Saktaphat Kordjan
Samsung เตรียมอัปเดตแอป Game Booster ครั้งใหญ่สำหรับ One UI 8 โดยมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่มากมาย เช่น ระบบสั่นแบบ 4D, ตัวเปลี่ยนเสียง และฟีเจอร์อื่น ๆ อีกหลากหลาย ที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การเล่นเกมให้สมจริงและสนุกยิ่งขึ้น
One UI 8 เตรียมอัปเดตฟีเจอร์ Game Booster ครั้งใหญ่
แอป Game Booster ของ Samsung ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับเกมเมอร์สายฮาร์ดคอร์บนมือถือ โดยช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ในการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่
แม้ว่าแอปจะมีฟีเจอร์ให้ปรับแต่งมากมายอยู่แล้ว ทั้งในด้านประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงาน แต่ล่าสุด Samsung ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาอีกเพียบ
โดยในการอัปเดตครั้งใหญ่ (เวอร์ชัน 7.0.51.13) ซึ่งคาดว่าเตรียมไว้สำหรับ One UI 8 แอป Game Booster ได้รับการเสริมด้วยฟีเจอร์ใหม่มากกว่า 10 รายการ ซึ่งถูกเปิดเผยครั้งแรกโดยผู้ใช้ X (ชื่อเดิม Twitter) ที่ชื่อว่า Galaxy Techie ฟีเจอร์ใหม่เหล่านี้ได้แก่
- AI Mute – ปิดเสียงรบกวนด้วยระบบ AI
- รองรับไมโครโฟน Bluetooth
- Game Sound – ปรับแต่งเสียงเกม
- Dash notifications – แจ้งเตือนแบบกะทัดรัด
- Game Controller – รองรับการเชื่อมต่อคอนโทรลเลอร์
- Max Boost – ดันประสิทธิภาพสูงสุด
- Respawn Timer – ตัวจับเวลาการเกิดใหม่
- Super Microphone – ปรับปรุงคุณภาพเสียงไมค์
- Virtual Gamepad – ปุ่มควบคุมเกมเสมือนจริง
- Voice Changer – เปลี่ยนเสียงพูด
- 4D Vibration – ระบบสั่นสมจริงแบบ 4 มิติ
การอัปเดตนี้ทำให้ Game Booster กลายเป็นเครื่องมือที่ครบเครื่องยิ่งขึ้น และช่วยยกระดับการเล่นเกมบนสมาร์ตโฟน Galaxy ให้เหนือกว่าเดิมอีกขั้น รายละเอียดของแต่ละฟีเจอร์มีดังนี้
Max Boost
ถ้าได้อัปเดตแอป Game Booster แล้ว ฟีเจอร์ใหม่อย่างแรกที่คุณจะเห็นเมื่อเปิดแอปคือ “Max Boost” ซึ่งจะแสดงเป็นสวิตช์ให้เปิด-ปิดที่ด้านล่างของหน้าต้อนรับ แอปไม่ได้อธิบายอย่างชัดเจนว่าฟีเจอร์นี้ทำอะไร แต่มีข้อความเตือนว่า “ในบางเกม โทรศัพท์ของคุณอาจใช้แบตเตอรี่มากขึ้นหรือร้อนขึ้นกว่าปกติ” ซึ่งน่าจะหมายความว่าเมื่อเปิดฟีเจอร์นี้ การตั้งค่าของโทรศัพท์จะถูกปรับให้เน้นที่ประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อเล่นเกมได้เต็มที่
Respawn Timer และ Game Sound
เมื่อเข้าไปในหน้าการตั้งค่า จะพบฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Game Sound” และ “Respawn Timer” โดยจากคำอธิบาย Respawn Timer จะแสดงตัวจับเวลาลอยบนหน้าจอ เพื่อให้รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหนก่อนจะกลับมาเล่นเกมได้อีกครั้ง
ส่วน Game Sound ก็ทำงานตามที่คาดไว้ คือให้คุณควบคุมว่าจะได้ยินเสียงเกมหรือไม่ แต่ยังมีตัวเลือก “AI Mute” ที่ช่วยให้เครื่องตรวจจับหน้าจอเกม และจัดการปิดเสียงหรือคืนเสียงอัตโนมัติเมื่อเปิดเกม โดยคาดว่า AI Mute จะปิดเสียงเกมเมื่อระบบตรวจพบว่าคุณอยู่ในเกมแต่ไม่ได้เล่นจริง ๆ
Dash Notifications, Super Microphone และ Voice Changer
ถ้าแตะที่ส่วน “Reorder tools” ในหน้าการตั้งค่า จะเจอฟีเจอร์ใหม่ 3 อย่างรอคุณอยู่ อย่างแรกคือ “Dash Notifications” ซึ่งคำอธิบายของฟีเจอร์นี้คือ “ติดตามข่าวสารขณะเล่นเกมโดยมีการแจ้งเตือนที่หายไปหลังจากเลื่อนผ่านหน้าจอ”
ฟีเจอร์นี้จะทำให้การแจ้งเตือนปรากฏขึ้นแบบโปร่งแสงในกรอบรูปเม็ดถั่วที่เลื่อนผ่านหน้าจอก่อนจะหายไป และคุณยังสามารถปรับความเร็วและความโปร่งใสของการแจ้งเตือนได้เอง
Super Microphone มีตัวเลือกให้ใช้ 2 แบบ ได้แก่
- Always Keep Mic Available In Game: ช่วยให้สามารถใช้ไมโครโฟนสำหรับเล่นเกมได้ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีแอปพลิเคชันอื่น ๆ กำลังใช้งานไมโครโฟนอยู่ด้วย
- Switch Bluetooth Mic On: เปิดใช้งานไมโครโฟนของอุปกรณ์ Bluetooth ที่เชื่อมต่อ เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงในการโทรศัพท์หรือแชทด้วยเสียง
Voice Changer
ช่วยให้คุณเปลี่ยนเสียงพูดของตัวเองได้ มีเสียงให้เลือกหลายแบบ เช่น เด็กผู้หญิงตัวเล็ก, ผู้ชายวัยกลางคน, เสียงสยองขวัญแนวไซไฟ, เสียงล่องลอยเหนือจริง, เสียงสั่นเครือ, เสียงโทรศัพท์แบบ Lo-fi, เด็กทารก และเสียงหุ่นยนต์
ในบันทึกการอัปเดตยังได้ระบุการเพิ่มฟีเจอร์อย่าง “Game Controller”, “Virtual Gamepad” และ “4D Vibration” ด้วย แต่ดูเหมือนว่าฟีเจอร์เหล่านี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ในขณะนี้ และยังไม่แน่ชัดว่าฟีเจอร์เหล่านี้จำเป็นต้องติดตั้ง One UI 8 ก่อนหรือไม่
อย่างไรก็ตาม การอัปเดตครั้งนี้ถือว่าเป็นการอัปเดตที่มีความใหญ่โตและครบครัน ช่วยให้เกมเมอร์สามารถปรับแต่งประสบการณ์การเล่นเกมบนอุปกรณ์ Galaxy ได้อย่างหลากหลายและเต็มที่มากขึ้นกว่าเดิม
ทั้งหมดนี้ ถือว่าน่าสนใจมาก หากอัปเดตให้ใช้งานจริงแล้ว ผู้ใช้งานหลายคนน่าจะมีประสบการร์การเล่นเกมที่ดีขึ้นไม่มากก็น้อย รอใช้งานจริงได้ใน One UI 8 ที่อาจจะมาพร้อม Galaxy Z Series 7 ที่ใกล้จะถึงนี้
ที่มา: androidauthority
