Nattida Suriyodara
การใช้ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ แม้จะมองว่าเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน แต่ก็มีสิ่งที่ผู้ใช้อย่างเราต้องระวัง และไม่ควรไม่ควรมองข้ามนั่นคือ “ด้านความปลอดภัย” รวมถึงการนำ AI มาใช้อย่างผิดวิธี
ข้อควรระวังในการใช้งาน AI ใช้ให้ปลอดภัย ไม่เป็นภัยต่อตัวเอง
เรามักจะเห็นคอนเทนต์บนโซเชียลที่หลาย ๆ ท่าน ออกมาแชร์คอนเทนต์เกี่ยวกับการให้ AI วิเคราะห์ข้อมูลส่วนตัว ทั้งดูดวงตามโหาราศาสตร์ต่าง ๆ วิเคราะห์โรค หรือให้ AI ช่วยคิดงานให้ทั้งหมด ซึ่งการเกิดขึ้นของปัญญาประดิษฐ์ทำให้ผู้ใช้อย่างเราทำสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นก็จริง แต่มีสิ่งหนึ่งที่อาจถูกมองข้ามไปคือด้านความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือของข้อมูล ดังนั้นบทความนี้กิ๊ฟจึงได้รวบรวมสิ่งที่ควรระวังเมื่อต้องใช้ AI
ควรระวัง “ด้านความปลอดภัยส่วนตัว”
1. ไม่ควรป้อนข้อมูลส่วนตัวเกินความจำเป็น
โดยเฉพาะข้อมูลที่ละเอียดอ่อน เช่น เลขบัตรประชาชน ประวัติส่วนตัว เบอร์โทร ข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญ เป็นต้น เพราะ AI จะจดจำสิ่งที่เราป้อนเข้าไป หรือบางตัวอาจนำข้อมูลไปปรับปรุง หรือวิเคราะห์ในภายหลังโดยใช้ข้อมูลที่เคยป้อนเข้าไป อย่าลืมว่า AI นั้นก็ถูกสร้างมาโดยมนุษย์
2. ระวัง AI ที่ขอสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลในเครื่อง
หาก AI ขอสิทธิ์เข้าถึงกล้อง, ไมโครโฟน, รูปภาพ, รายชื่อติดต่อ หรือตำแหน่งที่ตั้ง ให้พิจารณาให้ดีว่าจำเป็นหรือไม่ และควรอ่านเงื่อนไขการใช้งานก่อนอนุญาตเสมอ
ควรระวัง “ในชีวิตประจำวัน”
1. อย่าให้ AI ตัดสินใจให้ทุกเรื่อง
บางครั้งเราอาจมีปัญหา หรือ ต้องการข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งตอนนี้สิ่งที่ง่ายที่สุดคือการถาม AI แต่หากเป็นเรื่องของสุขภาพที่ต้องพึ่งข้อมูลการแพทย์ ควรจะปรึกษาหมอเพื่อให้รักษาได้ถูกต้องจะดีที่สุด อย่าใช้ AI หาคำตอบเพื่อทำการรักษาเอง เพราะหากรักษาผิดวิธีอาการร้ายแรงกว่าเดิมอาจเกิดอันตรายได้
2. อย่าเชื่อว่าข้อมูลจาก AI จะถูกต้องทั้งหมด
แม้ AI จะสามารถสืบค้นข้อมูล สรุปข้อมูล และตอบคำถามของเราได้แทบทั้งหมด แต่ข้อมูลที่ได้มานั้นมีโอกาสที่จะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เช่น นำมาจากแหล่งข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเป็นข้อมูลเก่าที่ไม่ได้อัปเดต ดังนั้นไม่ควรเชื่อข้อมูลที่มาจาก AI ทั้งหมด แต่ควรเช็คข้อมูลทุกครั้งก่อนนำไปใช้
3. ข้อมูลที่ AI หาแสดงผลอาจไม่อัปเดต
AI ส่วนใหญ่จะถูกป้อนข้อมูล หรือที่เรียกว่า “เทรน” ถูกอัปเดตมาถึงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น เช่น ถึงแค่ปี 2024 ซึ่งหากต้องการข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน อาจไม่ถูกต้องหรือบางครั้งคำตอบอาจถูกสังเคราะห์ขึ้นมาจนผิดเพี้ยนเพียงเพื่อแค่ต้องการให้คำตอบกับผู้ใช้งาน
เพิ่มเติม
การที่ AI สังเคราะห์คำตอบขึ้นมาเอง ให้คำตอบหรือข้อมูลที่ผิดไม่ตรงตามความเป็นจริงมักจะเรียกอาการนี้ว่า “Hallucination” (อาการหลอน)
4. ให้ AI คิดแทนทุกอย่าง อาจทำให้เรา “คิดไม่เป็น”
แม้การใช้ AI จะเป็นเรื่องปกติในปัจจุบัน เพราะเข้ามาช่วยให้งานทุกอย่างง่ายขึ้น และเสร็จเร็ว แต่หากนำมาใช้แบบผิด ๆ โดยเฉพาะให้ AI คิดแทนทุกอย่าง เรามีหน้าที่เพียงป้อนสิ่งที่สงสัย และรอคำตอบ จะทำให้เราไม่ได้ฝึกคิดวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาด้วยตนเองต้องพึ่งพาตัวช่วยตลอด ดังนั้นนำ AI มาเป็นผู้ช่วยเฉพาะบางเรื่องพอ
การใช้ AI ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่จุดประสงค์หลักที่กิ๊ฟต้องการสื่อคือ “ให้ทุกคนระวัง” ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน และการนำมาใช้ในชีวิตประจำวันให้ถูกวิธี
เรียบเรียงโดย: กิ๊ฟ iMoD
