วันนี้มี Gadget แปลกๆ มาแนะนำให้ทุกๆ ท่านได้รู้จักกัน เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่ผมคิดว่า “เออ แปลกดีนะ คิดได้ไง” อะไรประมาณนี้ กับเจ้า fonebud Essential Plus ซึ่งบอกก่อนว่าอุปกรณ์นี้เจ๋งถึงขั้นได้ไปแสดงที่งาน CES 2015 มาแล้ว จะเจ๋งแค่ไหนเราไปชมกัน
fonebud นิยามสั้นๆ ของอุปกรณ์ชิ้นนี้คือ แบตสำรองที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone และกลายเป็นโทรศัพท์ได้, เป็นรีโมทชัตเตอร์กล้องได้, มีไฟฉายในตัวและแจ้งเตือนได้หากคุณลืมสมาร์ทโฟนของคุณไว้เบื้องหลัง
ชมคลิปแนะนำก่อนเดี๋ยวค่อยมาดูรีวิวใกล้ๆ กันอีกที
คงจะเข้าใจกันมากขึ้นแล้วใช่ไหมหลังจากที่ชมคลิปกันไปแล้ว เอาหละเรามาดูของจริงกันบ้างว่า fonebud หน้าตาเป็นอย่างไร
แกะกล่องรีวิว fonebud Essential Plus
หน้าตากล่องของ fonebud เป็นเช่นนี้ครับ
ปกติแล้ว fonebud จะมีให้เลือก 4 สี คือ ส้ม ทอง เทา และเขียว โดยสีที่ได้นำมาทดสอบกันนี้เป็นสีส้มนะครับ ไปแกะกล่องดูกันเลย
ภายในกล่อง fonebud
หลังเปิดกล่องออกจะเห็น fonebud อยู่ในกล่องที่ครอบด้วยพลาสติกใสช่วยให้เห็นสี fonebud ได้อย่างชัดเจน หลังจากแกะบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ด้านในออกมาจะพบอุปกรณ์ดังนี้
- คู่มือการใช้งาน fonebud
- fonebud
- สาย micro USB สำหรับการชาร์จไฟเข้าที่แบตสำรอง
- ถุงผ้าสำหรับเก็บ fonebud
สำรวจภายนอกอุปกรณ์ fonebud
ด้านหน้ามีทั้งหมด 3 ปุ่ม ไล่จากบนลงล่าง
- ปุ่มเปิด ปิด ไฟฉาย
- ปุ่มกดชัตเตอร์ selfie
- ปุ่มพาวเวอร์สำหรับเปิดเพื่อเชื่อมต่อ fonebud กับสมาร์ทโฟน และกดเพื่อชาร์จแบตให้สมาร์ทโฟน
ส่วนจุด 4 จุดนั้นเป็นระดับแบตเตอรีที่เหลือของ fonebud และสุดท้ายเป็นตัวแสดงสภานะของสัญญาณ bluetooth
ด้านหลัง ไล่จากบนลงล่าง
- ขีดบนสุดคือลำโพง
- ปุ่มตรงกลางรูปโทรศัพท์ สำหรับกดรับสาย/ วางสาย/ โทรออกเบอร์ที่โทรเข้าล่าสุด
- ปุ่มเพิ่มเสียง/ ลดเสียง
- ช่องสำหรับไมค์
ด้านล่างเป็นช่องเปิดสำหรับการชาร์จไฟเข้าและปล่อยไฟออกให้สมาร์ทโฟน เหมือนการทำงานของแบตสำรองทั่วไป
คุณภาพของวัสดุภายนอกที่ใช้นั้นถือว่าอยู่ในเกร็ดระดับดีสัมผัสแล้วไม่รู้สึกว่าใช้ของโลว์เกรดเท่าไหร่และสีที่ทำออกมานั้นเป็นสีด้านเรียบสม่ำเสมอดี จัดได้ว่าดีครับให้ผ่านสำหรับการออกแบบและวัสดุที่นำผลิต
ต่อไปมาดูเรื่องการใช้งาน fonebud กันดูบ้างว่าจะพิเศษยังไง
ทดสอบใช้งาน fonebud
อย่างแรกเลยคือทำการเชื่อมต่อ fondbud กับสมาร์ทโฟนในที่นี้ผมใช้ iPhone 6 ในการทดสอบนะครับ การเชื่อมต่อนั้นจะผ่านสัญญาณ bluetooth โดยกดที่ปุ่มพาวเวอร์ที่อยู่เหนือบริเวณไฟแสดงสถานะ
กดค้างไว้ประมาณ 3-5 วินาทีเพื่อให้ไฟติด จากนั้นให้เปิด bluetooth ใน iPhone แล้วเลือกเชื่อมต่อกับ essential plus
หลังจากเชื่อมต่อ bluetooth เสร็จจะเห็นสถานะเป็น Connected ดังภาพ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วในเบื้องต้น
ฟีเจอร์ที่ใช้ได้เลยคือ รับสายเมื่อมีการโทรเข้าที่ iPhone ซึ่งที่ตัว fonebud จะมีไฟกระพริบที่ปุ่มรูปโทรศัพท์ด้านหลังเครื่อง(แต่ยังไม่มีเสียงเตือน ต้องติดตั้งแอป fonebud ก่อนจึงตั้งค่าเสียงเรียกเข้าได้)
เมื่อมีสายเรียกเข้าที่ iPhone จากนั้นตัว fonebud ไฟจะกระพริบขึ้นมา
สามารถกดที่ปุ่มเพื่อรับสายได้เลย และใช้หูแนบที่ลำโพงพร้อมกับสนทนาได้ตามปกติ(อารมณ์เหมือนใช้หูฟังบลูทูธนั่นแหละครับ) หากเสียงเบาก็ทำการเพิ่มหรือลดเสียงได้ตามความต้องการ
