in ,

เปิดตัว! Apple Watch SE 3 มาพร้อมชิปใหม่ ความสามารถด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น

Apple เปิดตัว Apple Watch SE 3 อัปเกรดการใช้งานให้ดีกว่าเดิม รองรับชิปใหม่ S10 ชาร์จเร็วกว่าเดิม 2 เท่า ใช้งานได้ต่อเนื่องนาน 18 ชั่วโมง และสามารถใช้งาน Always on Display (AOD) ได้แล้ว ในราคาเริ่มต้น 8,500 บาท

เปิดตัว! Apple Watch SE 3 มาพร้อมชิปใหม่ ความสามารถด้านสุขภาพเพิ่มขึ้น

  • เปิดตัว Apple Watch SE 3 มาพร้อมการอัปเกรดคุณสมบัติด้านสุขภาพ, ฟิตเนส, การเชื่อมต่อ และความปลอดภัย
  • Apple Watch SE 3 มีให้เลือกทั้งขนาด 40 มม. และ 44 มม.
  • ตัวเรือนอะลูมิเนียมสีมิดไนท์ และสีสตาร์ไลท์
  • ใช้ชิป S10: เป็นชิปตัวใหม่ที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานหลายด้าน
  • จอภาพแบบติดตลอด (Always-On Display) ครั้งแรกในรุ่น SE โดยผู้ใช้สามารถดูเวลา และการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องยกข้อมือหรือแตะหน้าจอ
  • หน้าจอแข็งแรงขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 4 เท่า
  • แบตเตอรี่: ใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมงเหมือนเดิม
  • รองรับการชาร์จเร็ว: สามารถชาร์จแบตเตอรี่ถึง 80% ได้ใน 45 นาที ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 2 เท่า
  • รองรับคำสั่งแตะสองครั้ง (Double Tap) และคำสั่งพลิกข้อมือ: เป็นการควบคุมแบบใหม่
  • Siri บนอุปกรณ์ (On-device Siri): ประมวลผล Siri ได้โดยตรงบนนาฬิกา
  • watchOS 26: มาพร้อมดีไซน์ใหม่ พร้อมทั้งฟีเจอร์ Workout Buddy ที่ใช้ Apple Intelligence (ประเทศไทยไม่รองรับ) และหน้าปัดนาฬิกาใหม่

ฟีเจอร์ข้อมูลสุขภาพเชิงลึก

การให้คะแนนการนอนหลับ” Apple Watch SE 3 เพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์และให้คะแนนคุณภาพการนอนหลับ เพื่อให้ผู้ใช้เข้าใจและปรับปรุงการนอนของตัวเองได้ดีขึ้น

สิ่งที่คะแนนการนอนหลับนำมาวิเคราะห์: ระยะเวลาที่นอนหลับ, ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอน, ความถี่ในการตื่น และเวลาที่ใช้ในแต่ละระดับการนอนหลับ (เช่น หลับลึก, หลับฝัน)

การแสดงผลที่เข้าใจง่าย: ในทุกเช้า Apple Watch จะสรุปข้อมูลทั้งหมดออกมาเป็น “คะแนน” ที่ชัดเจนในแอปนอนหลับ พร้อมคำอธิบายว่าปัจจัยใดส่งผลต่อคุณภาพการนอน เพื่อให้ผู้ใช้รู้ว่าควรปรับปรุงจุดไหน

การชาร์จเร็วช่วยส่งเสริมการใช้งาน: เนื่องจากตัวนาฬิการองรับการชาร์จเร็ว ทำให้ผู้ใช้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ไวและนำนาฬิกามาใส่เพื่อติดตามการนอนหลับในตอนกลางคืนได้สะดวกยิ่งขึ้น

มีความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์: อัลกอริทึมการให้คะแนนอ้างอิงจากแนวทางของสถาบันชั้นนำด้านการนอนหลับระดับโลก และได้รับการพัฒนาและทดสอบจากข้อมูลการนอนหลับกว่า 5 ล้านคืนจาก Apple Heart and Movement Study

การติดตามอุณหภูมิข้อมือ

  • ใช้เซ็นเซอร์ 2 ตัวเพื่อวัดอุณหภูมิตอนนอนหลับ ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาวะโดยรวม
  • ข้อมูลนี้จะไปเสริมกับตัวชี้วัดอื่นๆ ในแอปสัญญาณชีพ (Vitals)

การประเมินการตกไข่จากข้อมูลย้อนหลัง

  • ใช้ข้อมูลอุณหภูมิข้อมือที่วัดได้ เพื่อช่วยประเมินวันที่น่าจะมีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
  • ช่วยให้การคาดคะเนวันมีประจำเดือนแม่นยำขึ้น และเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่วางแผนครอบครัว

