in , ,

10 ข้อที่เจอใน iPad Gen 10 หลังทดลองใช้งานจริง!

iPad รุ่นที่ 10 โดนกระแสมาเยอะมากทั้งเรื่องการใช้งานและราคา วันนี้ผู้เขียนจะมาเล่าประสบการณ์ทดลองใช้งานจริงใน iPad รุ่นที่ 10 กันแบบชัด ๆ อีกครั้ง มาดูกันว่าจะเป็นอย่างไร ไปชมบทความนี้กันเลย!

10 ข้อที่เจอใน iPad Gen 10 หลังทดลองใช้งานจริง!

1. ดีไซน์ใหม่ จอเต็มขอบ ใช้งานสะดวก

iPad รุ่นที่ 10 ถือเป็น iPad รุ่นสุดท้ายที่พึ่งปรับไปใช้ดีไซน์แบบใหม่ หลังจากที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้งานแล้วไม่ว่าจะเป็นการจดโน้ต วาดเขียน หรือดูคอนเทนต์ต่าง ๆ ก็รู้สึกว่าทำได้ดีกว่า iPad รุ่นก่อนหน้ามาก ๆ อาจจะด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ดีไซน์ที่ตัดปุ่มโฮมออกไปจึงทำให้เรามีอรรถรสในการดูคอนเทนต์มากขึ้น เวลาจดโน้ต หรือวาดเขียนอะไรลงไปก็ดูได้เต็มตาขึ้นจริง ๆหากเทียบกับการใช้งานใน iPad รุ่นที่ 9 แล้ว ความรู้สึกที่ได้ถือว่าแตกต่างกันมาก ๆ เพราะ iPad รุ่นที่ 9 หน้าจอจะเล็กกว่า มีขอบดำของหน้าจอทั้งสองฝั่ง จึงทำให้เวลาดูหนัง หรือดูคอนเทนต์จะรู้สึกเหมือนมีขอบดำ ๆ มาบังสายตา เวลาจดโน้ต หรือวาดรูปก็ต้องซูมหน้าจอเข้าไปเพื่อให้ดูเนื้อหาได้ชัดขึ้นนั่นเองนอกจากนี้หน้าจอ iPad รุ่นที่ 10 ยังได้อัปเกรดไปใช้จอแบบ Liquid Retina 10.9″ ด้วย จึงทำให้เวลาทัชสกรีน หรือใช้งานด้านต่าง ๆ สามารถทำได้ลื่นไหลมากขึ้นนั่นเอง ในมุมมองของผู้เขียนจึงรู้สึกว่าประสบการณ์การใช้งานเรื่องหน้าจอที่ได้จาก iPad รุ่นที่ 10 นั้นถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่สำหรับการใช้งาน iPad รุ่นเริ่มต้นที่ดีมาก

2. กล้องหน้าแนวนอนตอบโจทย์คนวัยเรียน/วัยทำงาน

ใครที่เป็นสายประชุมงาน วิดีโอคอล หรือพรีเซนต์งานผ่าน iPad อยู่บ่อย ๆ การย้ายกล้องหน้าจากแนวตั้งมาไว้แนวนอนผู้เขียนรู้สึกว่าตอบโจทย์คนใช้งานจริงมาก ๆ เพราะเวลาที่เราต้องวิดีโอคอล ประชุมงาน หรือพรีเซนต์งาน เราสามารถเปิดกล้องหน้าแล้วคุยงานต่อได้เลยทันที ไม่ต้องพยายามจัดเฟรม หรือบิด iPad เพื่อให้ตัวเราอยู่ตรงกลางเฟรมอีกต่อไปและปัญหาเรื่องตาเหล่ ตาเอียง เวลาคุยงานกับเพื่อนก็จะหมดไปด้วย เพราะเราสามารถสบตาผู้คนได้เลยผ่านเลนส์กล้องหน้าในแนวนอน เรียกได้ว่าเป็นการปรับดีไซน์ใหม่สำหรับ iPad รุ่นที่ 10 ที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ และหวังว่า Apple จะเอาดีไซน์กล้องหน้าแนวนอนนี้ไปใส่ใน iPad รุ่นอื่น ๆ ด้วย

