in , , ,

10 ทริคถนอมตัวเครื่อง iPad ให้ใช้งานได้นานขึ้น

สำหรับใครที่พึ่งซื้อ iPad เครื่องใหม่มา หรือมี iPad เครื่องเก่าที่ยังใช้งานได้ดีอยู่นั้น แน่นอนว่าก็ควรที่จะถนอมหรือดูแลรักษาตัวเครื่องให้ใช้งานได้นาน ๆ วันนี้ทีมงานมีทริคถนอมตัวเครื่อง iPad มาฝาก ไปชมกันเลย!

10 ทริคถนอมตัวเครื่อง iPad ให้ใช้งานได้นานขึ้น

สำหรับใครที่ใช้งาน iPad เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น iPad รุ่นเริ่มต้น iPad mini, iPad Air หรือ iPad Pro แน่นอนอยู่แล้วว่าตัวเครื่อง iPad นั้นมีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์จึงต้องหมั่นดูแลรักษา ป้องกัน และเพิ่มความระมัดระวังตัวเครื่องให้มากกว่าปกติ เพื่อถนอม iPad ให้ใช้งานได้คุ้มค่า และใช้ได้ยาวนานมากขึ้นนั่นเอง ไปชมวิธีแรกกันเลย

1. เก็บ iPad ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิเหมาะสม

การเก็บ iPad ไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิโดยรอบสูงมาก ๆ อาจส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพแบตเตอรี่ ทำให้ระยะเวลาการใช้งานสั้นลงอย่างถาวร ฮาร์ดแวร์อื่น ๆ ที่จะเสื่อมสภาพได้เร็วกว่าปกติ รวมถึงการใช้งานในห้องแบบปิดที่มีอากาศร้อนก็อาจส่งผลให้อุณหภูมิของตัวเครื่องสูงขึ้นเช่นกัน

Apple จึงแนะนำให้เก็บ iPad ไว้ในอุณหภูมิระหว่าง 0º ถึง 35º C และแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการทิ้ง iPad ไว้ในรถยนต์ที่จอดกลางแจ้ง เพราะอุณหภูมิในรถอาจจะสูงขึ้นเกินกว่าที่กำหนดส่งผลให้เครื่อง iPad มีอุณหภูมิสูงขึ้นไปด้วย

2. เคลียร์พื้นที่จัดเก็บข้อมูลบน iPad

วิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับการเคลียร์พื้นที่บน iPad ก็คือการลบแอปพลิเคชันเก่า ๆ ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานออกนั่นเอง ซึ่งการโหลดแอปมาจะใช้พื้นที่ในเครื่องสำหรับการติดตั้งแอป และอาจส่งผลต่อพื้นที่ในการเก็บข้อมูลของเราด้วยเพราะบางคนอาจใช้เก็บไฟล์เอกสารต่าง ๆ ไฟล์เลคเชอร์ ไฟล์งานนำเสนอ รวมถึงไฟล์วาดรูป และไฟล์วิดีโอ สำหรับคนที่ใช้ iPad ในการวาดรูปและการตัดต่อวิดีโอ

วิธีง่าย ๆ ก็คือให้เราใช้ฟีเจอร์เอาแอปที่ไม่ได้ใช้ออก (Offload App) เพื่อจัดการลบแอปที่ไม่จำเป็นออกจากเครื่องไปก่อน จากนั้นเราก็เลือกลบแอปที่ไม่ต้องการด้วยตนเองต่อได้ จะช่วยให้พื้นที่ในเครื่องเพิ่มขึ้นสำหรับจัดเก็บงานต่าง ๆ นั่นเอง

3. สำรองข้อมูล iPad ไว้บน Cloud

สำหรับผู้ใช้งาน iPad ที่มีความจุเริ่มต้น 64GB อาจรู้สึกว่าเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ความจุเริ่มไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับการที่ต้องจัดเก็บไฟล์เอกสาร ไฟล์นำเสนอ รูปภาพ วิดีโอ ต่าง ๆ ที่ทำให้พื้นที่ในเครื่องเริ่มเต็ม ถึงแม้จะลบแอปที่ไม่ได้ใช้ไปแล้ว แต่ไฟล์อื่น ๆ ก็ยังคงอัดแน่นอยู่ในเครื่อง

ถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำให้สำรองข้อมูลสำคัญไว้บน iCloud หากเกิดเหตุฉุกเฉินหรือเหตุการณ์ที่ตัวเครื่อง iPad เกิดความเสียหายก็จะทำให้เราสามารถนำข้อมูลคืนกลับมาได้ หรือเวลาที่เราเปลี่ยนไปใช้ iPad เครื่องใหม่ ก็จะสามารถนำข้อมูลจาก iPad เครื่องเก่ามาใช้ใน iPad เครื่องใหม่ได้ด้วย

