รีวิว – Innergie PocketCell™ “แบตฯ สำรอง Apple Style”

ก่อนอื่นคงต้องยอมรับก่อนว่า แบตฯ สำรอง หรือ Battery Extranal, Power Bank (มีหลายชื่อเหลือเกิน) ในตลาดปัจจุบันนั้นช่างมีมากมายหลากหลายแบรนด์เหลือเกิน และที่สำคัญของจีนก็ตีตลาดระดับล่างซะเรียบ ไม่ว่าจะเป็นราคาที่ถูกกว่า การซื้อง่ายขายสะดวก สเปคที่สูงกว่า (ข้างกล่องของจริงเป็นไงไม่รู้) แต่นั่นล่ะครับ ต่างคนต่างเลือกต่างตัดสินใจ อันนี้คงจะบังคับกันไม่ได้ บางคนขอแค่พอใช้งานได้ (อัตราการคายประจุไม่สนใจ) บางคนชอบเน้นราคาถูก ๆ เอาไว้ก่อนเนื่องจากใช้ไม่ค่อยมากมายอะไร แต่สำหรับผู้เขียนแล้วผู้เขียนชอบของดี ๆ ครับ ของทน ๆ มีดีไซน์ มีฟีเจอร์ดี ๆ ถึงแม้จะจ่ายแพงบ้างก็ยอมครับ (นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เขียนและผู้อ่านทุกคนในนี้เลือกใช้ iPhone) ในเมื่อเราพิถีพิถันกับโทรศัพท์มือถือของเราแล้ว ทำไมล่ะเราจะไม่พิถีพิถันกับอุปกรณ์เสริมของมันหน่อย แล้วคุณผู้อ่านล่ะ คิดอย่างไรครับ?

“Innergie PocketCell™” สามารถหาซื้อได้ตาม Apple Corner (Power Buy), Banana IT, Banana Stuff, Be Trend, iBeat, iStudio, IT CITY, King Power Duty Free, .Life, Power Buy, U-Store และ อื่น ๆ ในราคา 2,390 บาท

ติดตามข่าวสารจาก Innergie Thailand ได้ที่ http://www.facebook.com/Innergie.Thai

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ Innergie ก่อนแล้วกันครับ

ก่อนอื่นในฐานะที่ทำงานด้าน Blogger มานาน ผมไม่ค่อยรู้จัก Innergie เท่าใดนัก (แต่พอคุ้น ๆ ชื่ออยู่บ้าง) และก็ค่อนข้างมั่นใจว่าคนไทยส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้น แต่แท้จริงแล้ว Innergie ก่อตั้งเมื่อปี 2008 ส่วนรางวัลที่ยอมรับในระดับสากลก็ตามภาพด้านบนเลย ถึงแม้จะพึ่งก่อตั้งมาไม่นานแต่ก่อนหน้าที่จะเป็น Innergie นั้นก็ยังเป็นผู้ผลิตสินค้า OEM จำพวก Adapter สำหรับ Notebook ชั้นนำต่าง ๆ เป็นอันดับหนึ่งของโลกกว่า 20 ปี (ซึ่งแน่นอน Adpter Apple ก็คือหนึ่งในนั้น) หรือจะให้พูดก็คือเคยแต่ผลิตให้แบรนด์อื่นเอาไปตีโลโก้ขาย แต่พึ่งแยกบริษัทออกมาทำการตลาดและขายเอง

นอกจากนั้น Innergie ยังเป็นเจ้าของนวัตกรรม Adapter สาหรับโน้ตบุ๊คที่เล็กที่สุดในโลกอีกด้วย โดยปัจจุบัน Innergie มีฝ่ายขาย การตลาด และฝ่ายบริการลูกค้ากระจายอยู่ทุกแห่งทั่วโลก เช่น the U.S.A., Germany, Singapore, Taiwan, Thailand, India, China, Netherland ทั้งยังได้รับการยอมรับจากทั้งในประเทศ ต่างประเทศ และสถาบันชั้นนาระดับโลกอย่างมากมาย

เป็นอย่างไรบ้างครับ? เริ่มหลงรัก Innergie บ้างแล้วหรือยัง?

