รีวิว : iPhone4 สีขาว (พร้อมข้อเสนอสุดพิเศษจาก AIS)

สำหรับวินาทีนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า iPhone4 คือโทรศัพท์มือถือที่มาแรง และยอดนิยมในปัจจุบัน (แรงไม่แรงล่ะ มีเว็บไซต์สำหรับโมดิฟายไอโฟนโดยเฉพาะด้วย) มองไปทางไหนก็จะเห็นแต่ iPhone4 ไม่ว่าจะไปธนาคาร โรงเรียน โรงรับจำนำ <<< มีนะ ต่างก็จะเห็นแต่คนใช้โทรศัพท์มือถือ iPhone4 แต่สิ่งหนึ่งที่ยังเหมือนกันล่ะก็คือ “สีดำ” ใช่ครับ เราเห็นที่ไหนต่างก็เป็นสีดำเหมือน ๆ กันหมดราวกับเครื่องแบบก็มิปาน แต่แล้วศาสดาก็ทนเสียงเรียกร้องไม่ไหว จัด iPhone4 “สีขาว” มาให้เหล่าสาวกได้ครอบครองกันให้หายอยาก บางคนกำลังเล็ง ๆ อยู่ต่างรีบจับจองทันที เนื่องจากหลาย ๆ คนที่ใช้สินค้า Apple รวมถึงตัวผมเอง ต่างก็ชอบสีขาวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว โดยวันนี้เราจะมาลอง Review เชยชมกันครับ ว่ามันขาวเนียลจริงดั่งคำล่ำลือหรือปล่าว?

Tips : ภาพทุกภาพสามารถคลิกเพื่อดูภาพใหญ่ได้เลยครับ)

ก่อนอื่นต้องขอกราบขอบพระคุณ AIS ที่เอื้อเฟื้อเครื่อง และอำนวนความสะดวกในการส่งเครื่องมาให้ทีมงานได้ทดสอบครับด้วยครับ (-/-)

สำหรับใน Review นี้ผมอาจจะพูดคร่าว ๆ นะครับ เพราะในส่วนข้อมูลเชิงลึกแล้วนั้นเหมือน iPhone4 ทุกอย่าง เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านก็คงจะพอทราบกันมาบ้างแล้ว ต่างกันเพียงแค่สี และเครือข่าย แพคเกจและโปรโมชั่นที่ผู้ให้บริการแต่ละรายมานำเสนอ อยากให้ลองพิจารณาดูครับ

สำหรับแพคเกจแกะกล่องนั้นยังเดิม ๆ อยู่ครับ ตามแบบฉบับของ Apple เพียงแต่เป็นเครื่องสีขาว ซึ่งสำหรับผมแล้วมันน่าสนใจกว่า iPhone4 สีดำเดิม ๆ เยอะเลย ใช้แล้วดูมีสเน่ห์ น่าค้นหาและไม่เหมือนใครดีครับ ใครกำลังสนใจอยู่แนะนำเลยครับ สีขาวสวยจริง ๆ สำหรับ iPhone4

สำหรับอุปกรณ์ในกล่องมี
– เครื่อง
– สาย Sync
– หูฟังพร้อมไมค์ปรับเสียง
– อุปกรณ์ถอดซิม
– คู่มือ
– สติกเกอร์ Apple

แกะออกมาแล้วครับ ตัวเครื่องขาวมาก ๆ เลยครับ ปุ่มก็ขาว ให้ความรู้สึกดีและเหมาะกับผลิตภัณฑ์หลาย ๆ อย่างของ Apple มาก ๆ จะว่าไปที่ชาร์จกับสาย Sync แล้วก็หูฟังมันก็ขาวอยู่แล้วนะครับ เอามาวางไว้ด้วยกันทำให้ดูเป็นเซ็ทเดียวกันมาก ๆ เลย ^^

ผมเลือกใช้งานกับเครือข่ายคุณภาพจาก AIS ครับ อันนี้ไม่ได้โฆษณาจริง ๆ นะครับ หากใครโทรมาเบอร์ผมจะทราบดีว่าผมนั้นใช้ AIS มา 5-6 ปี ได้แล้ว โดยส่วนตัวแล้วผมค่อนข้างประทับใจกับเครือข่ายนี้ครับ เพราะสังเกตุตั้งแต่สมัยเรียน ปวช. แล้วไม่ว่าเราจะไปออกค่ายต่างจังหวัดที่ไหน เพื่อนผมมักจะมีปัญหาเรื่องสัญญาณเสมอ โทรติด ๆ ดับ ๆ แล้วมันก็ตัด (สมัยนั้นนาทีละ 3 บาท) ซึ่งผมก็คิดว่ามันไม่คุ้มเอาซะเลย ตรงจุดนี้หากใครจะฝากชีวิตไว้กับเครือข่ายใด เครือข่ายนึกอยากให้ลองไปพิจารณากันดูนะครับ ^^

