human Anatomy Atlas 2019
  5. AnyFont
  6. GoodReader
  7. Duet Display
  8. Notepad+ Pro
  9. Noteshelf 2
  10. Pastel Keyboard Themes Color
  11. Affinity Photo
  12. Evo Wallet – Money Tracker
  13. Pixelmator
  14. PDF Expert by Readdle
  15. MyScript Nebo
  16. Money Plan
  17. LightX
  18. Scanner Pro
  19. MyScript Calculator
  20. Affinity Designer

เกมฟรีสำหรับ iPad ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. Garena Free Fire
  2. Garena RoV
  3. Rules of Survival
  4. PUBG MOBILE
  5. Identity V
  6. Helix Jump
  7. Subway Surfers
  8. Kick the Buddy
  9. Love Balls
  10. Mobile Legends: Bang Bang
  11. Bowmasters – Multiplayer Game
  12. Hay Day
  13. ROBLOX
  14. Candy Crush Saga
  15. Martail World-โลกันต์พเนจร
  16. Fortnite
  17. Pixel Art – Color by Number
  18. Sniper 3D Assassin: Gun Games
  19. Garena Contra: Return
  20. Granny

เกมที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ iPad ที่ได้รับการดาวน์โหลดสูงสุดของประเทศไทย

  1. Minecraft
  2. Pocket Aquarium!
  3. Hitman Sniper
  4. Stardew Valley
  5. Cytus II
  6. Plague Inc.
  7. Football Manager Touch 2018
  8. AirAttack 2
  9. The Sun: Origin
  10. Assassin’s Creed Identity
  11. Door Kickers
  12. Infinity Blade III
  13. Cut the Rope: Magic GOLD
  14. Isoland
  15. Dungeon Survival
  16. Evoland
  17. Iron Marines
  18. 贪婪洞窟(The Greedy Cave)
  19. BADLAND
  20. Darkest Dungeon:Tablet Edition

เทรนด์เกมแห่งปี 2018 : Battle Royale

เกมแนวต่อสู้เพื่อความอยู่รอดคว้าชัยในปี 2018 ไปครองได้อย่างไร? หาคำตอบได้ที่นี่

นี่คือปีทองของเกมแนว “Battle Royale” อย่างแท้จริง เกมแนวต่อสู้เพื่อหาผู้ชนะเพียงหนึ่งเดียวนี้ได้ระเบิดความมันสร้างความนิยมอย่างล้นหลามจนกลายเป็นป๊อปคัลเจอร์ไปแล้วอย่างเต็มตัว

แต่เกมแนว Battle Royale ไม่ได้เพิ่งมีนะ มันเป็นส่วนหนึ่งของเกมการแข่งขันมาพร้อมๆ กับเกมฮิตอย่าง Clash Royale และ Hearthstone เลยล่ะ โดยเกมแนว Battle Royale เริ่มเป็นที่รู้จักในปี 2013 จากการเป็น Mod ของเกมออนไลน์ DayZ หลายปีให้หลัง Brendan Greene ผู้สร้าง Mod ก็ได้นำแนวคิดและระบบที่เขาสร้างไปทำเป็นเกมโฉมใหม่ขึ้นมาซึ่งก็รู้จักกันในชื่อ PlayerUnknown’s Battlegrounds (หรือเรียกสั้นๆ ว่า PUBG) สำหรับเล่นบน PC นั่นเอง

PUBG ได้วางรากฐานและกฎกติกาให้กับเกมแนวนี้ไว้เรียบร้อยซึ่งก็เป็นการเล่นที่ตรงไปตรงมาคือ ตัวละครของคุณถูกปล่อยลงไปในเกาะพร้อมผู้เล่นอีก 99 คนโดยใครรอดชีวิตเป็นคนสุดท้ายก็คือผู้ชนะ เพื่อให้มีความเท่าเทียมในแมตช์ ผู้เล่นแต่ละคนจะไม่มีอาวุธอะไรติดตัวลงไปในสนามรบเลย ซึ่งก็ทำให้แต่ละแมตช์มีการต่อสู้ที่สดใหม่ทุกครั้ง แถมยังสร้างความสมดุลให้กับผู้เล่นใหม่และผู้เล่นชั้นเซียนอีกด้วย

คุณจะเลือกเล่นแบบโฟกัสไปที่การหาไอเทมและอาวุธเจ๋งๆ หลบอยู่ในพุ่มไม้รอจังหวะ หรือจะบู๊แหลกกับผู้เล่นอื่นก็แล้วแต่คุณเลย ไม่มีคำว่าผิดถูกมากำกับการตัดสินใจของคุณได้ ด้วยความสนุกตื่นเต้นผสมผสานความอิสระนี้เองจึงทำให้เกมแนว Battle Royale พุ่งทะยานขึ้นเป็นที่นิยมในวงการเกมได้อย่างรวดเร็ว

