in , , , , , ,

คาดการณ์สิ่งใหม่ ที่คาดว่าจะได้เห็นในงาน WWDC 2025

หลายคนคงทราบดีแล้วว่างาน WWDC (Worldwide Developers Conference) หรืองานประชุมนักพัฒนาซอฟต์แวร์ของ Apple นั้นจะมีการเปิดตัวระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ และในปีนี้ WWDC 2025 “Sleek Peek.” มีข่าวลือว่า Apple จะเน้นการปรับดีไซน์ครั้งใหญ่และมีสิ่งใหม่อีกมากมาย เรามาชมกันว่าสิ่งที่คาดว่าจะได้เห็นในงานนี้มีอะไรบ้าง

คาดการณ์สิ่งใหม่ ที่คาดว่าจะได้เห็นในงาน WWDC 2025

iOS 26

ชื่อและดีไซน์ใหม่

  • คาดว่าจะใช้ชื่อ iOS 26 โดย Apple จะเปลี่ยนเลขเวอร์ชันเป็น 26 เพื่อให้ทุกระบบปฏิบัติการของ Apple สอดคล้องกัน โดยใช้เลขเดียวกันทั้งหมด เช่น iPadOS 26, watchOS 26, macOS 26, tvOS 26 และ OS อื่น ๆ ที่เปิดตัวในปีนี้
  • ยกเครื่องดีไซน์แบบ Solarium ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS โดยจะเน้นดีไซน์แบบ “กระจก” ให้ความโปร่งแสง, เมนูต่าง ๆ ดูลอยตัว รวมถึงไอคอนและปุ่มมีความโค้งมนมากขึ้น
  • ปรับปรุงการใช้งานโดยรวมให้เรียบง่าย ใช้งานง่าย และสอดคล้องกันทุกอุปกรณ์

Apple Intelligence และ Siri

  • จัดการแบตเตอรี่ด้วย AI โดย AI จะช่วยวิเคราะห์การใช้งานเพื่อยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนานที่สุด
  • Shortcuts ฉลาดขึ้น แอปคำสั่งลัดจะทำงานร่วมกับ AI ได้ดีขึ้นและสั่งการด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติมากขึ้น
  • อาจรองรับ Gemini มีโอกาสที่ Siri จะสามารถเลือกใช้ Gemini AI จาก Google ได้ นอกเหนือจาก ChatGPT
  • Siri โฉมใหม่อาจเปิดตัวภายหลัง เช่น ฟีเจอร์ Personal Context อาจเปิดให้ใช้งานจริงไม่ทันในงาน WWDC25 และอาจเลื่อนไปเป็นปี 2026

แอปใหม่และอัปเดตแอปเดิม

  • คาดว่าจะมีแอป Games ใหม่มาแทนที่ Game Center เป็นศูนย์รวมเกม มีฟีเจอร์โซเชียล และอื่น ๆ
  • แอป Messages อาจเพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาอัตโนมัติ และสร้างโพลในห้องแชทได้
  • แอป Music อาจเพิ่มการแสดงปกอัลบั้มเพลงแบบเต็มหน้าจอ บนหน้าจอล็อก
  • แอป Notes จะรองรับการจัดรูปแบบข้อความขั้นสูง (Markdown)

ฟีเจอร์ใหม่สำหรับ AirPods

  • ควบคุมด้วยท่าทาง: เพิ่มท่าทางศีรษะแบบใหม่สำหรับควบคุมเสียง
  • หยุดเล่นเพลงเมื่อหลับ: AirPods จะหยุดเล่นเสียงเองอัตโนมัติหากผู้ใช้หลับ โดยใช้ข้อมูลจาก Apple Watch
  • ใช้เป็นรีโมทถ่ายรูปได้: โดยใช้ก้านหูฟังเป็นปุ่มชัตเตอร์กล้องได้
  • แปลภาษาสด: สามารถแปลเสียงพูดของคู่สนทนาเป็นภาษาอื่นให้เราได้ยินในหูฟังแบบเรียลไทม์
  • ไมโครโฟนคุณภาพสตูดิโอ: ปรับปรุงคุณภาพไมค์ให้ดีขึ้นมาก ๆ
  • การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์การจับคู่ระหว่าง AirPods กับ iPad เมื่อใช้งานร่วมกันหลายคน เช่นในห้องเรียน สามารถเชื่อมต่อและสลับการใช้งานทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