เราลองมาดูมุมแปลก ๆ กันบ้างนะครับ (แปลกมาก) ตรงนี้เป็นส่วนของความหนาของตัวเครื่องครับ ดูพอดีกระทัดรัด สามารถใส่กระเป๋ากางเกงได้สบาย ๆ หากใครไม่เคยมีประสบการณ์สัมผัสกับ iPhone4 มาก่อน อยากให้ลองไปหยิบไปจับได้ที่ศูนย์ครับ แล้วคุณจะรัก iPhone4 ขึ้นมากทีเดียว (โดยเฉพาะสีขาว เพราะเด่นมากกกก)

อันนี้เป็นมุมด้านหลังเงางามครับ แต่ผมแนะนำให้หาเคสมาใส่จะกระชับมือกว่านี้ครับ เคสจำพวก Bumber หรือไม่ก็เคสที่เปิดโชว์ด้านหลังใส ก็ดีครับ แต่โดยหลักการพื้น ๆ แล้ว iPhone4 ทำมาจากวัสดุกระจอเฮลิคอปเตอร์ครับ ซึ่งได้รับการยืนยันมาแล้วว่าเป็นรอยได้ยากมาก ไม่เชื่อลองไปดูที่ศูนย์ที่เขาไม่ได้ติดกันรอยดูครับ จะพบว่าสภาพมันเอี่ยมกว่าที่คิดมากจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวโชว์ต้องโดนจับโดนขูดมาเป็นพัน ๆ ครั้งแท้ ๆ อีกทั้งตัวกระจกยังสามารถกันรอยนิ้วมือได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งตรงนี้หากใครยังกังวลอยู่จะติดก็ไม่ว่ากันครับ

ส่วนบริเวณด้านหน้าครับ ผมพยายามซูมให้ใกล้ ๆ แล้วเพื่อ จะได้เห็นจัด ๆ เอาล่ะครับ เรามาพูดถึงเรื่องจอกันต่อดีกว่า iPhone4 นั้นมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Retina Display ที่ให้ความละเอียดสูงกว่าหน้าจอทั่วไปคือ 960×640 พิกเซล ซึ่งสามารถคิดค่าความหนาแน่นของเม็ดพิเซลได้เป็น 326 พิกเซลต่อพื้นทีหนึ่งตารางนิ้ว (pixels per inch หรือ ppi) โดยหน้าจอของ iPhone 3GS ที่มีขนาดเท่ากัน จะพบว่าตัวจอภาพมีความละเอียดเพียง 480×320 และมีความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลเพียง 163ppi เท่านั้น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถมองเห็นได้ด้วยตาปล่าวง่าย ๆ เลยทีเดียว

พูดถึงความละเอียดหน้าจอยังไม่พอ นอกจากค่าความคมชัดที่เพิ่มขึ้นมาแล้ว หน้าจอ Retina Display ของ iPhone4 ยังได้รับการพัฒนาด้วยเทคโนโลยี In-Plane Switching (IPS) ที่ใช้ในจอ iMac หรือ Monitor มืออาชีพทั้งหลายมาใช้กับจอ Retina Display ของ iPhone4ด้วย จากเดิมที่เป็น LED backlit ทั่ว ๆ ไป ผลจากการใช้จอ In-Plane Switching (IPS) คือหน้าจอจะมีความสดและความละเอียด รวมถึงช่วงของเม็ดสีที่กว้างยิ่งขึ้นอีกด้วย

กล้องด้านหลังของ iPhone4 มาพร้อมกับ Auto Focus ครับ หรือจะ Focus เอง เฉพาะจุดก็ได้โดยการนำนิ้วไปแตะที่บริเวณนั้น ๆ ของภาพ ก็จะทำการ Focus ให้แล้ว พึ่งภาพที่ได้จะดูมีมิติมากเลยทีเดียว โดยความละเอียดจะอยู่ที่ 5MP พร้อม Flash LED แต่อย่าเพิ่งตกใจกับตัวเลข เพราะส่วนตัวผมนั้นคิดว่าภาพมันดีกว่ากล้อง 8MP ของบางรุ่นเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งยังสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 720p (HD)

สเปคภายในใช้ CPU A4 ความเร็ว 1Ghz พร้อมกับ RAM 512MB (เร็วกว่าคอมฯ เครื่องแรกของผมอีก = =”) ความจุมีให้เลือก 16GB, 32GB ตามลำดับ และราคา ซึ่งประสิทธิภาพทั้งหมดจะถูกดึงออกมาด้วยพลังของ iOS ทำให้สามารถใช้งาน App ต่าง ๆ ได้อย่างราบลื่นและไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเว็บ ฯลฯ