“เกมในโหมด Battle Royale ได้เปิดโอกาสให้ค่ายเกมมากมาย” Donald Mustard ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ Fortnite กล่าว โดยค่ายที่เขาอยู่อย่าง Epic Games ได้เพิ่ม Battle Royale ไว้ในเกมสร้างป้อมป้องกันฐานทัพของพวกเขาในปี 2017 “แต่ว่ามันจะประสบความสำเร็จก็ต่อเมื่อคุณเป็นคนที่เหลืออยู่คนสุดท้ายและคว้าชัยชนะไปครอง”

ถึงคุณจะไม่เคยเล่นเกมในปี 2018 มาก่อนก็คงต้องเคยได้ยินชื่อ Fortnite มาบ้าง ก็เพราะเกมนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของแนว Battle Royale ไปแล้วนั่นเอง ตอนนี้มีผู้เล่นหลายล้านคนที่เล่นเกมนี้อยู่ทุกวัน ขนาดนักกีฬามืออาชีพก็ยังฉลองหลังการแข่งด้วยการเล่น Fortnite เลย แถมมีโรงเรียนจัดงานในธีม Fortnite ให้คุณแม่กับคุณลูกมาเต้นด้วยกันอีกด้วย

เกมนี้ไม่เหมือนกับเกม PUBG ที่โฟกัสไปที่การยิงต่อสู้อย่างเดียว เสน่ห์ของ Fortnite อยู่ที่โลกที่กว้างใหญ่และมีอะไรให้เล่นเพียบ คุณไม่ได้ต่อสู้อย่างเดียวนะ คุณจะได้สร้างสิ่งก่อสร้างด้วย ผู้เล่นสามารถทำลายต้นไม้ รถยนต์และบ้านเพื่อเก็บสะสมวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้มันสร้างเป็นสิ่งใหม่ๆ ได้ ซึ่งถ้าสร้างแต่ละส่วนรวมกันดีๆ มันจะกลายเป็นป้อมปราการสูงตระหง่านหรือเป็นทางขึ้นลัดไปยังยอดเขาได้เลยล่ะ

“ในเกมไม่มีภาพความรุนแรง และไม่มีเลือดด้วย” Nick Bowman รองศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัย West Virginia University ผู้ศึกษาเรื่องความต้องการด้านความรู้ความเข้าใจด้านอารมณ์ ด้านร่างกายและด้านสังคมของวิดีโอเกมและโซเชียลมีเดียกล่าว “มันจะเป็นการต่อสู้ที่คน 100 คนวิ่งไปมาในโลกสีสดใสไล่ตามแฮมเบอร์เกอร์ตัวตลกและไดโนเสาร์สีม่วงมากกว่า”

ความคิดสร้างสรรค์ของ Fortnite นี่แหละที่เป็นไพ่ตายของเกม ตั้งแต่ท่าเต้นสุดกวนหลากแบบรวมไปถึงชุดแปลกๆ ที่มีให้เลือกสวมใส่อีกมากมาย การต่อสู้แต่ละแมตช์จะไม่มีทางเหมือนกัน คุณจะเจอกับสถานการณ์สดใหม่ตลอดเวลา ซึ่งสิ่งที่เหมือนกันและไม่เคยเปลี่ยนก็คือ ทุกๆ แมตช์นั้นเข้าร่วมได้ง่ายสุดๆ

“คำว่า ‘ความเสมอภาคของมนุษย์’ เป็นหัวใจหลักเลย” Nick กล่าว “มันเล่นง่าย เข้าถึงได้ทุกคน มันเหมือนอาหารจานด่วนที่ทานง่ายได้ทุกเวลา คุณจะใช้เวลากับมันเป็นชั่วโมงๆ หรือเล่นตอนนั่งรถบัสแค่ 5 นาทีก็ทำได้”
แต่เอาจริงๆ คุณไม่ได้เล่น Fortnite แค่ 5 นาทีแน่ๆ การเปิดตัวของเกม Fortnite และ PUBG Moblie บน App Store ในช่วงต้นปีที่ผ่านมานั้นได้นำเกมแนว Battle Royale ที่เมื่อก่อนเล่นได้แค่ที่บ้านให้ออกมาโลดแล่นให้เล่นได้ทุกที่ทุกเวลา

โดยเฉพาะเกม Fortnite เวอร์ชันพกพาก็นี้ได้สร้างความสำเร็จทางด้านเทคนิคที่ยิ่งใหญ่โดยสามารถทำให้ผู้เล่นทั้งในแพลตฟอร์มพกพา คอนโซลและ PC สามารถเข้าไปเล่นด้วยกันได้ในโลกดิจิทัลแห่งเดียวกัน นี่ถือว่าเป็นการทลายเส้นแบ่งระหว่างแพลตฟอร์มที่มีมายาวนานลงอย่างสิ้นเชิง คราวนี้ถึงคุณและเพื่อนๆ จะเล่นในอุปกรณ์ที่แตกต่างกันก็ยังเข้ามาเล่นในแมตช์เดียวกันได้แบบสบายๆ

