Keattisak Moonrin
17+ ไฮไลท์เด่น WWDC2023 รวมมาให้แล้วตรงนี้ มีฟีเจอร์อะไรเด่น เด่นอย่างไร มีความน่าสนใจอะไรบ้าง ? ไปดูกันเลย
สรุป 17+ ไฮไลท์เด่น WWDC2023
ในงาน WWDC2023 มีการเปิดตัว OS ต่าง ๆ รวมถึง Product ใหม่ ๆ อีกมากมาย วันนี้ทีมงานได้ลิสต์ทั้งหมด 17+ ฟีเจอร์ มาให้ดูกันแล้ว จะมีอะไรบ้าง มาดูไปพร้อมกันเลย!
1. Name Drop
อัปเกรดการใช้งาน AirDrop ด้วยฟีเจอร์ใหม่ “NameDrop” ทำให้การแชร์ข้อมูลผู้ติดต่อง่ายขึ้น เพียงแค่นำ iPhone มาไว้ใกล้ ๆ กัน หรือหัน iPhone เข้าหา Apple Watch ก็สามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว
2. Contract Poster
หน้าจอผู้ติดต่อ (Contact) ใหม่ Contract Poster เป็นหน้าจอแสดงการโทรที่สามารถปรับแต่งได้หลากหลายคล้ายกับหน้าจอล็อคของ iOS 16 สร้างเป็นโปสเตอร์สวย ๆ ให้กับผู้ติดต่อใช้สำหรับแสดงข้อมูลตอนที่โทรเข้าได้
3. FaceTime Video
ฟีเจอร์ FaceTime รองรับข้อความเสียงและวิดีโอ เวลาที่มีคนโทรเข้ามาตอนที่เราไม่ว่าง ผู้โทรสามารถบันทึกข้อความเป็นเสียงหรือวิดีโอได้ เพื่อให้เราดูได้ในภายหลัง
4. หา Remote Apple TV ได้ด้วย FindMy
หมดปัญหาการทำรีโมทหล่นหาย เพราะเราสามารถใช้ FindMy ค้นหารีโมทของ Apple TV ได้แล้ว!
5. Live Sticker
ต่อยอดฟีเจอร์การดึงรูปออกจากพื้นหลังใน Live Text ออกมาเป็น Live Sticker สามารถใช้งานได้หลากหลาย เพิ่มลูกเล่น ใช้งานเป็น Reaction บนแอป Message และรองรับการใช้งานแอป 3rd Party ได้ด้วย
6. แอปใหม่ Jounal
แอปใหม่เสมือนเป็นไดอารี่อัจฉริยะส่วนตัวของเรา โดยระบบจะเตรียมข้อมูลต่าง ๆ เพื่อแนะนำให้เราใช้ประกอบการจดบันทึกประจำวัน ทั้งรูป วีดีโอ สถานที่ที่ไป สามารถตั้งแจ้งเตือนเพื่อไม่ให้ลืมจดบันทึกประจำวันด้วย
7. ข้อมูลการปั่นจักรยานละเอียดมากขึ้น
WatchOS เพิ่มรายละเอียดของการปั่นจักรยานได้มากขึ้น เช่น สามารถเชื่อมต่อ Sensor กับตัวจักยาน เพื่อดึงข้อมูลต่าง ๆ ได้มากขึ้น 
8. แผนที่ออฟไลน์
ดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ได้ ใช้งานในสถานที่ที่อับสัญญาณ สามารถนำทางได้ ค้นหาสถานที่ และ แสดงเวลาที่คาดว่าจะถึงได้
9. หน้าปัด WatchFace ใหม่ Palette และ Snoopy
WatchOS 10 มาพร้อมกับหน้าปัดรูปแบบใหม่สวยงาม สีของพื้นหลังจะปรับไปตามเข็มของนาฬิกา เรียกว่าหน้าปัด Palette และมีหน้าปัดตัวการ์ตูนใหม่ Snoopy น่ารัก ๆ ให้เลือกใช้งานได้
10. Check In
