Zakura Kim
เราคงจะได้เห็นการเปิดตัว watchOS 9 ในงาน WWDC22 ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาแล้ว ถ้าหากพูดถึง watchOS หลายคนก็คงคาดหวังกับฟีเจอร์สุขภาพที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้มากขึ้น เรามาชมกันว่าฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่เพิ่มเข้ามาใน watchOS 9 นั้นมีอะไรบ้าง
สรุป 8 ฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่มาพร้อมกับ watchOS 9 บน Apple Watch
1. แอปยาใหม่
แอปยา (Medications) จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการและติดตามการทานยาบน iPhone และ Apple Watch ได้ ซึ่งผู้ใช้ที่มีการทานยา วิตามินซี หรืออาหารเสริมอยู่เป็นประจำ สามารถสร้างรายการและกำหนดเวลาการทานยา เพิ่มการเตือนการทานยาได้ ทำให้ไม่ลืมว่าต้องทานยาเวลาไหนบ้างและทานปริมาณเท่าไหร่
นอกจากนี้ผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกายังจะได้รับการแจ้งเตือนหากยาที่เพิ่มลงในแอปมีแนวโน้มที่จะเกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เช่น แจ้งเตือนว่าการดื่มแอลกอฮอล์อาจมีผลข้างเคียงต่อยาที่ใช้
2. ประวัติภาวะ AFib
ต่อยอดจากฟีเจอร์การวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG) ที่สามารถตรวจจับภาวะหัวใจห้องบนสั่นพริ้ว (AFib) มาสู่การแสดงประวัติภาวะ AFib ใน watchOS 9 สำหรับผู้ใช้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะ AFib สามารถเปิดใช้งานคุณสมบัติประวัติภาวะ AFib เพื่อติดตามความถี่ของจังหวะการเต้นของหัวใจและการแสดงสัญญาณของภาวะ AFib ว่าเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนในประวัติ
ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลเชิงลึกอย่างละเอียด และได้รับการแจ้งเตืนอรายสัปดาห์เกี่ยวกับจังหวะการเต้นของหัวใจในแอปสุขภาพ รวมถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างปัจจัยต่าง ๆ ในการใช้ชีวิตที่มีผลต่อภาวะ AFib เป็นประโยชน์มาก ๆ สำหรับผู้ป่วย
นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถดาวน์โหลดประวัติภาวะ AFib เป็นไฟล์ PDF เพื่อนำข้อมูลไปพูดคุยร่วมกับแพทย์ที่รักษาได้อีกด้วย
3. การนอนหลับปรับปรุงใหม่
แอปการนอนหลับ (Sleep) ได้รับการปรับปรุงใหม่ใน watchOS 9 ที่แสดงข้อมูลเชิงลึกละเอียดมากขึ้น โดยตรวจจับว่าผู้ใช้อยู่ในระยะการนอนหลับแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นระยะหลับฝัน หลับจริง หรือหลับลึก โดยตรวจจับการเคลื่อนไหวและการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
ผู้ใช้สามารถติดตามระยะการนอนหลับได้ในแอปสุขภาพบน iPhone หรือข้อมูลสรุปหลังจากตื่นนอนในแอปนอนหลับบน Apple Watch ซึ่งจะมีข้อมูล อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการการหายใจด้วย
4. ติดตามโซนอัตราการเต้นหัวใจ