จริงๆ แล้วถึงคุณจะไม่ได้เล่นเกมนี้ก็มีอะไรเพลินๆ ให้สนุกไปกับ Fortnite ได้ด้วยนะ ตอนนี้มีคนนับล้านล็อกอินเข้าไปในแอปสตรีมมิ่งอย่าง Twitch เพื่อไปชมการแข่งขันสุดมันของผู้เล่นอื่นด้วย เกมเมอร์ซุปตาร์อย่าง Tyler “Ninja” Blevins และ Ali “Myth” Kabbani ก็สร้างกระแสฮือฮามาแล้วในชั่วข้ามคืน นอกจากนั้นในแมตช์ที่ Ninja แข่งขันกับแร็พเปอร์ชื่อดังอย่าง Drake ก็มียอดวิวใน Twitch อย่างถล่มทลาย

“เกม Fortnite หาตรงกลางของความสัมพันธ์ที่ดีและประสบการณ์ทางสังคมในวิดีโอเกมได้อย่างลงตัว” Marcus Carter อาจารย์ในสาขาวัฒนธรรมดิจิทัลที่มหาวิทยาลัย University of Sydney กล่าว “และผมก็คิดว่าสิ่งที่เกม Battle Royale ให้เรากลับคืนมาก็คือ การเป็นสื่อกลางสร้างความสัมพันธ์แบบดิจิทัล”

การพาผู้คนมาสนุกด้วยกัน นี่แหละคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของการเล่นเกม โดยเกมแนว Battle Royale ไม่เพียงแต่ขยายขอบเขตของแนวเกมให้กว้างขึ้นเท่านั้น แต่ยังสื่อความหมายดีๆ ของการเล่นเกมอีกด้วย ซึ่งในปี 2018 ก็เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่เราได้มารวมตัวและสนุกกับเกมไปด้วยกันได้อีกครั้ง นี่แหละคือความสุดยอดของเกมอย่างแท้จริง

เทรนด์แอปแห่งปี 2018: การดูแลตัวเอง

ปี 2018 คือปีแห่งการดูแลตัวเอง ความหมายของคำว่า “การดูแลตัวเอง” นั้นกว้างมาก และมีความหมายที่แตกต่างกันออกไปแล้วแต่ว่าแต่ละคนจะตีความอย่างไร เหมือนเวลาเราได้ยินคำว่า “กาแฟสูตรพิเศษ” หรือ “เพลงอัลเทอร์เนทีฟ” ที่สามารถตีความได้หลายแบบ การดูแลตัวเองก็เช่นกัน คนเราสามารถดูแลตัวเองได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การหายใจให้ลึกขึ้นหรือหาเวลาดูแลตัวเองมากขึ้น

นี่คือที่มาที่ทำให้ปีนี้เราได้ทำความรู้จักแอปดีๆ ที่ได้เข้ามาช่วยให้การดูแลตัวเองดีและง่ายขึ้นไปอีกขั้น
จากเดิมที่แอปทำได้แค่นับก้าวเดิน นับแคลอรี่ และดูแลสุขภาพร่างกายให้เรา แต่วันนี้แอปทั้งหลายได้รับการพัฒนาให้ก้าวหน้ามากขึ้นพอที่จะดูแลสุขภาพจิตของเราได้ด้วยเช่นกัน

“คุณสามารถเรียนรู้อะไรได้มากมายจากการอ่านหนังสือหรือปรึกษาจิตแพทย์ แต่แอปจะฝึกฝนเราทีละเล็กทีละน้อยในทุกๆ วัน” Judson Brewer นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยบราวน์ และวิทยากร TED talk ผู้ขึ้นไปพูดในหัวข้อ “A Simple Way to Break a Bad Habit”

มองปัญหาให้เป็นโอกาส

แอป Fabulous ที่ได้รับความช่วยเหลือจากแล็บที่ทำการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมของมหาวิทยาลัย Duke University มุ่งที่จะส่งเสริมให้เราสร้างพฤติกรรมใหม่ๆ ด้วยการให้คำแนะนำเชิงวิทยาศาสตร์และกิจกรรมรายวันอย่างเช่นการดื่มน้ำ การดูแลฟัน หรือแม้กระทั่งการโทรหาพ่อแม่ ที่พวกเราทุกคนสามารถทำตามได้ไม่ยาก เพื่อในท้ายที่สุดเราจะได้มีความสุขมากขึ้น สุขภาพดีขึ้น และฉลาดมากขึ้น