Check-In ฟีเจอร์ใหม่ใน Message ระบบจะเช็คอินให้ว่าเรากลับมายังสถานที่จุดเริ่มต้นของเราแบบอัตโนมัติ โดยสามารถแชร์ข้อมูลแบตเตอรี่ iPhone และอื่นๆ ได้ หากเราไม่ได้กลับมายังจุดเช็คอิน
11. Adaptive Audio
Adaptive Audio ฟีเจอร์ใหม่ที่จะปรับแต่งเสียงตามสภาพแวดล้อมในการใช้งานของเราได้แบบอัตโนมัติ
12. วิตเจ็ตทุกอุปกรณ์
iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch รองรับวิตเจ็ตทุกอุปกรณ์แล้ว และเป็นวิดเจ็ตที่สามารถตอบโต้การใช้งานของแอปนั้น ๆ ได้เลย
13. เปิดตัว MacBook Air 15″
เปิดตัว MacBook Air 15″ ชิป M2 ตัวใหม่ ดีไซน์เดิม จอใหญ่ขึ้น แบตอึด! Apple เคลมว่าเป็น laptop ขนาดหน้าจอ 15″ ที่บางที่สุดในโลกด้วย
อ่านบทความเพิ่มเติม : เปิดตัว MacBook Air 15″ ชิป M2 ตัวใหม่ ดีไซน์เดิม จอใหญ่ขึ้น แบตอึด!
14. โหมดเกมบน Mac
เมื่อเปิดใช้งาน Game Mode บน Mac สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลมากขึ้น โดย Apple ให้ความสำคัญสูงสุดกับเกมบน CPU และ GPU โหมดเกมนี้สามารถใช้งานได้กับทุกเกม รวมถึงเกมใหม่และเกมที่กำลังจะลง Mac
ซึ่งในอนาคตเราจะได้เห็นเกมฟอร์มยักษ์อีกหลายเกมแน่นอน เกมฟอร์มยักษ์ ณ ตอนนี้เด่น ๆ สำหรับเครื่อง Mac คือ Resident Evil : Village, Death Stranding, NoMan’s Sky
15. โหมด StandBy แสดงข้อมูลแนวนอน
โหมด Stand By เมื่อวางชาร์จ iPhone บนแท่นชาร์จ MagSafe แบบแนวนอน ก็จะพบกับหน้าจอ Stand By ที่ปรับแต่งได้หลายรูปแบบ เช่น แสดงนาฬิกา วิดเจ็ต ปฏิทิน รูปภาพ เป็นต้น
16. ถอด Voicemail เป็นข้อความ
สามารถถอดเสียง Voice Mail ที่แสดงเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ ผู้รับสามารถกดอ่านข้อความได้ ใน กรณีที่ไม่สะดวกรับสายสนทนา
17. แก้คำผิด คาดเดาคำ ได้ฉลาดขึ้น
ระบบ Auto Correct หรือการเดาคำบน Keyboard สามารถใช้งานได้ฉลาดมากยิ่งขึ้น และเรียนรู้การพิมพ์ของผู้ใช้งานเพิ่มเติมด้วยเช่น การพิมพ์คำสแลงของตัวผู้ใช้เอง
18. บันทึกอารมณ์ Mental Health
ในแอป Mindfulness สามารถเลือกอารมณ์ความรู้สึกของเราได้มากขึ้น (สุขเศร้า, เสียใจ, ดีใจ)
มีแบบทดสอบ แบบสอบถาม ที่ช่วยให้เรารู้ถึงสภาพจิตใจ ณ ปัจจุบันของเราได้
19. เปิดตัว Vision Pro
แว่น AR/VR รุ่นแรกของ Apple เปิดตัวโดยใช้ชื่อว่า Vision Pro ถือเป็นการเปิดตัวอุปกรณ์ตัวใหม่ ของ Apple หากนับจาก Apple Watch ที่เปิดตัวในปี 2015 พร้อมกับเปิดตัว visionOS ระบบปฏิบัติการของแว่น AR/VR ตัวเค้าเองด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ : เปิดตัว Vision Pro แว่น AR/VR รุ่นแรกของ Apple
