หลังจากที่ Apple ได้เริ่มจำหน่าย iPad 2 ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันศุกร์ที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา (เวลาท้องถิ่นในอเมริกา) ดูเหมือนว่ากระแสความร้อนแรงของ iPad 2 นั้นมีสูงกว่าที่คาดไว้มากที่เดียว โดยมียอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาน 500,000 เครื่อง ภายในวันเดียว (ตัวเลขประเมินโดยนักวิเคราะห์) และเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก iPad 2 เริ่มจำหน่าย สินค้าก็ขายหมดลงอย่างรวดเร็ว
ผมได้มีโอกาสได้ลองสัมผัส iPad 2 มา หลังจากที่ไปต่อแถวรอกับเค้าเหมือนกัน (แต่ของหมดซะก่อนครับ) ก็เลยไปเล่นตัวที่วางโชว์ในร้าน ซึ่ง ณ ตอนนี้ iPad 2 ยังไม่มีขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ถ้าอยากได้จริง ๆ คงต้องตัดสินใจใช้บริการเครื่องหิ้วที่มาบุญครอง ซึ่งราคาคงจะสูงกว่าปกติพอสมควร จึงตั้งใจที่จะมาเขียน iPad 2 Review ให้อ่านเพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
iPad 2 Review
มาเริ่มกันที่สเปคกันก่อนครับ หลังจากที่ทาง ifixit ได้ทำการชำแหละ iPad 2 ออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อศึกษาถึงชิ้นส่วนต่าง ๆ ใน iPad 2 ทำให้เราได้ทราบข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้ครับ
- ขนาด 9.5 x 7.31 x 0.34 นิ้ว (กว้าง x ยาว x หนา)
- น้ำหนัก 1.33 ปอนด์ (ประมาณ 604 กรัม สำหรับรุ่น WiFi) และ 1.35 ปอนด์ (ประมาณ 613 กรัม สำหรับรุ่น 3g)
- หน้าจอ 10.1 นิ้ว
- Display Resolution 1024 x 768
- Processor ชิปประมวลผล A5
- กล้องหน้า และ กล้องหลัง
- เทคโนโลยี 3g ที่รองรับ UMTS/HSDPA/HSUPA/ GSM/EDGE ของ GSM และ CDMA, EV-DO ของ CDMA
- Bluetooth/ ไมโครโฟน/ลำโพง
- แบตเตอรี่ขนาด 6930 mAh
- มีสองสีที่จำหน่ายคือ สีขาว และ สีดำ
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่าง iPad 1 และ iPad 2
สิ่งที่มีการเพิ่มเติมเข้ามาใน iPad 2 คือกล้องหน้าและหลัง รวมทั้งชิปประมวลผล A5 และขนาดของแบตเตอรี่ ที่มีความจุเพิ่มขึ้น ในขณะที่หน้าจอของ iPad 1 และ iPad 2 มีความคมชัดเท่ากันครับ ส่วนการใช้งานก็มีระยะเวลาเท่ากันคือประมาณ 10 ชั่วโมง ในขณะที่ราคานั้นเท่าเดิมครับ คือ
- รุ่น WiFi 16 GB ราคาขายอยู่ที่ $499
- รุ่น WiFi 32 GB ราคาขายอยู่ที่ $599
- รุ่น WiFi 64 GB ราคาขายอยู่ที่ $699
- รุ่น WiFi + 3g 16 GB ราคาขายอยู่ที่่ $629
- รุ่น WiFi + 3g 32 GB ราคาขายอยู่ที่่ $729
- รุ่น WiFi + 3g 64 GB ราคาขายอยู่ที่่ $829
หมายเหตุ : ราคาขายยังไม่รวมภาษีที่เปลี่ยนแปลงไปตามมลรัฐ
iPad 2 สีขาว
iPad 2 สีขาว
iPad 2 สีดำ
เมื่อลองดูมุมด้านข้างจะเห็นได้ชัดว่า iPad 2 บางลงมากทีเดียวครับ ความบางของ iPad 2 นั้นบางกว่าทั้ง iPad 1 รวมไปถึง iPhone 4 ด้วยครับ ผลก็คือทำให้ iPad 2 นั้นมีน้ำหนักเบาลงมากเมื่อเทียบกับ iPad 1 นับว่า Apple ทำการบ้านเรื่องนี้มาได้ค่อนข้างดีทีเดียว
กล้องด้านหน้าที่อยู่ตรงกลางครับ ซึ่งมีความคมชัดในระดับ VGA
กล้องหลังจะอยู่ใกล้ ๆ กับปุ่ม Sleep/wake ครับ กล้องด้านหลังมีความคมชัดระดับ HD 720p เพื่อรองรับระบบ Facetime แต่ไม่มี Flash สำหรับกล้องนะครับ
รูปของเครื่องด้านหลังครับ รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ไม่รองรับ 3G ครับ ทาง Apple ไม่ได้นำรุ่น 3G มาให้ทดลองครับ ถ้าเป็นรุ่น 3G จะมีบาร์สีขาวสำหรับรุ่นสีขาว และบาร์สีดำสำหรับรุ่นสีดำ อยู่ตรงกลางใกล้ ๆ กับกล้อง เหมือนกับ iPad 1 ส่วนวัสดุด้านหลังนั้นเป็นอลูมิเนียมครับ และคิดว่าเป็นชนิดเดียวกันกับ iPhone 2g