Apple CarPlay

  • ดีไซน์ Apple CarPlay บนรถยนต์แบบใหม่ คล้ายกระจกโปร่งแสง ไอคอนแอป เมนู และปุ่มต่าง ๆ มีความโปร่งใสและดูสวยงามทันสมัยยิ่งขึ้น สอดคล้องกับดีไซน์ใหม่ของ iOS 26 บน iPhone
  • เพิ่มฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ ได้แก่
    • ระบบตรวจจับเสียงเด็กร้อง: ฟีเจอร์การรับรู้เสียง (Sound Recognition) ที่มีอยู่เดิมใน iOS 18 ซึ่งสามารถแจ้งเตือนผู้ขับขี่ที่อาจมีปัญหาทางการได้ยินเมื่อมีเสียงแตรรถหรือเสียงไซเรนจากรถฉุกเฉิน จะได้รับการพัฒนาใน iOS 26 โดยจะเพิ่มความสามารถในการตรวจจับและแจ้งเตือนเมื่อได้ยินเสียงทารกร้องไห้จากภายในรถ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ปกครองหรือผู้ดูแล
    • ตัวเลือกอักษรขนาดใหญ่: เพื่อให้การมองเห็นข้อมูลบนหน้าจอทำได้ง่ายและชัดเจนขึ้น Apple จะเพิ่มตัวเลือก “ข้อความขนาดใหญ่” เข้ามาใน CarPlay ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีอยู่แล้วบน iPhone ช่วยให้ผู้ขับขี่อ่านข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยยิ่งขึ้นขณะขับรถ

ที่มา macrumors

ฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ

  • มี Stage Manager บน iPhone: อาจทำให้ iPhone (รุ่น USB-C) ต่อจอนอกและเปิดหลายแอปพร้อมกันได้เหมือน iPad และ Mac
  • ซิงค์ Wi-Fi สาธารณะ เช่น โรงแรมหรือสนามบิน โดยล็อกอิน Wi-Fi ที่ต้องเข้าหน้าเว็บครั้งเดียว ข้อมูลจะซิงค์ไปทุกอุปกรณ์ Apple ทันที
  • แอปสุขภาพใหม่: อาจมีแอปสุขภาพเวอร์ชันใหม่ที่ใช้ AI วิเคราะห์และให้คำแนะนำ พร้อมฟีเจอร์ติดตามโภชนาการ (อาจมาไม่ทัน iOS 26)
  • การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา Apple ประกาศฟีเจอร์ใหม่ ๆ มากมาย เช่น แอปแว่นขยายสำหรับ Mac, คำบรรยายสดบน Apple Watch และการซูมสภาพแวดล้อมที่คมชัดขึ้นบน Vision Pro ซึ่งจะถูกใส่เข้ามาใน iOS 26 ด้วย

iPadOS 26

มี Menu Bar แบบ Mac

  • อาจจะมีการเพิ่มแถบเมนู (Menu Bar) สไตล์เดียวกับบน macOS เพื่อให้ iPad ทำงานได้สะดวกและจริงจังมากขึ้น
  • คาดว่า Menu Bar นี้จะแสดงขึ้นมาเอง เมื่อเชื่อมต่อ iPad กับ Magic Keyboard และน่าจะเรียกใช้งานผ่านจอสัมผัสได้ด้วย

Stage Manager 2.0

  • แก้ปัญหา Multitasking เดิม โดยปรับปรุงระบบครั้งใหญ่ในชื่อ Stage Manager 2.0
  • Stage Manager 2.0 นี้มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาของเวอร์ชันเดิม ทำให้ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Siri ฉลาดขึ้นด้วย AI

  • อัปเกรดใหญ่: Siri จะได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่ ทำให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นมาก
  • เก่งขึ้นรอบด้าน: สามารถทำงานข้ามแอปได้, เข้าใจสิ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอ และฉลาดขึ้นตามข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้