ฟีเจอร์ต่อไปนั้นจำเป็นต้องติดตั้งแอปที่ชื่อ fonebud จาก App Store หรือ Play Store ลงไปที่สมาร์ทโฟนเสียก่อน หลังจากนั้นสิ่งที่สามารถทำได้คือ
- ใช้ fonebud เป็นรีโมทชัตเตอร์ในการถ่ายภาพได้ (คุมแอป fonebud นะไม่ได้คุมแอป camera ของ iOS)
- ตั้งค่า fonebud ได้ว่า หากมีสายเข้า ให้ fonebud แจ้งเตือนด้วยเสียง
- ตั้งค่าให้ fonebud เป็น range detector ใช้ในกรณีที่เราวางสมาร์ทโฟนเอาไว้และถือ fonebud ติดตัวไป หาก fonebud เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนไม่ได้(ไม่อยู่ในระยะทำการ) ตัว fonebud จะแจ้งเตือนได้
ลองมาชมตัวอย่างกันดูครับ
ดาวน์โหลดแอป fonebud
หน้าตาของแอป fonebud จะมี 2 เมนู ซ้ายคือ กล้องถ่ายรูป(ที่ใช้ fonebud กดถ่ายรูปได้)
ตัวอย่างการใช้ fonebud กดชัตเตอร์ถ่ายรูป
ส่วนอีกเมนูคือการตั้งค่าของ fonebud ให้แจ้งเตือนซึ่งเข้าใจได้ง่ายมาก
นอกจากนี้ฟีเจอร์พื้นฐานก็คือการชาร์จไฟให้สมาร์ทโฟนและไฟฉาย
หมดแล้วสำหรับความสามารถของ fonebud ต่อไปขอสรุปหลังการทดสอบใช้งาน fonebud ให้ฟังกันครับ
สรุป
ฟีเจอร์เด่นของ fonebud เลยคือ ใช้เป็นตัวรับโทรศัพท์จะดีในช่วงที่มือถือเราแบตใกล้หมและเสียบชาร์จไว้ หากมีสายเรียกเข้าเราก็สามารถรับสายได้โดยไม่พลาดการติดต่อ
การใช้งาน fondbud ในที่เปลี่ยวแทนที่การยกสมาร์ทโฟนขึ้นมารับสาย เพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงที่อาจจะมีผู้ไม่หวังดีจ้องจะฉกชิงวิ่งราว โดยเฉพาะ iPhone โดนกันเยอะ จุดนี้ก็ช่วยเซฟได้ระดับหนึ่ง
เป็นแหล่งไฟสำรองสำหรับสมาร์ทโฟนในกรณีที่แบตใกล้จะหมด fonebud สามารถที่จะช่วยยืดอายุออกไปอีกได้ และนอกจากนี้ฟีเจอร์ไปฉายก็มีประโยชน์พอตัวเราอาจจะได้ใช้ยามจำเป็นก็ได้
เอาหละเห็นประโยชน์กันไปแล้วถามว่าถ้าใช้ในชีวิตจริงนั้นจะเป็นอย่างไร?
ผมมองว่า fonebud จะเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้กระเป๋าอย่างเช่นกระเป๋าสะพายหลังหรือสะพายข้างของคุณผู้หญิง หากผู้ชายที่เดินทางไปข้างนอกแต่ตัวกับสมาร์ทโฟนเครื่องเดียวการพก fonebud เพิ่มอีกตัวนั้นถือว่าไม่สะดวกเอามาก ไหนจะสมาร์ทโฟน, กระเป๋าตังและแถม fonebud อีก คิดว่างานเพิ่มอีกแน่นอน (อารมณ์เหมือนพกแบตสำรองเพิ่มเติมแหละส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบพกกัน)
เสียงเตือนจาก fonebud ค่อนข้างที่จะเบาไปหน่อยถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงหากมีสายเรียกเข้าจริงก็ไม่รู้สึกตัวได้เพราะมันไม่ได้สั่นเหมือนสมาร์ทโฟน การปรับระดับเสียงขึ้นก็ยังเบาอยู่ หากใครหูฟังไม่ดีก็อาจจะมีปัญหาได้เช่นกัน
ไอเดียของการกดชัตเตอร์นั้นดีนะ แต่ถ้าจะดีกว่านี้ถ้าคุมแอปกล้องของ iOS ได้เลยผมว่าจะเหมาะมากกว่า
ประโยชน์ของ fonebud ถือว่ามีให้มาเยอะมันดีกว่าพกแบตสำรองทั่วไป (ลืมบอกไป fonebud ความจุแบตที่ 5000 mAh) ทั้งยังเพิ่มระยะเวลาการคุยโทรศัพท์โทรศัพท์ให้ได้งานอีกด้วย ถ้าตอบโจทย์สำหรับท่านที่ต้องการแบตเพิ่ม อยากได้อุปกรณ์เสริมที่ช่วยคุยแทนการยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาได้ fonebud ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคุณ
ราคาและสถานที่จำหน่าย fonebud
ข่าวร้ายคือยังไม่มีจำหน่ายในประเทศไทยนะครับแต่คิดว่าเร็วๆ นี้จะมีผู้นำเข้ามาขายอย่างแน่นอน สินค้านี้ออกแบบโดยทีมงานในประเทศมาเลเซียส่วนชิ้นที่ได้มาทดสอบก็ส่งมาจากมาเลเซียเช่นกัน หากสนใจอยากทดสอบก็แวะมาเล่นที่ออฟฟิตของ iPhonemod ได้นะคร้าบ
ข้อมูลเพิ่มเติมของ fonebud ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/fonebud