คุณสมบัติของ iPad 2
iPad 2 นั้นมาพร้อมกับ iOS 4.3 ครับ ซึ่งหลังจากที่ได้ลองเปรียบเทียบ (จากการเล่นในร้าน Apple) ระหว่าง iPad 1 และ iPad 2 นั้น ส่วนตัวผมรู้สึกว่า iPad 2 นั้นเบากว่าพอสมควร และที่สำคัญเลยก็คือเร็วกว่าและตอบสนองได้รวดเร็วกว่า iPad 1 มากครับ อีกทั้งยังรองรับ HDMI output อีกด้วย (โดยที่ไม่ต้อง Jailbreak) เพียงแค่ซื้ออุปกรณ์ต่อพ่วงมาเสียบก็สามารถเชื่อมต่อได้ทันที ไม่ต้องทำการตั้งค่าอะไรเพิ่มเติมครับ ส่วนเรื่องการรองรับภาษาไทยนั้น iPad 2 สามารถรองรับภาษาไทยได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรครับ
จุดเด่นของ iPad 2
- ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน
- มีกล้องหน้าและหลัง รองรับระบบ Facetime
- สามารถต่อ HDMI output ผ่านอุปกรณ์เสริม
- มีสีขาวและดำให้เลือก
- น้ำหนักเบาลงเมื่อเทียบกับ iPad 1 จับถนัดมือมากกว่าเดิม
- ราคาที่ยังคงเท่าเดิม รวมไปถึง app store ที่มีแอปให้เลือกมากมาย
จุดด้อยของ iPad 2
- ความคมชัดของจอ ยังคงเท่ากับ iPad รุ่นแรก ไม่ใช่ retina display
- มีรายงานว่าพบจอเหลือง
- มีรายงานว่ามีแสงไฟรั่ว
- Spec ของ Hardware ยังด้อยกว่าเจ้าอื่น ๆ ในท้องตลาด
- ไม่รองรับ Flash และคงจะไม่รองรับตลอดไป
บทสรุป
โดยส่วนตัวนัั้นมีความเห็นว่า Apple ทำการบ้านมาดีมากสำหรับ iPad 2 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 10 เดือน เท่านั้นแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่มีการพูดถึงใน iPad รุ่นแรก เช่น ปัญหาเรื่องน้ำหนัก และ ความหนาของตัวเครื่อง รวมทั้งปรับปรุงแก้ไขในส่วนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งความเร็วของการเปิดเวป หรือในส่วนของการแสดงผลกราฟฟิค
สำหรับคนที่มองหาอุปกรณ์พกพา Tablet ที่เน้นความสะดวก และใช้งานได้อย่างรวดเร็วแล้วนั้น ผมมีความเห็นว่า iPad 2 ยังคงได้เปรียบ Tablet ตัวอื่นในท้องตลาดอยู่พอสมควรในเรื่องของ applications ที่มีมากมายใน App store เพียงแต่ถ้าใครที่มี iPad รุ่นแรกอยู่แล้วนั้น ผมก็ไม่แนะนำให้ซื้อ iPad 2 ครับ เพราะผมว่าระยะเวลาเพียงแค่ 10 เดือนนั้นน้อง iPad รุ่นแรก คงยังจะไม่เก่าสักเท่าไร เก็บตังไว้รอลุ้นกันอีกปีนึงดีกว่าครับ
ในวันที่ 25 มีนาคมนี้ Apple จะทำการวางจำหน่าย iPad 2 เพิ่มขึ้นอีก 25 ประเทศ ไม่รวมประเทศไทย ส่วนจะเข้าไทยเมื่อไรนั้น ทาง iPM จะนำเสนอข่าวเป็นระยะ ๆ ครับ สำหรับท่านที่จะพึ่งพาบริการเครื่องหิ้วนั้น ก็อยากจะให้ตัดสินใจให้รอบคอบครับ เพราะจากที่ทราบข่าวมา ราคาค่อนข้างจะสูงกว่าปกติมากทีเดียว
หวังว่าบทความนี้คงจะช่วยให้หลาย ๆ ท่านสามารถตัดสินใจซื้อ Tablet ที่ใช้งานเหมาะกับตัวเองได้ง่ายขึ้นนะครับ ส่งท้ายด้วยรูปบรรยากาศของการจำหน่าย iPad 2 ในเสาร์ที่ 12 มีนาคม (วันที่ 2 หลังการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ) แถวยังยาวเหมือนเดิม
แถวยาวมาก ๆ ครับ ยังมีด้านหลังที่ผมยืนอีก 1 แถวยาว ๆ
บรรยากาศหน้าร้าน Apple Store
ตกแต่งหน้าร้านด้วย iPad 2 ขนาดยักษ์
เจ้าหน้าที่ (เสื้อน้ำเงิน) กำลังอธิบายวิธีการใช้งานครับ
ปัญหาไฟรั่วมันอยู่ในประกันไหมอ่ะ
retina แบตคงไม่พอใช้งานละ
—————–
Dooappdd.com | รีวิว app iPhone & Android แจ่มๆ และน่าสนใจ
แล้วไอแพด จาอเมริกาสามารถเปลี่ยนภาษาเป็นภาษาไทยได้ไหมค๊ะ ??? แล้วถ้าไม่ได้จะทำอย่างไงค๊ะ ตอบที !!!
Fantastic blog! Great!