ดีไซน์ใหม่สไตล์ visionOS

  • ยกเครื่องดีไซน์ใหม่: ปรับปรุงหน้าตาโดยรวมให้ทันสมัย สอดคล้องกับ iOS 26 โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS
  • เอฟเฟกต์กระจก: จะมีการใช้เอฟเฟกต์ “กระจก”กับส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบ เพื่อให้ดูสวยงามและสอดคล้องกัน

เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับ Apple Pencil

  • iPadOS 26 จะเพิ่มหัวแปรงเสมือนจริง ชื่อว่า ปากกาหัวตัด (Reed Calligraphy) สำหรับ Apple Pencil
  • เลียนแบบของจริง: จำลองการเขียนจากปากกา Qalam ซึ่งเป็นปากกาสำหรับอักษรวิจิตรแบบดั้งเดิมของอาหรับ
  • คุณสมบัติเด่น: สามารถสร้างลายเส้นที่มี ความหนา-บาง แตกต่างกันไปอย่างสวยงามและเป็นเอกลักษณ์
  • ฟีเจอร์ปากกาหัวตัดนี้ สร้างขึ้นเพื่อเอาใจผู้ใช้งานในกลุ่มประเทศอาหรับ, อินเดีย และผู้ที่ชื่นชอบงานเขียนอักษรวิจิตรทั่วโลก
  • ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าฟีเจอร์นี้จะใช้ได้เฉพาะบน Apple Pencil Pro รุ่นล่าสุดเท่านั้น หรือจะรองรับ Apple Pencil รุ่นอื่นด้วย

ที่มา 9to5mac, 9to5mac

watchOS 26

การตั้งชื่อและดีไซน์ใหม่

  • คาดว่าใช้ชื่อ watchOS 26 เพื่อให้สอดคล้องกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ
  • ดีไซน์ใหม่ Solarium ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS เน้นความโปร่งแสงคล้ายกระจก ทำให้ส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าจอแจ้งเตือน และ Control Center มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัยและสอดคล้องกันมากขึ้น
  • คาดว่าจะมีการเพิ่มหน้าปัดนาฬิกาดีไซน์ใหม่ ๆ เพื่อให้เข้ากับสไตล์ที่เปลี่ยนไป

รองรับวิดเจ็ต (Widgets) จากแอปอื่น ๆ

รายงานเผยว่าให้นักพัฒนาสามารถสร้างวิดเจ็ตสำหรับแอปของตนเองเพื่อนำไปไว้ใน Control Center ของ Apple Watch ได้เป็นครั้งแรก จากเดิมที่พื้นที่ส่วนนี้จะจำกัดอยู่แค่ปุ่มควบคุมพื้นฐานของ Apple เท่านั้น เช่น ปุ่มเปิด-ปิด Wi-Fi, ดูเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ หรือโหมดโฟกัส

การรองรับวิดเจ็ตที่กว้างขึ้นนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือเรียกใช้คำสั่งด่วนจากแอปโปรดของตนเองได้โดยตรงจาก Control Center

นอกจากการเพิ่มวิดเจ็ตใหม่ ๆ ได้แล้ว รายงานยังเผยว่า ผู้ใช้งานจะสามารถปรับแต่งหน้าตาของ Control Center ได้อย่างอิสระและง่ายดายกว่าเดิมมาก โดยจะสามารถทำได้ผ่านแอป Watch บน iPhone

ผู้ใช้จะสามารถเพิ่ม ลบ หรือจัดเรียงลำดับวิดเจ็ตต่าง ๆ ใน Control Center ได้ตามใจชอบ ต่างจากวิธีปัจจุบันที่ต้องแก้ไขบนหน้าปัดนาฬิกาโดยตรงซึ่งไม่ค่อยสะดวกนัก เนื่องจากหน้าจอเล็กกว่า

ที่มา 9to5mac

ฟีเจอร์อัจฉริยะ (AI) และการเชื่อมต่อ

  • พึ่งพา AI จาก iPhone: จะได้รับฟีเจอร์ “ขับเคลื่อนโดย Apple Intelligence” ผ่านการเชื่อมต่อกับ iPhone เช่น ระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะเพื่อยืดอายุการใช้งาน
  • อาจรองรับ Siri ที่เก่งขึ้น: ในอนาคตอาจได้ใช้ Siri ที่ทำงานร่วมกับ ChatGPT หรือฟีเจอร์สรุปการแจ้งเตือนได้
  • หยุดเพลงเมื่อหลับ: ทำงานร่วมกับ AirPods เพื่อตรวจจับเมื่อผู้ใช้หลับ และสั่งให้หยุดเล่นเพลงหรือสื่อต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ

ฟีเจอร์สุขภาพและฟิตเนส

  • ฟีเจอร์โค้ชสุขภาพ AI: แอปสุขภาพ (Health) จะมี AI คอยให้คำแนะนำด้านสุขภาพและการออกกำลังกายแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้ข้อมูลจาก Apple Watch
  • ฟีเจอร์ติดตามข้อมูลการทานอาหาร: เพิ่มการบันทึกอาหารที่รับประทานในแต่ละวันผ่านนาฬิกาได้อย่างสะดวก
  • วัดความดันโลหิต: อาจเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบ “ภาวะความดันโลหิตสูง” (แต่ยังไม่แสดงค่าตัวเลขที่ชัดเจน) ในงาน WWDC 2025 นี้อาจเผยโฉมให้ชม แต่อาจจะเปิดให้ใช้งานเป็นทางการภายหลัง
  • นับครั้งยกเวท: มีแนวโน้มที่จะเพิ่มฟีเจอร์นับจำนวนครั้งในการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งได้ในตัว โดยไม่ต้องพึ่งแอปอื่น
  • ตรวจจับการจมน้ำ: Apple ได้จดสิทธิบัตรฟีเจอร์ตรวจจับการจมน้ำ ซึ่งอาจถูกเพิ่มเข้ามาเป็นฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ในอนาคต

ที่มา macrumors

macOS 26

การเปลี่ยนชื่อและเลขเวอร์ชันใหม่

  • ใช้ชื่อ macOS 26: Apple จะข้ามจาก macOS 15 ไปเป็น macOS 26 เพื่อให้เลขเวอร์ชันตรงกับระบบปฏบัติการอื่น ๆ (iOS 26, iPadOS 26) ที่เปิดตัวในปี 2025 สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันและลดความสับสนของตัวเลขในแต่ละระบบปฏบัติการ
  • ชื่อเรียกอาจเป็น Tahoe: มีข่าวลือว่า Apple อาจเลือกใช้ชื่อ Tahoe ซึ่งเป็นชื่อทะเลสาบในรัฐแคลิฟอร์เนีย

การปรับปรุงดีไซน์ครั้งใหญ่

  • ได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS: ดีไซน์ใหม่จะเน้นความโปร่งแสง, มีมิติความลึก, และองค์ประกอบต่าง ๆ จะมีความโค้งมนมากขึ้น เช่น ไอคอนแอป, หน้าต่าง และปุ่มต่าง ๆ
  • ดูคล้ายกระจกฝ้า: จะมีการใช้ความโปร่งแสงมากขึ้นในส่วนต่าง ๆ เช่น หน้าต่างแอป, เมนู เพื่อให้ดูทันสมัยและสอดคล้องกับดีไซน์ของ iOS 26
  • เมนูอาจเป็นแบบลอยตัว: อาจมีการปรับปรุงแถบเมนูให้ดูมีมิติและลอยตัวมากขึ้น

Apple Intelligence ที่ฉลาดกว่าเดิม

  • Shortcuts ฉลาดขึ้น: แอป Shortcuts จะทำงานร่วมกับ Apple Intelligence ช่วยให้ผู้ใช้ทั่วไปสร้างคำสั่งลัดที่ซับซ้อนได้ง่ายขึ้น
  • Siri อาจรองรับ Gemini: อาจมีการเปิดให้ Siri ใช้งาน Gemini ที่เป็น AI ของ Google ได้ นอกเหนือจาก ChatGPT
  • ฟีเจอร์ Siri ส่วนบุคคล: ฟีเจอร์ที่เคยประกาศไปแล้ว เช่น การให้ Siri เข้าใจบริบทจากอีเมล รวมถึงฟีเจอร์ Personal Context และ Onscreen Awareness คาดว่าจะพร้อมใช้งานในเวอร์ชันนี้

