Nattida Suriyodara
แชร์ประสบการณ์ iPhone 17, iPhone Air, iPhone 17 Pro Max ดีไหม เหมาะกับใคร
รีวิวเจาะลึก: iPhone 17, iPhone Air, และ iPhone 17 Pro Max รุ่นไหนใช่สำหรับคุณ?
หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว iPhone 17 Series รวมถึง iPhone Air ได้ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ทางช่อง iMoD Official ได้รวบรวมประสบการณ์การใช้งานจริงจากผู้เชี่ยวชาญสามท่านมาแบ่งปัน เพื่อให้คุณนำไปประกอบการตัดสินใจว่า iPhone รุ่นใหม่นี้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณหรือไม่
ภาพรวมจากประสบการณ์จริง:
iPhone 17 (รุ่นธรรมดา): (ผู้รีวิว: น้องกิ๊ฟ)
สิ่งที่ชอบ:
Dual Capture: ฟีเจอร์ที่ช่วยให้การถ่ายวิดีโอสร้างสรรค์ง่ายขึ้น
หน้าจอ ProMotion 120Hz: การเปลี่ยนจาก 60Hz ทำให้รู้สึกถึงความลื่นไหลที่แตกต่างอย่างชัดเจน แม้ช่วงแรกอาจต้องปรับตัว
Center Stage: กล้องหน้าที่สามารถถ่ายในแนวนอนได้โดยไม่ต้องถือเครื่องแนวนอน และอัปเกรดเป็น 18 ล้านพิกเซล ทำให้ได้ภาพที่คมชัด
สิ่งที่ไม่ชอบ:
Always On Display: แม้จะเป็นฟีเจอร์ใหม่สำหรับรุ่นธรรมดา แต่ผู้รีวิวรู้สึกว่าอาจทำให้แบตเตอรี่ลดลงเร็วขึ้นและรบกวนสมาธิในการทำงาน (แต่สามารถปิดได้)
จุดขาย: ราคาเริ่มต้นไม่ถึง 30,000 บาท (29,900 บาท) แต่ได้ความจุเริ่มต้น 256GB หน้าจอ 120Hz และกล้องหน้าที่อัปเกรดขึ้นมาก คุ้มค่าสำหรับผู้ที่มีงบจำกัดและต้องการอัปเกรด
เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณจำกัด แต่อยากได้ฟีเจอร์ที่อัปเกรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะจาก iPhone รุ่นเก่าอย่าง iPhone 11 หรือ 12 Pro Max แต่ถ้าใช้ iPhone 16 อาจไม่จำเป็นต้องอัปเกรดในทันที
iPhone Air: (ผู้รีวิว: น้องอาร์ต)
สิ่งที่ชอบ:
Center Stage: ชอบมากเพราะสะดวก ไม่ต้องพลิกเครื่อง และด้วยความเบาของ Air ทำให้การใช้งานง่ายยิ่งขึ้น
ดีไซน์: ความบางเบาและดีไซน์ที่โดดเด่นทำให้รู้สึกเหมือนใช้สมาร์ทโฟนระดับท็อป และยังเป็น “ไอเท็มแฟชั่น” ที่สามารถ Mix & Match กับสไตล์การแต่งตัวได้หลากหลาย
สิ่งที่ไม่ชอบ:
แบตเตอรี่: ดีกว่าที่คาดไว้ แต่ยังคงต้องชาร์จระหว่างวันหากมีการใช้งานหนัก
กล้อง: ไม่มีเลนส์ Ultra Wide (0.5x) ซึ่งอาจจำกัดการใช้งานบางสถานการณ์
ลำโพง: มีเพียงตัวเดียว ทำให้มิติเสียงไม่เท่ารุ่นที่มีลำโพงคู่
ความร้อน: รู้สึกว่าเครื่องร้อนเร็วกว่าปกติในบริเวณด้านบนของเครื่อง
ความบาง: อาจทำให้จับไม่ถนัดมือหากไม่ใส่เคส
จุดขาย: ดีไซน์ที่สวยงาม บางเบา และโดดเด่น ทำให้เป็นที่สนใจและมีคนทักถามเมื่อนำไปใช้งานนอกบ้าน
เหมาะสำหรับผู้ที่ให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่สวยงาม ความบางเบา และประสบการณ์การใช้งานที่ไม่หนักมือเป็นหลัก โดยรับได้กับข้อจำกัดบางอย่างด้านสเปก
iPhone 17 Pro Max: (ผู้รีวิว: พี่เต็นท์)
สิ่งที่ชอบ:
Vapor Chamber: ช่วยจัดการความร้อนได้ดีเยี่ยม ทำให้เครื่องเย็นลงเร็วและยังคงประสิทธิภาพสูงแม้ใช้งานหนัก
วัสดุอลูมิเนียมใหม่: แข็งแรง ทนทาน และกระจายความร้อนได้ดีกว่าไทเทเนียมรุ่นก่อนหน้า ช่วยเพิ่มพื้นที่ภายในสำหรับการใส่แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น
ชิป A19 Pro: จัดการพลังงานและประสิทธิภาพได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะการใช้งานตลอดวันทำให้แบตเตอรี่ลดลงช้ากว่ารุ่น 16 Pro Max
สิ่งที่ไม่ชอบ:
รอยขีดข่วนง่าย: โดยเฉพาะบริเวณขอบกล้องด้านหลังที่เป็นรอยง่าย ทำให้กังวลเรื่องการดูแลรักษาและมูลค่าเมื่อขายต่อ
ดีไซน์โมดูลกล้อง: ไม่ชอบดีไซน์ของส่วน Ceramic Shield ด้านหลังที่เป็นสีขาว ซึ่งขัดกับสีเครื่อง (Silver) ทำให้ดูไม่กลมกลืน
แบตเตอรี่: แม้ชิป A19 Pro จะจัดการแบตเตอรี่ได้ดีขึ้น แต่เมื่อเทียบกับ 16 Pro Max พบว่าการใช้งานทั่วไปตลอดวันยังคงใกล้เคียงกัน อาจจะอึดกว่าเล็กน้อยเท่านั้น
จุดขาย: เป็นรุ่น “ท็อปสุด ใหญ่สุด แบตอึดสุด” ที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณสูงและต้องการประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้าน
เหมาะสำหรับ:
กลุ่มผู้ที่ต้องการรุ่นท็อป: มีงบประมาณและต้องการสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุด
กลุ่มผู้ใช้งานเน้นฟังก์ชัน: จำเป็นต้องใช้ iPhone ในการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ ตัดต่อ หรือทำงานต่อเนื่องตลอดทั้งวันบนจอใหญ่ที่สู้แสง
กลุ่มมืออาชีพ: ช่างภาพมืออาชีพที่ต้องการอุปกรณ์สำรองหรืออุปกรณ์ที่ไม่ต้องพกกล้องตัวใหญ่
สรุปคำแนะนำ:
การเลือกซื้อ iPhone 17 Series ขึ้นอยู่กับความต้องการและงบประมาณส่วนบุคคล หากคุณชอบดีไซน์ที่สวยงามและบางเบา iPhone Air คือตัวเลือกที่ดีที่สุด ในขณะที่ iPhone 17 รุ่นธรรมดานั้นคุ้มค่าด้วยฟีเจอร์ที่อัปเกรดขึ้นในราคาที่เข้าถึงง่าย ส่วน iPhone 17 Pro Max ยังคงเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพและฟังก์ชันการทำงานระดับโปรแบบครบครัน