แพคเกจของ Innergie นั้นเข้าขั้นสวยงามเอามาก ๆ ครับ ดูมีสไตล์ เท่านั้นยังไม่พอหลังจากการที่ผมได้ทำความรู้จัก Innergie ผ่าน http://www.myinnergie.com และ http://www.facebook.com/Innergie.Thai ทำให้ผมรู้สึกหลงไหลในตัว Innergie มาก ๆ เลย เพราะว่ามันไม่ธรรมดาจริง ๆ ครับ ของแบบนี้อย่าดูแค่สเปคในกระดาษอย่างเดียว แต่ต้องดูถึงการออกแบบ ดีไซน์ รวมถึงระบบโดยรวมด้วย

ด้านหลังกล่องได้ระบุอย่างชัดเจนถึงสเปคของตัว PocketCell™ เอง ที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ไม่ว่าจะเป็น USB Fast Charging (ชาร์จอย่างรวดเร็ว), Multi Built-In Protection (5 ระบบป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าภายใน), 3-in-1 USB Cable (สาย USB 3 ชนิดในเส้นเดียว), Energy Saving (ระบบประหยัดพลังงาน) ส่วนด้านล่างเป็นการเปรียบเทียบอย่างคร่าว ๆ ว่า PocketCell™ สามารถทำอะไรได้บ้าง เช่น ใช้ iPod ได้นานขึ้น 70+ ชั่วโมง, ใช้ iPhone ได้นานขึ้น 25+ ชั่วโมง ฯลฯ

ด้านล่างบอกรายละเอียดคร่าว ๆ ว่าหากคุณใช้ PocketCell™ ตัวนี้คุณจะใช้อะไรได้ประมาณเท่าไหร่ พร้อมกับความจุของแบตฯ 3000 mAh เท่านั้นยังไม่พอยังผ่านการรับรองจาก Apple แล้วอีกด้วยว่าสามารถใช้กับ iPod, iPhone, iPad ทุกรุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา

คู่มือการใช้งานบอกวิธีใช้งานอย่างคร่าง ๆ ของ PocketCell™ รวมถึง Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable (แถมมาในกล่อง)

อุปกรณ์ในกล่องมีมาเท่านี้ครับ ประกอบไปด้วย PocketCell™ และ Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable คำถามก็คือแล้ว Adapter ชาร์จไฟไม่แถมหรอ? ผมขอเดาว่าเนื่อจากมันคือ “แบตฯ สำรอง” จึงไม่จำเป็นที่จะต้องชาร์จะทุกวันเหมือนมือถือ ที่จะต้องมี Adapter ชาร์จไฟแถม (ขนาด iPod Touch เครื่องตั้งหลายพันยังไม่แถมเลย) แต่ไม่ได้เป็นเฉพาะ Innergie หรอกครับที่ไม่มีแถม ของแบรนด์อื่นหลาย ๆ เจ้าที่ผมรีวิวมาก็ไม่แถมเหมือนกัน ยกเว้นแต่จะเป็นพวกหัวชาร์จเฉพาะทาง การที่แถม Adapter ให้อาจจะทำให้มีราคาสูงเกินไป ดังนั้นทางออกคือจะเอาไปชาร์จกับ Adapter USB ที่เรามีหรือจะชาร์จกับคอมฯ ก็ได้ครับ ไม่มีปัญหา

ขนาดของ PocketCell™ เมื่อเทียบกับ iPhone4 ครับ จะเห็นได้ว่าเล็กและเหมาะกับการพกพามาก ๆ จริง ๆ สมกับคำว่า “แบตฯ สำรอง” ไม่ใช่ “แบตฯ ถาวร” สำหรับเจ้าตัว PocketCell™ ตัวนี้มาพร้อมกับแบตฯ ขนาด 3000 mAh ซึ่งหลายคนสำหรับมือใหม่ก็คงจะคิดว่า “มันเยอะไหม?” โดยผมจะเปรียบเทียบให้แบบง่าย ๆ สไตล์ iPM พูดง่าย ๆ ก็คือ iPhone4 ความจุประมาณ 1420 mAh ครับ พอจะเดาได้แล้วนะครับ ว่าเจ้าตัว PocketCell™ นี้สามารถชาร์จได้กี่ครั้ง?