3. ถ่ายคอนเทนต์ด้วย iPad จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

สำหรับคนที่ใช้ iPad รุ่นเริ่มต้นอย่าง iPad รุ่นที่ 7, 8, 9 จะพบกับปัญหากล้องหลังไม่ชัด เวลาจะถ่ายรูป หรือถ่ายสไลด์ในห้องเรียนก็ต้องเจอกับปัญหาภาพไม่ชัด แต่ในวันนี้ Apple เค้าอัปเกรดกล้องหลังมาให้แล้วเป็น เลนส์ไวด์ความละเอียด 12MP ที่สเปกกล้องหลัง เทียบเท่า iPad Air 5 เลยเวลาที่ไม่ได้พก iPhone ไปด้วย แล้วจำเป็นต้องถ่ายรูปก็สามารถหยิบ iPad ขึ้นมาถ่ายรูปแล้วเอาไปใช้งานต่อได้เลย จากประสบการณ์ของผู้เขียนคือถือว่าสะดวกมาก ๆ ภาพที่ได้ก็ออกมาคมชัดขึ้นด้วย

4. พอร์ต USB-C เชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมง่ายกว่าเดิม

รอมานานกับพอร์ต USB-C ใน iPad รุ่นเริ่มต้น… แต่ตอนนี้ไม่ต้องรอแล้ว เพราะ Apple เค้าใส่มาให้แล้วใน iPad รุ่นที่ 10 ถือว่าสมการรอคอย เพราะนอกจากพอร์ต USB-C ที่สะดวกต่อการชาร์จแบต ไม่ต้องพกสายชาร์จหลายอันแล้ว ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมได้ เช่น หน้าจอภายนอก สำหรับคนที่ต้องการดูคอนเทนต์ในหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นสามารถโอนถ่ายข้อมูลจาก External Harddisk ได้แบบสะดวกมากขึ้น เพราะพอร์ตส่วนใหญ่จะเป็นพอร์ต USB-C ก็สามารถเสียบที่ตัว iPad แล้วโอนถ่ายข้อมูลได้เลย แต่ถ้าเป็นพอร์ต Lightning ก็จะต้องใช้ Hub เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับ iPad อีกทีนึง ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสำหรับคนที่เก็บข้อมูลต่าง ๆ ไว้ใน External Harddisk อยู่แล้วนอกจากนี้ก็ยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับตัวเราท์เตอร์โดยตรงได้เลย แต่ต้องมี Hub สำหรับการเชื่อมต่อสาย LAN ซึ่งจากที่ผู้เขียนได้ทดลองดูแล้วนั้น เรียกได้ว่าเจ๋งมาก ใครที่ต้องการเน็ตเร็วแรงแบบเร่งด่วน ก็สามารถเอาเทคนิคนี้ไปใช้กันได้

5. ดูคอนเทนต์ได้สนุกมากขึ้น ด้วยลำโพงแบบใหม่

ในที่สุด Apple ก็ปรับลำโพงแบบใหม่มาให้ใน iPad รุ่นที่ 10 ให้เป็นแบบสเตอริโอ ซึ่งเสียงจะออกมาจากทั้งสองฝั่งของ iPad เวลาเล่นเกม ดูหนัง หรือดูคอนเทนต์ เสียงก็จะออกมาจากทั้งสองฝั่งของ iPad ทำให้มีอรรถรสในการดูมากขึ้น ต่างจาก iPad รุ่นที่ 9 ที่เสียงจะออกมาทางฝั่งเดียว

6. มาพร้อมดีไซน์ใหม่ แต่ยังใช้ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) อยู่ ?

iPad รุ่นที่ 10 เปิดตัวมาพร้อมกับดีไซน์ใหม่ แต่ก็ยังคงใช้ Apple Pencil รุ่นที่ 1 อยู่ แน่นอนว่าถ้าเทียบกับ iPad ดีไซน์ใหม่ในรุ่นอื่น ๆ ก็อัปเกรดไปใช้ Apple Pencil รุ่นที่ 2 กันหมดแล้ว แต่ก็อาจด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำให้ยังคงใช้ Apple Pencil รุ่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นการย้ายกล้องหน้ามาไว้แนวนอน จึงไม่มีช่องสำหรับใส่แถบแม่เหล็กเอาไว้ดูดตัวปากกา ส่วนขอบเครื่องอีกข้างก็เป็น Smart Connector เอาไว้เชื่อมต่อคีย์บอร์ดที่เป็นอุปกรณ์เสริม