แอปเกม (Games App) ใหม่

  • ศูนย์รวมเกมที่เดียว: Apple กำลังพัฒนาแอป Games ใหม่เพื่อเป็นศูนย์รวมสำหรับเกมทั้งหมด ทั้งจาก App Store, Apple Arcade และเกมนอก App Store
  • แอป Games นี้จะแทนที่ Game Center: แอปนี้จะมาพร้อมฟีเจอร์ครบครันกว่าเดิม เช่น ตารางคะแนน, รางวัลความสำเร็จ และฟีเจอร์โซเชียล

ฟีเจอร์ใหม่อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

  • แว่นขยาย (Magnifier): ใช้กล้อง iPhone เป็นแว่นขยายบนหน้าจอ Mac ได้
  • ลดอาการเมารถ (Vehicle Motion Cues): ฟีเจอร์จุดบนหน้าจอเพื่อช่วยลดอาการเมารถ/เมาเครื่องบิน จะถูกนำมาใส่ใน Mac ด้วย
  • ซิงค์ Wi-Fi โรงแรม/สนามบิน: ล็อกอิน Wi-Fi ที่ต้องเข้าหน้าเว็บ (Captive Portal) บนอุปกรณ์เดียว ข้อมูลจะซิงค์ไปยังอุปกรณ์ Apple อื่น ๆ ทั้งหมดโดยอัตโนมัติ

tvOS 26

การเปลี่ยนแปลงหลัก

  • ใช้ชื่อ tvOS 26: Apple จะเปลี่ยนเลขเวอร์ชันจาก 18 เป็น 26 เพื่อให้สอดคล้องกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ (iOS 26, macOS 26) ที่จะเปิดตัวในปีนี้
  • ดีไซน์ใหม่สไตล์ visionOS: หน้าตาโดยรวมจะดูทันสมัยขึ้น โดยได้รับแรงบันดาลใจจาก visionOS เน้นความโปร่งแสงคล้ายกระจก, มีเมนูแบบลอยตัว และส่วนประกอบต่าง ๆ จะมีความโค้งมนมากขึ้น
  • ภาพพักหน้าจอใหม่: คาดว่าจะมีภาพพักหน้าจอแบบมุมมองทางอากาศ (Aerial) และแบบอื่น ๆ ที่เข้ากับดีไซน์ใหม่เพิ่มเข้ามา

ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ

  • แอป Games ใหม่: จะมีแอปสำหรับเกมโดยเฉพาะ เป็นศูนย์รวมเกมทั้งจาก App Store และ Apple Arcade พร้อมฟีเจอร์อย่างตารางคะแนน และรางวัลความสำเร็จ
  • ซิงค์ Wi-Fi โรงแรม/สนามบิน: หากล็อกอิน Wi-Fi ที่ต้องเข้าหน้าเว็บ (เช่น Wi-Fiโรงแรม, สนามบิน, มหาวิทยาลัย) บน iPhone หรืออุปกรณ์อื่นครั้งเดียว Apple TV ก็จะเชื่อมต่อให้เองอัตโนมัติ ไม่ต้องกรอกรหัสผ่านซ้ำ
  • แนะนำภาพยนตร์และซีรีส์ได้ดีขึ้น: อาจใช้ AI ช่วยเรียนรู้ความชอบของผู้ใช้ เพื่อแนะนำเนื้อหาที่น่าสนใจได้แม่นยำกว่าเดิม
  • Siri อาจเก่งขึ้นในอนาคต: หาก Siri ได้รับการอัปเดตใหญ่ด้วย Apple Intelligence ก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้ใช้งานบน Apple TV ด้วย
ที่มา macrumors

visionOS 26

ถึงแม้ว่า visionOS จะไม่ใช่แพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Apple แต่ก็จะได้รับฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่จะช่วยให้ประสบการณ์การใช้งาน Vision Pro ดียิ่งขึ้น

ภาพรวมและฟีเจอร์หลัก

  • ใช้ชื่อ visionOS 26: Apple จะข้ามจาก visionOS 2 ไปเป็นเวอร์ชัน 26 เพื่อให้เลขเวอร์ชันตรงกับระบบปฏิบัติการอื่น ๆ (iOS 26, macOS 26) ที่จะเปิดตัวในปีนี้
  • เลื่อนจอด้วยสายตา (Eye-Scrolling): เพิ่มวิธีควบคุมใหม่ แค่มองก็สามารถเลื่อนหน้าเว็บหรือแอปต่าง ๆ ได้ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากฟีเจอร์ติดตามสายตาที่มีอยู่แล้ว
  • ดีไซน์ปรับปรุงเล็กน้อย: จะมีการปรับปรุงหน้าตาเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ดูดียิ่งขึ้น