สำหรับการออกกำลังกายใน watchOS 9 ได้เพิ่มการติดตามโซนอัตราการเต้นของหัวใจ เพื่อช่วยในการติดตามความเข้มข้นระหว่างออกกำลังกายได้ ซึ่ง Apple Watch จะสร้างโซนอัตโนมัติ รวมถึงผู้ใช้ก็สามารถกำหนดโครงสร้างการออกกำลายว่าจะมีช่วงแอ็คทีฟและช่วงพักกี่นาที
รวมถึงผู้ใช้จะได้รับการแจ้งเตือนใหม่ ๆ เกี่ยวกับ เวลาเฉลี่ยต่อระยะทาง พลังงาน อัตราการเต้นของหัวใจ และความเร็วรอบขา เพื่อช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากขึ้น
5. เมตริกการวิ่งใหม่ที่ละเอียดขึ้น
ใน watchOS 9 มีเมตริกหรือค่าวัดการวิ่งใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามามากมาย ผู้ใช้ Apple Watch สามารถติดตามความยาวก้าว ระยะเวลาสัมผัสพื้น และการกระเด้งตัวในแนวดิ่งได้ สามารถดูค่าวัดทั้งหมดระหว่ายงออกกำลังกาย หรือจะติดตามข้อมูลแบบละเอียดในแอปสุขภาพ (Health) ก็ได้
6. แข่งขันกับตัวเอง
ผู้ใช้สามารถเลือกแข่งกับสถิติการวิ่งครั้งล่าสุดหรือครั้งที่ดีที่สุดของตนเองบนเส้นทางที่วิ่งบ่อย ๆ ได้ เพื่อดูว่าเรามีพัฒนาการที่ดีมากขึ้นแค่ไหนในการฝึกฝนการวิ่ง และในขณะที่วิ่งนั้นเราก็จะได้รับการแจ้งเตือนว่าวิ่งช้าหรือเร็วกว่าเวลาเฉลี่ยที่กำหนดต่อระยะทาง และแจ้งเตือนเมื่อวิ่งออกนอกเส้นทางด้วย
นอกจากนี้ยังมีตัววัดเวลาเฉลี่ย (Pace) ใหม่ ที่เราสามารถตั้งเป้าหมายเวลาและระยะทางที่เราต้องการทำให้สำเร็จ และ Apple Watch จะคำนวณเวลาเฉลี่ยต่อระยะทางที่จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายให้ด้วย ระหว่างวิ่งนั้นเราจะได้รับการแจ้งเตือนเวลาเฉลี่ยตลอดเวลา เพื่อปรับปรุงการวิ่งให้ดีขึ้น
7. การออกกำลังกายแบบไตรกีฬา
สำหรับนักกีฬาที่ชอบแข่งขันไตรกีฬาคงถูกใจสิ่งนี้ เพราะใน watchOS 9 ได้เพิ่มการออกกำลังกายแบบมัลติสปอร์ตใหม่ที่สลับประเภทการออกกำลังกายอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง ว่ายน้ำ และปั่นจักรยาน โดยที่เราไม่ต้องแตะสลับเปลี่ยนเอง
Apple Watch จะตรวจจับความเคลื่อนไหวด้วยเซ็นเซอร์ เพื่อตรวจจับว่าเรากำลังกายออกกำลังกายประเภทไหน เมื่อออกกำลังกายไตรกีฬาเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถดูข้อมูลสรุปในแอปฟิตเนสได้เลย
8. การว่ายน้ำมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Apple Watch มีคุณสมบัติทนน้ำได้ จึงรองรับการออกกำลังกายประเภทว่ายน้ำ ซึ่งใน watchOS 9 ก็ได้มีการปรับปรุงการออกกำลังกายประเภทว่ายน้ำให้ดียิ่งขึ้น โดยมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มเข้ามาเรียกว่า การตรวจจับโฟมว่ายน้ำ (Kickboard Detection) อัตโนมัติสำหรับคนที่กำลังเริ่มต้นฝึกว่ายน้ำ
Apple Watch สามารถจำแนกได้ว่า เรากำลังฝึกว่ายน้ำด้วยกระดานหรือโฟมว่ายน้ำ หรือว่ายน้ำท่าอื่น ๆ โดยไม่ใช้อุปกรณ์ช่วย
นอกจากนี้เรายังสามารถติดตามคะแนน SWOLF ที่เป็นการนับจำนวนสโตรกรวมกับเวลาที่ใช้ในการว่ายน้ำความยาวหนึ่งรอบสระโดยคิดเป็นวินาที ผู้ใช้สามารถดูค่าเฉลี่ย SWOLF สำหรับการว่ายน้ำแต่ละเซ็ตได้ในสรุปการออกกำลังกาย คะแนนนี้จะช่วยให้ให้นักกีฬาติดตามและปรับปรุงประสิทธิภาพการว่ายน้ำให้ดียิ่งขึ้น
ที่มา idropnews , ภาพจาก Apple