และด้วยความที่ iPad รุ่นที่ 10 ยังถูกจัดอยู่ในหมวด iPad รุ่นเริ่มต้น หากเปลี่ยนไปใช้ Apple Pencil รุ่นที่ 2 ก็อาจจะไม่ใช่ iPad รุ่นเริ่มต้นอีกต่อไป รวมถึงปัจจัยในเรื่องของต้นทุนที่ตามมาด้วยจึงอาจเป็นเหตุผลที่ยังคงใช้ Apple Pencil รุ่นที่ 1 อยู่ ซึ่งสิ่งที่เราได้เพิ่มเข้ามาก็คือหัวแปลง USB-C เพื่อเชื่อมต่อนั่นเอง…แน่นอนว่าความรู้สึกหลักจากที่ได้ทดลองใช้งาน iPad รุ่นที่ 10 นั้น ต้องขอชมเลยว่าสามารถเขียนได้ดีและลื่นไหลกว่า iPad รุ่นก่อนหน้ามาก ๆ แต่ประเด็นที่หลายคนติดปัญหาและเป็นที่พูดถึงกันมากอย่างมากก็คือ การเชื่อมต่อและการชาร์จแบต Apple Pencil รุ่นที่ 1 นั่นเอง ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สะดวกเท่าไหร่เวลาใช้งาน เพราะต้องพกหัวแปลง USB-C และสายชาร์จ USB-C to USB-C  ไปด้วยทุกครั้งเวลาใช้งาน ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็หวังว่า Apple จะมีวิธีที่ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น

7. คีย์บอร์ดแบบใหม่ พิมพ์งานสนุกขึ้น

Apple เปิดตัวอุปกรณ์เสริมตัวใหม่มาพร้อมกับ iPad รุ่นที่ 10 คือ Smart Keyboard Folio เป็นคีย์บอร์ดที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ iPad รุ่นที่ 10 โดยเฉพาะ หลังจากที่ผู้เขียนได้ทดลองใช้งานดูแล้ว รู้สึกชอบคีย์บอร์ดตัวนี้มาก ๆ เพราะเลย์เอาท์ของแป้นพิมพ์เหมือนกับคีย์บอร์ดที่อยู่บนเครื่อง Mac เลย มีปุ่มฟังก์ชัน และมี trackpad มาให้ด้วย เรียกได้ว่าใส่มาให้ครบและสะดวกต่อการใข้งานมาก ๆ

และที่สำคัญคือสามารถแยกชิ้นส่วนการใช้งานได้ด้วย เวลาที่ไม่ได้ใช้งานแป้นพิมพ์ก็สามารถถอดแป้นพิมพ์ออกแล้วใช้แค่ตัวฝาหลัง iPad ที่สามารถปรับระดับการวางได้ แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือ ราคาของ Smart Keyboard Folio นั้นค่อนข้างสูง แต่ถ้าใครอยากซื้อ iPad มาแล้วใช้งานแบบครบ ๆ ก็ลงทุนซื้อคู่กันได้เลย

8. ใช้งานร่วมกับ iPadOS 16 ได้เจ๋งมาก

iPad รุ่นที่ 10 สามารถใช้งานร่วมกับ iPadOS 16 ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นฟีเจอร์ Scribble ภาษาไทย หรือแอป Freeform ที่ iPad รุ่นที่ 10 ก็สามารถใช้งานได้ ผู้เขียนได้ทดลองใช้งานจริงแล้วก็รู้สึกว่าแอป Freeform ถือว่าตอบโจทย์วัยนักเรียนนักศึกษามาก ๆ เวลาที่จะประชุมงาน หรือต้องการโยนไอเดียต่าง ๆ ก็สามารถเข้ามาเพิ่มไอเดียของตัวเองทิ้งไว้ได้เลย คนอื่นก็ดูไอเดียของเราแบบ Realtime ได้ด้วย

9. ลากวางไฟล์ด้วย Universal Control

แม้ iPad รุ่นที่ 10 จะไม่รองรับฟีเจอร์ Stage Manager แต่ก็ยังสามารถใช้งานฟีเจอร์ Universal Control ได้ โดยผู้เขียนได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ Universal Control ใน iPad รุ่นที่ 10 ด้วยการลากไฟล์ที่วาดเสร็จแล้วใน Procreate จาก iPad ไปวางบน Mac ก็ทำได้ดีเลย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

10. สรุปแล้วควรซื้อ iPad Gen 10 ดีไหม?

ในจุดนี้อาจจะต้องดูจากปัจจัยอื่น ๆ ของแต่ละคนเพื่อประกอบในการตัดสินใจซื้อ ทั้งเรื่องสเปกการใช้งาน รวมถึงงบประมาณของแต่ละคน แต่ส่วนตัวของผู้เขียนหลังจากที่ได้ทดลองใช้งานดูแล้วรู้สึกว่า iPad Gen 10 ก็ถือเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจสำหรับการปรับเปลี่ยนดีไซน์ต่าง ๆ สามารถเข้าไปอ่านรีวิวฉบับเต็มของ iPad Gen 10 รวมถึงการเปรียบเทียบสเปกกับรุ่นอื่นได้ที่นี่

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Pornpimol Kulab

Faculty of Mass Communication,
Chiangmai University