Apple Intelligence และแอปใหม่

  • รับฟีเจอร์ AI: จะได้รับฟีเจอร์ Apple Intelligence จาก iOS 26 เช่น ระบบจัดการแบตเตอรี่อัจฉริยะ ซึ่งเหมาะกับ Vision Pro ที่ต้องพึ่งพาแบตเตอรี่
  • Siri ฉลาดขึ้นมาก: ในอนาคต Siri จะสามารถเข้าใจสิ่งที่เรามองเห็นบนจอ และเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว (อีเมล, ไฟล์) เพื่อช่วยงานได้ดีขึ้น
  • แอป Games ใหม่: จะมีแอปสำหรับเกมโดยเฉพาะ เป็นศูนย์รวมเกมทั้งจาก App Store และ Apple Arcade พร้อมฟีเจอร์ของ Game Center

การช่วยการเข้าถึง (Accessibility) สำหรับผู้มีปัญหาการมองเห็น

  • Zoom: ใช้กล้องหลักของแว่นเป็นแว่นขยาย สำหรับส่องดูวัตถุต่าง ๆ ได้
  • Live Recognition: ให้ AI ช่วยอธิบายสภาพแวดล้อมรอบตัว, ค้นหาวัตถุ หรืออ่านเอกสารให้ฟัง
  • สำหรับผู้มีปัญหาการเคลื่อนไหว: จะรองรับเทคโนโลยีควบคุมอุปกรณ์ด้วยสัญญาณสมอง (Brain-Computer Interfaces) เป็นครั้งแรก
ที่มา macrumors

homeOS

มีข่าวลือว่า Apple กำลังซุ่มพัฒนาระบบปฏิบัติการใหม่สำหรับอุปกรณ์ภายในบ้านในชื่อ homeOS หลังจากมีการค้นพบเบาะแสสำคัญหลายอย่าง ซึ่งอาจเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กลุ่ม Smart Home ชิ้นใหม่ของ Apple ในอนาคต

  • การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า: บริษัท Home Operations Suite LLC ซึ่งเชื่อว่าเป็นบริษัทบังหน้าของ Apple ได้ยื่นจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า HOMEOS ในหลายประเทศตั้งแต่ปลายปี 2024
  • เบาะแสที่เชื่อมโยงถึง Apple: วิธีการจดทะเบียนผ่านบริษัทบังหน้าคล้ายกับกรณีของ visionOS ก่อนการเปิดตัว Apple Vision Pro นอกจากนี้ยังมีการพบชื่อ homeOS ในโค้ดของ tvOS และในประกาศรับสมัครงานของ Apple
  • อุปกรณ์ใหม่ที่คาดว่าจะมาพร้อมกัน: มีข่าวลือว่า Apple กำลังพัฒนา Smart Hub รุ่นใหม่ ที่เป็น HomePod ซึ่งมีหน้าจอคล้าย iPad ติดอยู่ สามารถถอดจอไปติดผนังได้ และคาดว่าจะทำงานด้วยระบบ homeOS
  • อาจเปิดตัวภายหลัง: การเปิดตัวอุปกรณ์ Smart Hub และ homeOS อาจถูกเลื่อนออกไปพร้อมกับการเปิดตัว Siri โฉมใหม่ที่ทำงานร่วมกับ Apple Intelligence ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญของอุปกรณ์
  • ลุ้นพรีวิวในงาน WWDC 2025: แม้จะมีการเลื่อนเปิดตัว แต่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่ Apple อาจจะนำตัวอย่างของ homeOS หรืออุปกรณ์ Smart Hub มาแสดงให้ชมในงาน WWDC ที่กำลังจะมาถึงนี้

