in , , , , ,

คาดการณ์สิ่งที่จะได้เห็นในงาน WWDC23

ก่อนที่จะถึงงานประชุม Apple Worldwide Developer Conference ครั้งที่ 34 หรืองานที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า WWDC23 ซึ่งจะเริ่มต้นในคืนนี้ เรามาชมกันก่อนว่าสิ่งที่คาดว่าจะเปิดตัวในงานนี้มีอะไรบ้าง โดยแบ่งเป็นซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์

คาดการณ์ซอฟต์แวร์ที่จะเปิดตัวในงาน WWDC23

ตามธรรมเนียมของงาน WWDC ทุกปี Apple จะเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่สำหรับแต่ละอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น iOS, iPadOS, watchOS, tvOS และซอฟต์แวร์อื่น ๆ แต่ในปีนี้คาดว่าจะมีซอฟต์แวร์ใหม่ชื่อว่า xrOS สำหรับอุปกรณ์ใหม่อย่างแว่นตา AR/VR เพิ่มเข้ามาด้วย มาชมรายละเอียดกัน

iOS 17

iOS 17 ใหม่คาดว่า Apple จะเน้นเพิ่มฟีเจอร์ที่ได้รับการร้องขอจากผู้ใช้ และเป็นฟีเจอร์ที่ควรมี เพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานให้ตรงใจกับผู้ใช้มากขึ้น

ก่อนหน้านี้ใน iOS 16 มาพร้อมหน้าจอล็อคแบบใหม่ ที่แสดงวิดเจ็ตข้อมูลต่าง ๆ และสามารถปรับแต่งได้ คาดว่า Apple จะเพิ่มฟังก์ชันในหน้าจอล็อคมากขึ้น เช่น ปรับขนาดฟอนต์ได้ มีข้อมูลบนหน้าจอล็อคเพิ่มมากขึ้น และสามารถแชร์การปรับแต่งหน้าจอล็อคให้ผู้อื่นได้

ข้อมูลจาก Mark Gurman เผยว่า iOS 17 จะมีมุมมองการแสดงข้อมูลแบบจอ Smart Home ในหน้าจอล็อคเมื่อวาง iPhone แบบแนวนอน รวมถึงหน้าจอโฮมก็อาจจะสามารถปรับเป็นแนวนอนได้ด้วย

นอกจากนี้อาจจะมีฟังก์ชันอื่น ๆ สำหรับหน้าจอล็อคด้วย เช่น กิจกรรมสดที่สมจริงมากขึ้น การแสดงเนื้อเพลงในหน้าจอล็อคแบบเรียลไทม์

ข่าวลือเพิ่มเติมเผยว่า Apple จะยกเครื่อง Control Center ใหม่ให้ปรับแต่งเมนูการใช้งานได้มากขึ้น โดยอาจจะรองรับเมนูจากแอปอื่น ๆ, มีการเพิ่มฟังก์ชันสำหรับ Dynamic Island และวิดเจ็ตให้สามารถทำงานหรือตอบโต้ได้

คาดว่าจะมีการเพิ่มแอป Journal ใหม่ ให้ผู้ใช้บันทึกเรื่องราวประจำวัน รวมถึงมีฟีเจอร์การติดตามอารมณ์ที่เชื่อมต่อข้อมูลกับแอปสุขภาพ

แอป Wallet, Find My, SharePlay และ AirPlay ก็จะได้รับการอัปเกรดใหม่ มีการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญ ปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียร

iOS 17 ยังมาพร้อมฟีเจอร์การช่วยการเข้าถึงใหม่ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการรับรู้ การพูด และการมองเห็น โดยเตรียมเปิดใช้งานภายในปลายปีนี้

นอกจากนี้ ในส่วนของ Apple CarPlay ก็จะมีการเพิ่มฟังก์ชันการทำงานใหม่ที่ทำงานร่วมกับอินเตอร์เฟสใหม่ทั้งหมด