ด้านสุขภาพ

  • การแจ้งเตือนสุขภาพหัวใจ
  • การติดตามรอบเดือน
  • คาร์ดิโอฟิตเนส

ด้านความปลอดภัย

  • การตรวจจับการล้ม (Fall Detection)
  • การตรวจจับการชนกัน (Crash Detection)
  • SOS ฉุกเฉิน
  • เช็คอิน (Check In)
การติดตามค่าอุณหภูมิข้อมือช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาวะโดยรวม และยังให้ข้อมูลที่เสริมกับตัวชี้วัดหลักอื่นๆ ด้านสุขภาพที่มีอยู่ในแอปสัญญาณชีพ

การติดตามการออกกำลังกาย และ Workout Buddy

Workout Buddy ฟีเจอร์ใหม่ที่ใช้ AI เพื่อสร้างแรงบันดาลใจส่วนบุคคล ให้กำลังใจด้วยเสียง วิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกาย (เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ, เพซ, ระยะทาง, วงแหวนกิจกรรม) แล้วส่งเสียงกระตุ้นและให้กำลังใจแบบเรียลไทม์ที่เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน

ข้อกำหนดเบื้องต้น:

ในช่วงแรกจะรองรับภาษาอังกฤษ สำหรับการออกกำลังกายบางประเภท

ต้องใช้ร่วมกับหูฟัง Bluetooth และมี iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence อยู่ใกล้ๆ

การอัปเดตแอปออกกำลังกาย (Workout App)
ปรับปรุงเลย์เอาท์ใหม่: ทำให้การปรับแต่งการออกกำลังกายทำได้ง่ายขึ้น

สร้างและจัดการบน iPhone: ผู้ใช้สามารถสร้าง “การออกกำลังกายแบบกำหนดเอง” (Custom Workouts) บนแอปฟิตเนสใน iPhone ได้แล้ว ซึ่งจะไปปรากฏบน Apple Watch โดยอัตโนมัติเพื่อให้เข้าถึงได้ง่าย

ฟีเจอร์เดิมยังคงอยู่ เช่น มุมมองการออกกำลังกาย, ตัวควบคุมเพซ, และเส้นทางการแข่งขัน (Race Route)

การผสานรวมกับเพลงและพ็อดคาสท์ที่ดียิ่งขึ้น
เล่นอัตโนมัติ: สามารถตั้งค่าให้เพลงหรือพ็อดคาสท์เล่นเองทันทีเมื่อเริ่มออกกำลังกาย

Apple Music: สามารถเลือกเพลย์ลิสต์ที่เหมาะสมกับประเภทการออกกำลังกายและรสนิยมของผู้ใช้ได้

แนะนำตามประวัติ: ระบบจะแนะนำเพลงหรือพ็อดคาสท์โดยอิงจากสิ่งที่ผู้ใช้เคยฟังระหว่างการออกกำลังกายประเภทนั้นๆ ในอดีต

หลักการพื้นฐานยังคงเดิม
วงแหวนกิจกรรม 3 วง: ยังคงเป็นหัวใจหลักในการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ใช้แอคทีฟตลอดวัน (เคลื่อนไหว, ออกกำลังกาย, ยืน)

ติดตามการออกกำลังกายหลากหลาย: รองรับการออกกำลังกายหลายรูปแบบ พร้อมวัดอัตราการเต้นของหัวใจและการเผาผลาญแคลอรี่อย่างแม่นยำ

ชิป S10 มาพร้อม Siri บนอุปกรณ์

Siri ที่ทำงานบนอุปกรณ์ (On-Device Siri)

  • ใช้คำสั่งที่ไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ต เช่น เริ่มออกกำลังกาย, ตั้งนาฬิกาปลุก จะถูกประมวลผลโดยตรงบนนาฬิกา ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและแม่นยำกว่าเดิม
  • เข้าถึงข้อมูลสุขภาพได้: ผู้ใช้สามารถถามคำถามเกี่ยวกับข้อมูลสุขภาพและฟิตเนสของตนเองกับ Siri ได้แล้ว โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกประมวลผลอย่างปลอดภัยบนอุปกรณ์

คำสั่งมือเดียว (One-Handed Gestures)

  • คำสั่งแตะสองครั้ง (Double Tap) ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้แตะกัน 2 ครั้ง เพื่อ รับสาย/วางสาย, เปิดวิดเจ็ต, ดูและส่งข้อความ, หยุดนาฬิกาจับเวลา หรือเลื่อนปลุก
  • คำสั่งพลิกข้อมือ (Wrist Flick) พลิกข้อมือไปกลับอย่างรวดเร็ว “ปิดทิ้ง” หรือ “ปัดทิ้ง” การแจ้งเตือนหรือสายเรียกเข้าที่ไม่ต้องการรับในขณะนั้น

การปรับปรุงด้านเสียง และสื่อ

  • สามารถเล่นเพลงหรือพ็อดคาสท์ได้โดยตรงจากลำโพงในตัวของนาฬิกา
  • การแยกเสียงระหว่างการคุยโทรศัพท์หรือโทร FaceTime แบบเสียงทำให้เสียงพูดของผู้ใช้คมชัดและใสสำหรับปลายสาย แม้จะอยู่ในที่ที่มีเสียงดัง
เมื่อผู้ใช้ยกข้อมือขึ้นมาดูการแจ้งเตือนหรือสายที่โทรเข้า แต่ว่ายังไม่พร้อมที่จะตอบกลับหรือรับสาย คำสั่งใหม่อย่างการพลิกข้อมือจะช่วยให้ผู้ใช้ปิดทิ้งการแจ้งเตือนได้ด้วยการพลิกข้อมือไปกลับอย่างรวดเร็ว

ทำไม Apple Watch SE 3 ถึงเหมาะสำหรับเด็ก?