iPhone 2G มีแบตฯ ความจุประมาณ 1400 mAh
iPhone 3G มีแบตฯ ความจุประมาณ 1150 mAh
iPhone 3GS มีแบตฯ ความจุประมาณ 1219 mAh
iPhone 4 มีแบตฯ ความจุประมาณ 1420 mAh
iPhone 4S มีแบตฯ ความจุประมาณ 1430 mAh
iPod touch Gen 1 มีแบตฯ ความจุประมาณ 900 mAh
iPod touch Gen 2 มีแบตฯ ความจุประมาณ 800 mAh
iPod touch Gen 3 มีแบตฯ ความจุประมาณ 789 mAh
iPod touch Gen 4 มีแบตฯ ความจุประมาณ 930 mAh
iPad 1 มีแบตฯ ความจุประมาณ 6600 mAh
iPad 2 มีแบตฯ ความจุประมาณ 6930 mAh
Samsung P1000 Galaxy Tab มีแบตฯ ความจุประมาณ 4000 mAh

พอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมครับว่าไอ้เจ้าตัว PocketCell™ นั้นให้พลังงานได้มากหรือน้อย แต่ … ครับ มันมีคำว่าแต่อยู่ จะเทียบบัญญัติไตรยางศ์คูณเอาตรง ๆ เลยไม่ได้ เพราะเรื่องศาสตร์ของพลังงานมันมีสูญเสียระหว่างกว่าถ่ายโอนอยู่

เช่น แบตฯ ของ iPhone 4 ดังที่ผมกล่าวในขั้นต้นคือ 1420 mAh หากจะชาร์จให้เต็มพอดีจะต้องใช้แบตฯ สำรองที่ประมาณ 2414 mAh (เอา 1.7 ไปคูณ) ซึ่งสำหรับเจ้าตัว PocketCell™ มี 3000 mAh ก็จะทำให้สามารถชาร์จ iPhone 4 ตั้งแต่แบตฯ หมดจนเครื่องดับไปยังเต็ม 100% ได้อย่างเหลือ ๆ (ค่าโดยประมาณ)

หมายเหตุ : ตัวเลขเป็นค่าประมาณเท่านั้น ซึ่งใช้งานจริงอาจมีการแตกต่างกันเล็กน้อย ตามปัจจัยต่าง ๆ เช่น แบตฯ ที่อยู่ใน Power Tube, การเปิดใช้งาน 3G ระหว่างชาร์จ, การชาร์จจากเครื่องที่แบตฯ หมดเกลี้ยงจะต้องใช้พลังงานเป็นจำนวนมากในการเร่งประจุ, อายุขัยของแบตฯ อุปกรณ์ที่ชาร์จ ฯลฯ

แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ จะซื้อสินค้าทั้งทีต้องรู้ให้รอบครับ อย่างที่ผมกล่าวในตอนแรกก็คือ mAh คือความจุของแบตฯ ยิ่งมีมากก็ยิ่งดี แต่ข้อจำกัดก็จะเพิ่มขึ้น เช่น น้ำหนัก ขนาด ราคา เป็นต้น ส่วนอีกสิ่งที่เราควรจะต้องดูคือ Amp หลายคนอาจจะงงว่า Amp คืออะไร? (ใครรู้แล้วข้ามไปเลยก็ได้ครับ) Amp ก็คือแรงดันครับ แรงดันที่จะจ่ายไฟถ้า Amp มากแบตฯ จะเต็มเร็ว (ไม่เกี่ยวกับสาเหตุทำให้แบตฯ เสื่อม) ถ้า Amp น้อยก็จะเต็มช้า ลองนึกถึงตอนเอา iPhone ของเราชาร์จไฟคอมฯ กับชาร์จไฟบ้าน (Adapter) ดูก็ได้ครับ เต็มช้า-เร็วต่างกัน แต่เท่านั้นยังไม่พอครับ ถ้าหากแรงดัน (Amp) น้อยมาก ๆ จะทำให้ถึงกับเกิดอาการ “ชาร์จไม่เข้า” ใน iPad เลยก็เป็นได้

สำหรับ PocketCell™ นั้นมีสเปคที่สูงเอามาก ๆ คือ ได้มาถึง 2.1 Amp ซึ่งต่างจากแบตฯ สำรองในตลาดที่มีเพียง 1 Amp ถามว่าต่างไหมผมขอเบอกเลยว่า “ต่าง” ครับ มันทำให้เราสามารถชาร์จได้เร็วขึ้นมากเลยทีเดียว ลองคิดดูแล้วกันครับระหว่างชาร์จ 1 ชั่วโมงเต็ม กับชาร์จ 1 ชั่วโมงครึ่งเต็ม อย่างไหนจะดีกว่ากัน? ยิ่งเวลารีบ ๆ นะไม่ต้องพูดเลย นาทีเดียวก็มีค่า