สินค้าใหม่ที่อาจจะเซอร์ไพรส์เปิดตัวในงาน WWDC 2025

ถึงแม้ว่าข่าวลือส่วนใหญ่จะมุ่งเน้นไปที่เรื่องซอฟต์แวร์เป็นหลัก และโดยปกติแล้วงาน WWDC ก็เป็นงานที่เน้นการเปิดตัวซอฟต์แวร์เป็นสำคัญ แต่ก็ยังมีฮาร์ดแวร์ 3 ชนิดที่อาจเปิดตัวแบบเซอร์ไพรส์ในงานนี้ ได้แก่

1. Mac Pro: คอมพิวเตอร์ Mac รุ่นท็อปสุดสำหรับมืออาชีพ

ในอดีต Apple เคยนำ Mac Pro รุ่นใหม่มาโชว์ตัวอย่างในงาน WWDC ก่อนที่จะวางจำหน่ายจริงในช่วงปลายปี และเนื่องจาก Mac Pro ยังไม่เคยได้รับการออกแบบใหม่เลยนับตั้งแต่เปลี่ยนมาใช้ชิป Apple Silicon งาน WWDC จึงเป็นเวทีที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเผยโฉมดีไซน์ใหม่

2. HomePad: อุปกรณ์ลำโพงอัจฉริยะพร้อมหน้าจอ

HomePad หรือลำโพงอัจฉริยะพร้อมหน้าจอ ก็มีเหตุผลหลายอย่างที่อาจทำให้สินค้าใหม่ชิ้นนี้ถูกเปิดตัวในงานนี้ สอดคล้องกับข่าวลือเกี่ยวกับการมาของระบบปฏิบัติการสำหรับบ้านอย่าง homeOS ที่อาจทำงานร่วมกับอุปกรณ์สมาร์ตโฮมใหม่ ก็ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นสินค้าใหม่ถูกเปิดตัวหรือ Demo ให้ชมในงานนี้ด้วย (แต่การเปิดตัว homeOS ใหม่ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องมาพร้อมกับสินค้าใหม่เสมอไป รอลุ้นกันในงาน!)

3. AirTag 2: อุปกรณ์ติดตามสิ่งของรุ่นที่สอง

ท้ายสุดคือ AirTag 2 ซึ่งมีข่าวลือมานานว่าจะเปิดตัวในช่วงกลางปี 2025 แม้ว่า AirTag อาจดูเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ค่อยสอดคล้องกับงานประชุมนักพัฒนามากนัก แต่ คนส่วนใหญ่ที่ติดตามข่าวสารงาน WWDC ก็ไม่ได้เป็นนักพัฒนาเสมอไป ไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นการเปิดตัว AirTag รุ่นใหม่ในงานนี้

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข่าวลือที่น่าเชื่อถือและยืนยันได้ว่า สินค้าใหม่ดังกล่าวหรือฮาร์ดแวร์อื่น ๆ จะเปิดตัวในงาน WWDC แต่เนื่องจากงาน WWDC น่าจะเป็นงานอีเวนต์ใหญ่ครั้งสุดท้ายของ Apple ก่อนการเปิดตัว iPhone 17 ในช่วงปลายปีนี้ จึงมีความเป็นไปได้พอสมควรที่บริษัทอาจมีสินค้าใหม่มาเปิดตัวเซอร์ไพร์ สร้างความประหลาดใจให้กับแฟน ๆ

พบกัน! วันจันทร์ที่ 9 มิ.ย. 2025

และนี่ก็เป็นสิ่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน WWDC 2025 ที่รวบรวมจากข่าวลือและการคาดการณ์จากช่วงที่ผ่านมา งาน WWDC 2025 จะจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 9 ย่างเข้าวันที่ 10 มิ.ย. 2025 นี้ (ตามเวลาประเทศไทย) ก็รอติดตามไปพร้อม ๆ กันว่าในปีนี้ ระบบปฏบัติการของ Apple จะมีอะไรใหม่บ้าง

สามารถรับชมการถ่ายทอดสด พร้อมบรรยายภาษาไทยกับทีมงาน iMoD ได้ที่ Facebook Page: iMoD ในคืนวันที่ 9 มิ.ย. 2025 เวลา 23:30 น. เป็นต้นไป พร้อมติดตามข่าวสารอัปเดตแบบเรียลไทม์ได้ที่เว็บไซต์ https://www.iphonemod.net/

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University