  • หน้าจอกระจกที่แข็งแรง: มีความทนทานต่อการแตกร้าวสูง เหมาะกับการใช้งานของเด็ก
  • ลำโพงในตัว: สามารถใช้โทรศัพท์หรือฟังเพลงได้โดยตรงจากนาฬิกา
  • การชาร์จเร็ว: ช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้ไวและพร้อมใช้งานเสมอ

ประโยชน์ และฟังก์ชันสำหรับเด็ก

การสื่อสาร: เด็กๆ สามารถโทรออก-รับสาย และส่งข้อความกับครอบครัวและเพื่อนๆ ที่ผู้ปกครองกำหนดไว้ได้

ฟิตเนสและกิจกรรม: มีเป้าหมายกิจกรรมที่ปรับให้เหมาะกับเด็ก เพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพดีและกระตือรือร้นอยู่เสมอ

ประโยชน์สำหรับผู้ปกครอง

เชื่อมต่อ และติดตามตำแหน่ง ผู้ปกครองสามารถติดต่อลูกและดูตำแหน่งของลูกได้ตลอดเวลาผ่านแอป “ค้นหาของฉัน” (Find My) บน iPhone ของตนเอง

  • ความปลอดภัย: เด็กๆ สามารถใช้ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่สำคัญได้ เช่น SOS ฉุกเฉิน เพื่อขอความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการ
  • การตั้งค่าที่ง่าย: สามารถตั้งค่า Apple Watch SE 3 ให้ลูกได้ผ่าน iPhone ของผู้ปกครอง ทำให้เด็กมีบัญชี Apple และเบอร์โทรศัพท์เป็นของตัวเอง แม้จะไม่มี iPhone

ฟีเจอร์ใหม่มาพร้อมกับ watchOS 26

  1. ดีไซน์และหน้าปัดใหม่ (New Design & Watch Faces)
    ดีไซน์ Liquid Glass: เป็นซอฟต์แวร์ดีไซน์ใหม่ที่ทำให้ส่วนต่างๆ ของระบบ เช่น หน้าปัด, วิดเจ็ต, การแจ้งเตือน และแอป มีความสวยงาม มีชีวิตชีวา และสื่อความหมายได้ดียิ่งขึ้น
  2. การเสนอวิดเจ็ตซ้อนอัจฉริยะ (Intelligence & Proactivity)
    ระบบจะเรียนรู้จากกิจวัตรและข้อมูลตามบริบทของผู้ใช้ เพื่อ “แนะนำ” วิดเจ็ตที่เป็นประโยชน์ขึ้นมาแสดงให้โดยอัตโนมัติในเวลาที่เหมาะสม
  3. การแปลภาษาสดในแอปข้อความ (Live Translation)
    สามารถแปลข้อความที่ได้รับเป็นภาษาที่ผู้ใช้ต้องการได้ทันทีบนข้อมือ (ต้องใช้ร่วมกับ iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence)

    การดำเนินการอัจฉริยะในแอปข้อความ: สำหรับผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษ ระบบจะแนะนำการกระทำที่เกี่ยวข้องตามบริบทของบทสนทนา เช่น แนะนำให้เริ่ม “เช็คอิน” เมื่อเพื่อนถามว่าจะกลับถึงเมื่อไหร่

  4. แอปใหม่และการจัดการสายโทร (New App & Call Management)
    แอปโน้ต (Notes App): เพิ่มแอปโน้ตเข้ามา ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างหรือเปิดดูโน้ตได้โดยตรงจาก Apple Watch

    ผู้ช่วยพักสาย (Hold Assistant): เมื่อต้องรอสายกับเจ้าหน้าที่ ระบบจะตรวจจับเมื่อมีคนรับสายและแจ้งเตือนให้ผู้ใช้กลับเข้าไปคุยในสายได้ทันที (ต้องมี iPhone อยู่ใกล้ๆ)

    การคัดกรองสายโทร (Call Screening): สำหรับเบอร์ที่ไม่รู้จัก ระบบจะถามชื่อและเหตุผลในการโทรจากปลายสายก่อนที่โทรศัพท์จะดัง ทำให้ผู้ใช้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าจะรับสายหรือไม่ (ต้องมี iPhone อยู่ใกล้ ๆ)

 

ราคา และการวางจำหน่าย

  • สามารถจองล่วงหน้าได้แล้ววันนี้ และจะวางจำหน่ายในร้านเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ที่ 19 กันยายน 2025
  • Apple Watch SE 3 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 8,500 บาท
ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Nattida Suriyodara

Writer and Creator from IMod