วิธีที่จะทำให้สามารถใช้ iPad เครื่องเดิมแบบประหยัดพื้นที่ในเครื่องได้นั้นก็คือการย้ายข้อมูลไปเก็บไว้บน Cloud ไม่ว่าจะเป็น iCloud, Dropbox, Google Drive, Google Photos หรือผู้ให้บริการอื่นๆ ก็จะช่วยให้พื้นที่ในเครื่องมีเพิ่มขึ้นนั่นเอง

4. อัปเดต iPadOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดอยู่เสมอ

การปล่อยอัปเดต iPadOS ทุกครั้งจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้การทำงานต่าง ๆ บน iPad ง่ายขึ้น มีความสามารถในการใช้งาน iPad ได้มากขึ้น แก้ไขข้อผิดพลาดจากเวอร์ชันเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้งานแบบ Multitasking โน๊ตด่วนและแอปโน๊ต เป็นต้น

หาก iPad ของเรายังเป็นรุ่นที่รองรับ iPadOS เวอร์ชันใหม่อยู่ แสดงว่าการใช้งานก็ยังคงมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานต่อได้อีกยาว ๆ เลย แต่เมื่อไหร่ที่เครื่องของเราไม่รองรับ iPadOS เวอร์ชันใหม่แล้ว แสดงว่าถึงเวลาที่อาจจะต้องซื้อ iPad รุ่นใหม่ที่สามารถรองรับ iPadOS และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่านั่นเอง ตรวจสอบอุปกรณ์ที่รองรับ iPadOS 15 เวอร์ชันล่าสุดได้ที่นี่

5. ใช้อุปกรณ์ชาร์จของ Apple ที่เป็นของแท้ ไม่ควรใช้ของปลอม

สำหรับการชาร์จแบต iPad ให้ถูกวิธีควรใช้สายชาร์จกับอะแดปเตอร์ที่เป็นของแท้ ถ้าใช้อุปกรณ์ชาร์จที่เป็นของปลอมก็มีโอกาสเสี่ยงสูงที่จะทำลายตัวเครื่อง iPad ได้ ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ผ่านการรับรอง ควรเลือกใช้อุปกรณ์ชาร์จจาก Apple ที่ผ่านมาตรฐาน MFI

นอกจากนี้ก็ควรจะเช็คอุปกรณ์ชาร์จด้วยว่าใช้งานมานานเท่าไหร่ ควรเปลี่ยนหรือไม่ เพราะอุปกรณ์ชาร์จบางชิ้นเมื่อใช้ไปนาน ๆ ก็อาจจะเกิดการเสื่อมสภาพได้ แต่สำหรับใครที่พึ่งซื้อ iPad มาใหม่ก็จะมีสายชาร์จและอะแดปเตอร์มาให้ในกล่องอยู่แล้ว แต่ก็อย่าลืมดูแลรักษาอุปกรณ์ชาร์จไม่ให้เกิดความเสียหายด้วยนะ อุปกรณ์ชาร์จจะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ

6. ควรใช้รหัสปลดล็อคเครื่อง

สำหรับ iPad ก็มีระบบการยืนยันตัวตนทั้งแบบ Touch ID และ Face ID ในการปลดล็อคเครื่อง โดยที่ไม่ต้องใช้รหัสผ่าน (Passcode) ก็ได้ แต่อย่าพึ่งชะล่าใจไป เพราะการโจรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์สามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ รวมถึงการเข้าถึงข้อมูลภายในเครื่องผ่าน Touch ID หรือ Face ID โดยที่ไม่ต้องกรอกรหัสผ่านใด ๆ เลยก็สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นก็ควรตั้งรหัสผ่านเข้าเครื่อง และไม่ควรตั้งรหัสผ่านที่ง่ายจนเกินไปด้วย อย่างเช่น 000000 111111 123456 แบบนี้เป็นต้น

7. ใส่เคสกันกระแทกและติดฟิล์มกันรอยปกป้องหน้าจอ iPad

เวลาที่เราพกพา iPad ไปในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเอาใส่กระเป๋าหรือเอาวางไว้บนโต๊ะก็ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะอาจเผลอทำตัวเครื่องตก หรือเผลอนั่งทับจนอาจทำให้ตัวเครื่องงอได้ ดังนั้นจึงควรหาเคสที่มีความแข็งแรงมาใส่เพื่อปกป้องรอบตัวเครื่อง นอกจากจะถนอมตัวเครื่องแล้วก็ควรถนอมหน้าจอของเราด้วยเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นบนหน้าจอ