ตรงส่วนด้านบนเป็นหูฟัง 3.5mm พร้อมไมค์แบบ 2 in 1 ครับ อีกฝั่งเป็นปุ่มเปิด-ปิด เครื่อง ถัดลงมาตรงบริเวณหน้าจอก่อนถึงช่องฟัง (ช่องที่เสียงคู่สนทนาออก -*-) จะมีเซ็นเซอร์วัดแสงครับ หลายคนอาจแปลกใจว่ามีไว้ทำไม? ก็คือว่า 1. เอาไว้ปรับความสว่างหน้าจอโดยอัตโนมัติเพื่อถนอมสายตาและพลังงาน 2. เอาไว้ดับแสงสว่างและการทำงานของหน้าจอเมื่อเราสนทนาเวลาเอาหน้ามาแนบ iPhone4

ด้านข้างตรงนี้เป็นช่องใส่ซิมครับ กดออกมาได้ โดย iPhone4 จะใช้สิ่งที่เรียกว่า MicroSim ซึ่งจะมีขนาดเล็กกว่า Sim ปกติทั่วไป โดยหากใครใช้ซิมเก่าของ AIS อยู่และต้องการเปลี่ยนไปใช้ MicroSim สามารถไปโอนถ่ายข้อมูลไปยัง MicroSim ได้ที่ AIS Shop ทุกสาขาครับ โดยหากบอกว่าผมสั่งให้มาจะฟรี !!! ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ (มั่วละ… มันฟรีอยู่แล้วต่างหาก -..-)

ตรงส่วนท้ายเครื่องจะเป็นลำโพงครับ และตรงกลางเป็นช่องต่อสาย Sync โดยข้าง ๆ จะเป็นน็อต (ห้ามซนแกะเล่น) อ้อ… เกือบลืมไป iPhone4 มาพร้อมกับอีก 1 ความวิเศษคือมีไมค์ 2 ตัวครับ (อย่าถามว่าอยู่ตรงไหน) ซึ่งจะช่วยในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ให้เสียงที่คมชัดสดใส ไพเราะเสนาะหูครับ

สุดท้ายแล้วด้านข้างเป็นปุ่มปรับเสียงครับ ส่วนด้านบนเป็นปุ่มสำหรับที่ต้องการจะกันหมุน หรือเปิดเสียงเปิดสั่น (แล้วแต่การตั้งค่า) ซึ่งก็นับได้ว่าสะดวกดีเป็นอย่างมากครับ ตรงจุดนี้ผมคิดว่าหลาย ๆ คนที่ยังไม่ได้ใช้ iPhone4 คงเริ่มอยากได้กันแล้ว ไม่มากก็น้อย หากใครลังเลอยู่กลัว iPhone5 จะรีบออกมาให้ช้ำใจ ผมขอบอกว่าอย่าไปกังวลครับ เพราะจากข่าวในต่างประเทศอาจจะมานู่นประมาณกลางปีหน้าแน่ะ แล้วไหนจะเข้าไทยอีกถ้ารอคงไม่ต้องใช้กันพอดีครับ หากใครตัดสินใจจะซื้อผมว่า iPhone4 สีขาวก็เป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ เลยครับ

ผลทดสอบ Edge Internet ของ AIS (ทดสอบ แถว ๆ ระแวก BTS สุรศักดิ์) นี่คืออีกหนึ่งเหตุผลที่ผมเลือก AIS เพราะความนิ่งของสัญญาณครับ ทั้งวันผมทดสอบได้ราว ๆ นี้ ไม่เคยมีตกเหลือกร้อยกว่า ๆ หรือไม่ถึงร้อยเลย โดยความเร็วของ Edge รักษาได้มาตรฐานค่อนข้างดีครับ หากเข้าถึงตรงบริเวณที่มี Edge Plus ของ AIS จะเร็วกว่านี้อีกครับ แต่ส่วนที่ผมชอบคือสามารถโทรเข้า-ออกไปด้วยได้ปกติครับ ไม่ทำให้เราพลาดการติดต่อที่สำคัญเลย

ขอขอบคุณ : AIS สำหรับเครื่อง iPhone4 สีขาว ที่ได้ส่งมาให้ทีมงานได้ทดสอบครับ

ข่าวประชาสัมพันธ์ : iPhone 4 จากเอไอเอส ทุกสี ผ่อน 0%

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ลูกค้าเอไอเอส สามารถซื้อ iPhone4  ทุกรุ่น ทุกสี  และได้รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 10 เดือน ที่ AIS shop ทุกสาขา ทั่วประเทศ และร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการ

• Facebook
• Twitter
• Line