ความเห็นส่วนตัวของผมไม่ค่อยเห็นความแตกต่างเลยระหว่าง 3000 mAh หรือ 5000 mAh เพราะมันชาร์จ iPhone4 ของผมจากแบตฯ หมดเกลี้ยงให้เต็มได้เหมือนกัน แค่นี้ชีวิตผมก็ต่อได้อีกหลายชั่วโมงยันถึงบ้านแล้ว โอกาสหมดอีกรอบนั้นแทบไม่มีอยู่แล้ว เอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินจริง ๆ สิ่งที่ผมต้องการจริง ๆ ก็คือ อยากให้มันชาร์จเร็ว ๆ และพกพาง่าย ๆ มากกว่า

เท่านั้นยังไม่พอ PocketCell™ ยังมีไฟ LED เพื่อแสดงถึงสถานะคงเหลือของแบตฯ จากภาพมีไฟขึ้น 3 ดวง จากทั้งหมด 4 ดวง แสดงว่ามีแบตฯ เหลืออยู่ประมาณ 51-75% ซึ่งมันก็สะดวกดีครับ เพราะบางทีเรารีบ ๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเจ้าสิ่งที่เรากำลังหยิบไปเนี่ย มันยังไม่แบตฯ หลงเหลืออยู่รึปล่าว?

ด้านท้ายของตัว PocketCell™ เป็นช่อง USB ให้เสียบสำหรับจ่ายไฟออกครับ (ส่วนรูด้านข้างเป็นเหมือนที่ห้อยมือถือ) โดยสามารถเอาสาย Sync หรือสายอื่น ๆ มาเสียบได้เลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นผมขอแนะนำให้ใช้สาย Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable ที่แถมมามากกว่าเพราะว่ามันเจ๋งมาก !!!

กลับกันมาดูด้านหัวของเครื่องจะเป็นช่องสำหรับเสียบ Micro USB เพื่อชาร์จไฟเข้า PocketCell™ ครับ สามารถใช้ Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable ชาร์จได้เลย โดยจะเสียบกับไฟคอมฯ หรือไฟบ้านก็แล้วแต่ความสะดวกเลยครับ

สาย Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable ที่แถมมานั้นมีความยาว 20 เซนติเมตร โดนหัวต่อนั้นมี 3 หัวใน 1 ตามชื่อเลย ประกอบไปด้วย Apple Sync, Mini USB และ Micro USB

ลักษณะของ Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable นั้นเป็นปล้อง ๆ โดยสามารถแกะออกได้ (แต่ไม่ขาดออกจากกัน) โดยหากต้องการชาร์จบริเวณปลายสาย ต้องนำมาต่อ ๆ กันเพื่อส่งกระแสไฟผ่านต่อ ๆ กันไป สำหรับเรื่องความสเถียรไม่ต้องห่วงครับ ปกติดี ลองชักเข้าชักออกแรง ๆ ก็ไม่มีปัญหา แข็งแรงดีครับ วัสดุทำมาจากพลาสติกที่มีความเหนียวมากสมควร

เมื่อต้องการเสียบชาร์จกับอุปกรณ์ของ Apple ต้องเสียบต่อ ๆ กันแบบในภาพเลยครับ เพื่อรวมร่างเป็นชิ้นเดียว (ลองนึกถึงพวกขบวนการ 5 สี เวลาประกอบร่าง) ส่วนเมื่อเสียบพร้อมแล้วให้กดปุ่มตรงกลางค้างไว้ครับ เพื่อเป็นการปลดปล่อยพลังงาน ซึ่งต่างจากรุ่นทั่ว ๆ ไปที่ผมเคยรีวิวหรือก็คือเสียบปุ๊บชาร์จเลย ซึ่งสาเหตุน่าจะเป็นเพราะเรื่อง Energy Saving (ระบบประหยัดพลังงาน) ดังที่โฆษณาไว้ตอนแรก

จากการทดสอบเท่าที่ลองชาร์จ iPhone4 ตั้งแต่แบตฯ หมดเกลี้ยงจากนั้นชาร์จะไปเรื่อย ๆ จนเต็ม 100% ใช้เวลาไป 2 ชั่วโมงกับอีก 6 นาทีครับ และเท่านั้นยังไม่พอยังเหลือไฟอยู่ใน PocketCell™ อีกด้วย

ซูมกันชัด ๆ กับการต่อ Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable อย่าดูแค่ภาพครับ มันแข็งแรงกว่าที่คิด !!!