ดังนั้น จึงควรหาฟิล์มมาติดหน้าจอ iPad ของเราซึ่งก็จะช่วยเรื่องการกันกระแทก กันรอยขีดข่วน หรือการเกิดรอยนิ้วมือต่าง ๆ ได้ ปัจจุบันก็มีฟิล์มผลิตออกมาให้เลือกใช้มากมายตามไลฟ์สไตล์การใช้งานของเรา ทั้งฟิล์มแบบใส แบบด้าน และแบบถนอมสายตา ซึ่งนอกจากฟิล์มธรรมดาแล้วก็ยังมีฟิล์มที่เป็นกระจกกันรอยด้วย ก็จะช่วยปกป้องหน้าจอได้เพิ่มขึ้นนั่นเอง

8. หมั่นทำความสะอาดตัวเครื่อง iPad อยู่เสมอ

iPad ก็เป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่สามารถสะสมเชื้อโรคและแบคทีเรียได้ ยิ่งวัยนักเรียน/นักศึกษาพก iPad ไปจดเลคเชอร์ หรือวัยทำงานที่พก iPad ไปด้วยทุกวัน แน่นอนว่าอาจมีแบคทีเรียเกาะอยู่ตามผิวหน้าจอ สิ่งสกปรกเหล่านี้อาจแพร่กระจายมาสู่เราได้ แนะนำว่าให้ทำความสะอาดอยู่เป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง โดยใช้ผ้านุ่มไม่เป็นขุยชุบกับน้ำอุ่น บิดให้หมาด แล้วเช็ดตัวเครื่อง โดยเว้นช่องหรือพอร์ตไว้ ป้องกันความชื้นระเหยเข้าไปในตัวเครื่อง

และสิ่งที่เป็นข้อควรระวังเลยก็คือ ควรถอดสายเชื่อมต่อออกให้หมด และปิดเครื่อง iPad ก่อนเช็ดทำความสะอาด ไม่ควรเช็ดหน้าจอมากเกินไป เพราะอาจทำให้หน้าจอเกิดความเสียหายได้ และที่สำคัญไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีสารเคมีหรือสเปรย์อัดแก๊ส เพราะอาจทำให้สารที่เคลือบกันรอยนิ้วมือลดลงลงได้ อ่านคำแนะนำของ Apple ได้ที่นี่

9. ดูแลรักษาอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPad

นอกจากการทำความสะอาดตัวเครื่อง iPad แล้ว อุปกรณ์เสริมที่เราใช้ควบคู่กับ iPad อย่าง Apple Pencil, Smart Keyboard ต่าง ๆ รวมถึงเคสที่ใส่ iPad ก็ควรทำความสะอาดด้วย หากทำความสะอาดแค่ตัวเครื่อง iPad เพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่เป็นผล หากอุปกรณ์เสริมที่เราใช้มีคราบฝุ่นที่อาจมีแบคทีเรียสะสมอยู่ ดังนั้น เพื่อให้อุปกรณ์ของเราใช้งานได้ยาวนาน ก็ควรหมั่นเช็ด ทำความสะอาดให้ครอบคลุมทุก ๆ อุปกรณ์ด้วย

10. ใช้บริการ Applecare+

แนะนำเพิ่มเติมอีกหนึ่งอย่างที่จะส่งผลดีต่อผู้ใช้ iPad ทุกคนแน่นอน ก็คือการเข้าใช้บริการ AppleCare+ เพราะคนที่จะเข้าใจระบบปฏิบัติการ และปัญหาที่เกิดขึ้นกับอุปกรณ์ของเราได้ดีที่สุดก็คือ Apple นั่นเอง ดังนั้นการซื้อ AppleCare+ สำหรับ iPad เพียงครั้งเดียวก็จะสามารถคุ้มครอง iPad ไปได้นานถึง 2 ปีเลย และสามารถครอบคลุมอุปกรณ์การชาร์จ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ด้วย ตรวจสอบราคา AppleCare+ สำหรับ iPad ได้ที่นี่

หากเราไม่ได้ซื้อ AppleCare+ ไว้ แล้วเกิดเหตุที่ตัวเครื่องเสียหาย เช่น iPad Air 4 ที่ชอบมีปัญหาเครื่องงอ ปุ่ม Touch ID เสีย เวลานำ iPad ไปซ่อมก็จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ดังนั้นการซื้อ AppleCare+ สำหรับ iPad ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยให้เราอุ่นใจไปได้เยอะเลยทีเดียว

นอกจาก 9 วิธีตามด้านบนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เราควรทราบเลยก็คือ iPad ไม่มีคุณสมบัติการทนน้ำทนฝุ่นเหมือน iPhone ดังนั้นจึงควรเก็บ iPad ไว้ให้ห่างจากแก้วน้ำหรือขวดน้ำที่อาจจะโดนน้ำหกใส่เครื่องได้ หากเพื่อน ๆ สามารถทำตาม 9 วิธีนี้ได้ก็จะช่วยถนอมตัวเครื่อง iPad ของเราให้ใช้งานได้ยาวนานแน่นอน อย่าลืมนำไปปรับใช้กันดูนะคะ

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Pornpimol Kulab

Faculty of Mass Communication,
Chiangmai University