และถ้าคุณต้องการกำลังใจ Shine ก็มีให้คุณได้เสมอ แอปมีคลิปเสียงที่สร้างกำลังใจให้เราพร้อมกับภารกิจรายวันที่จะเสริมสร้างความมั่นใจให้เราไปด้วย พร้อมกับการแจ้งเตือนรายวันอย่าง “You got this!” และ “Trust your dopeness!” เพื่อให้คุณสู้ต่อไปอย่างไม่ท้อถอย

ในขณะที่แอปทำสมาธิอย่าง Calm10% Happier และ Headspace ต่างมีแบบฝึกหัดที่จะพาเราไปทำความเข้าใจกับเรื่องที่ส่วนตัวมากๆ เช่น การให้อภัย การปล่อยวาง และการเลิกดูแคลนตัวเอง เพื่อปรับทัศนคติและมุมมองต่อโลกและชีวิตของเราทุกคนด้วย

การเล่นเกมก็สามารถทำให้จิตใจเราสงบลงได้เช่นกัน ในแอป #SelfCare จะพาเราไปทำกิจกรรมซ้ำๆ เดิมๆ เช่น การระบายสีวงกลม เลี้ยงแมว หรือซักผ้า ซึ่งมาจากแนวคิดที่ว่า ถ้าหากเราสามารถจัดการความวิตกกังวลของเราในพื้นที่ดิจิทัลได้ แปลว่าเราก็สามารถจัดการกับความเครียดในชีวิตจริงได้มากยิ่งขึ้นเช่นกัน

บางแอปก็จะช่วยเราจัดการกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อ้อมค้อมเลย เมื่อนักพัฒนาอย่าง Elle Huerta จบความสัมพันธ์กับแฟนที่คบกันมานานในช่วงอายุ 20 กว่าๆ เธอพยายามค้นหาทั่วอินเทอร์เน็ตว่า มีอะไรบ้างที่พอจะช่วยให้เธอหายจากความเศร้านี้ แต่กลับเจอแต่คำแนะนำที่ไม่เกิดประโยชน์และใช้ไม่ได้จริงในชีวิต เธอจึงสร้าง Mend ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนมุมมองของคนที่เพิ่งเลิกรา ให้มองว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ทบทวนชีวิตและความสัมพันธ์ เราจะได้กลับมาย้อนดูตัวเองอีกครั้งว่าจริงๆ แล้วเราต้องการอะไรในชีวิตกันแน่ และในปีนี้แอปก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ที่จะให้คนช้ำรักทุกคนได้เลือกธีมตามแต่ละสัปดาห์ เพื่อช่วยเยียวยาหัวใจของทุกคนให้กลับมาดีเหมือนเดิมเร็วขึ้นด้วย

ในขณะที่แอป Joyable ช่วยให้เราจัดการกับความเครียด ความกังวล และโรคซึมเศร้า ด้วยการสร้างคอร์สที่ออกแบบเฉพาะบุคคลนานแปดสัปดาห์ผ่านเทคนิคที่เรียกว่า การบำบัดทางความคิดและพฤติกรรม หรือ Cognitive Behavioral Therapy (CBT) และจับคู่ผู้ใช้งานกับโค้ชด้าน CBT ผ่านทางข้อความ อีเมล หรือโทรศัพท์ เพื่อทำให้เราเข้าใจสภาวะที่เรากำลังเผชิญอยู่ และหาทางออกจากจุดนั้นให้ได้ด้วย
เปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีกว่า

แอปเหล่านี้ทำให้การดูแลตัวเองเป็นเรื่องที่คนทั่วโลกเข้าใจและเข้าถึงได้มากขึ้นด้วย

“เราสามารถล็อกอินเข้ามาและพบว่า ‘ตอนนี้มีคนอีก 100,000 คนที่กำลังทำสมาธิร่วมกันกับฉันอยู่’” Sara Lazar ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาของมหาวิทยาลัย Harvard University ผู้ศึกษาเรื่องผลกระทบของโยคะและการทำสมาธิที่มีต่อสมองกล่าว “ความรู้สึกของการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนทำให้ประสบการณ์การใช้แอปเหล่านี้มีเอกลักษณ์แบบที่แอปอื่นให้ไม่ได้”

ในท้ายที่สุดแล้ว แอปเหล่านี้ก็เหมือนการดูแลตัวเองนั่นแหละ มันควรจะง่าย และเปลี่ยนชีวิตของเราให้ดีขึ้นได้แบบไม่ต้องมีข้อแม้อะไรมากเลย

สำหรับใครที่สนใจแอปและเกมประจำปี 2018 ก็สามารถค้นหาและดาวน์โหลดได้ที่ App Store

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University