สำหรับการชาร์จ iPad2 ก็ไม่มีปัญหาครับ แรงดันมากพอที่จะชาร์จะได้อย่างเหลือ ๆ แต่ถ้าหากถามว่าสามารถชาร์จ iPad2 ให้เต็มได้ไหม ขอตอบว่า “ไม่” ครับ เนื่องจาก iPad2 มีแบตฯ ขนาด 6930 mAh (เยอะมาก) ใช้งานทั่ว ๆ ไปเป็นเดือนแบตฯ ยังไม่หมดเลย

ซูมใกล้ ๆ ให้เห็นกันชัด ๆ เลยครับว่าเจ้าตัว PocketCell™ มันสามารถชาร์จ iPad2 ได้ (ซึ่งแน่นอน iPad1 ก็เช่นกัน) แต่บางรุ่นที่ No name มากจะชาร์จ iPad2 ไม่เข้านะครับ สารภาพตามตรงว่าตอนนั้นผมเคยซื้อของ Energizer รุ่นเล็กมาตัวนึงจากห้าง IT แห่งหนึ่ง ปรากฎว่าชาร์จ iPad ไม่เข้า (Amp ไม่พอ) เซงเลย น่าเสียดายที่ตอนนั้นไม่มีความรู้ไม่งั้นคงไม่หลงซื้อมา

หรือจะใช้ชาร์จ BB ที่หัวชาร์จเป็น Micro USB ก็ไม่มีปัญหาครับ เพียงแค่ดึงหัวล็อคออกดังภาพ จุดขายของมันอยู่ตรงนี้ด้วยแหล่ะครับผมว่า พกแค่สายเดียวก็พอ ไม่ต้องยุ่งยาก เกะกะ ซึ่งผมชอบมาก ๆ แต่บางคนกลับไม่ชอบ กลัวมันไม่ทน กลัวมันหัก แต่ผมทดสอบ (อย่างรุ่นแรง) มาแล้วว่ามันทนมือ ทนเท้าผมมากเลยทีเดียวครับ ดังนั้นเลิกกังวลเรื่องข้อต่อหักได้เลย

หลังจากสนุกสนานกันมาทั้งวัน ทดสอบกันไปก็มา สุดท้ายงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกลา ในเมื่อใช้จนแบตฯ หมดก็ต้องเอาไปชาร์จครับ วิธีนั้นง่ายมากสไตล์ Innergie เหมือนเดิม คือ “ไม่ยุ่งยาก” เพียงแค่สลับเอาสาย Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable จากท้ายเครื่องมาเสียบที่หัว โดยเลือกเป็นหัว Micro USB จากนั้นก็เอาไปเสียบกับ Notebook หรือแหล่งจ่ายไฟอื่น เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้วครับ แถมตอนชาร์จก็ขึ้นสถานะบอกด้วย ได้ใจไปเต็ม ๆ เลย

สรุป : ตัว PocketCell™ นั้นผมค่อนข้างประทับใจในการใช้งานจริงมากกว่าสเปคในกระดาษมากครับ งานประกอบของ PocketCell™ ถือว่าดีมาก ๆ รวมถึงระบบต่าง ๆ ได้ทำค่อนข้างดี ส่วนสาย Magic Cable Trio 3-in-1 USB Cable นั้นก็สะดวกมาก ๆ ครับ เพราะผมไม่ค่อยชอบพกอะไรเยอะ ๆ อยู่เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว ส่วนข้อเสียก็คงจะเป็นเรื่องราคาที่ค่อนข้างจะแพงกว่ารุ่นอื่นนิด ๆ ครับ บวกกันสเปค mAh ที่ไม่ค่อยหวือหวาสะใจคนไทยเสียเท่าไหร่นัก

ขอขอบคุณ : http://www.myinnergie.com, http://www.facebook.com/Innergie.Thai ที่เอิ้อเฟื้อสินค้าคุณภาพมาให้ทีมงานได้ทดสอบ หากท่านสนใจสินค้าตัวที่ทีมงานรีวิวนี้สามารถหาซื้อได้ตาม Apple Corner (Power Buy), Banana IT, Banana Stuff, Be Trend, iBeat, iStudio, IT CITY, King Power Duty Free, .Life, Power Buy, U-Store และอื่น ๆ ราคา 2,390 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Sales-sea@myinnergie.com หรือ www.facebook.com/Innergie.Thai

กิจกรรมแจกแหลกหลังรีวิว : http://www.iphonemod.net/forum/index.php?topic=6771

• Facebook
• Twitter
• Line