สุดท้าย Apple จะเปิดให้รองรับแอป Sideloading เฉพาะผู้ใช้ในยุโรป ให้ผู้ใช้ดาวน์โหลดแอปนอก App Store มาใช้งานได้ เพื่อไม่ให้ขัดต่อข้อกฎหมายของยุโรป

สรุปฟีเจอร์หลักใน iOS 17

  • เพิ่มการแสดงผลหน้าจอล็อคแบบ Home Hub หรือ Smart Home
  • หน้าจอล็อคปรับแต่งได้มากขึ้น
  • แชร์การปรับแต่งหน้าจอล็อคให้ผู้อื่นได้
  • Control Center ยกเครื่องใหม่ ปรับแต่งเมนูได้มากขึ้น
  • เพิ่มความสามารถให้วิดเจ็ตโต้ตอบได้มากขึ้น
  • แสดงเนื้อเพลง Apple Music แบบเรียลไทม์ในหน้าจอล็อค
  • Dynamic Island ทำงานหรือตอบโต้ได้มากขึ้น
  • มีแอปใหม่ Journal สำหรับการบันทึกข้อมูลประจำวัน
  • มีระบบติดตามอารมณ์ในแอปสุขภาพ
  • ปรับปรุงแอป Wallet, Find My, SharePlay และ AirPlay
  • รองรับแอป Sideloading ในยุโรป
  • ปรุงปรุงระสิทธิภาพและความเสถียรของซอฟต์แวร์

xrOS

ถ้าหาก Apple เปิดตัวอุปกรณ์ใหม่ “แว่นตา Reality Pro (AR/VR)” ในงานนี้ แน่นอนว่าก็จะต้องมีซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ด้วย ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า Apple ได้จดทะเบียนโลโก้ชื่อว่า “xrOS” ที่คาดว่าจะใช้กับแว่นตา Reality Pro

xrOS จะมีอินเทอร์เฟสคล้ายกับ iOS ควบคุมด้วยท่าทางมือและตา สามารถทำงานร่วมกับ iPhone, iPad และ Mac ได้ เช่น เมื่อเชื่อมต่อกับ Mac ก็สามารถใช้หน้าจอ Mac เป็นตัวเลือกการแสดงผล ควบคุมด้วยเมาส์และแป้นพิมพ์, สามารถใช้ iPhone ช่วยป้อนข้อความและทำหน้าที่อื่น ๆ ได้

Apple จะต้องพัฒนาแอปที่ใช้งานสำหรับแว่นตา AR/VR โดยเฉพาะ รวมถึงเปิดให้นักพัฒนาอื่น ๆ สร้างแอปที่มีคอนเทนต์ 3D ที่ใช้สำหรับแว่นตานี้ โดยแอปของทางฝั่ง Apple ที่คาดว่าจะใช้ร่วมกันได้ ได้แก่ Maps, Safari, Photos, FaceTime และจะเน้นการรองรับเนื้อหาบนทีวีด้วย

นอกจากจะใช้งานแอปสำหรับแว่นตาแล้ว คาดว่าจะสามารถเรียกใช้แอปสำหรับ iPad บางแอปได้ด้วย โดยอาจจะเป็นแอปแบบ 2D ที่ทำงานในสภาพแวดล้อม 3D

ตอนนี้คาดว่า Apple กำลังสร้างเครื่องมือให้กับนักพัฒนา เพื่อกระตุ้นให้นักพัฒนาสร้างแอปและเกมที่เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกับแว่นตา AR/VR ทำให้แว่นตานี้ดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

คาดว่าในงาน WWDC23 นี้จะมีการจัดเซสชันและเวิร์คชอปสำหรับนักพัฒนา เพื่อให้นักพัฒนาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ xrOS รวมถึงหัวข้อต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น การสร้างแอปสำหรับแว่นตา AR/VR, การพอร์ตแอปจากแพลตฟอร์มอื่นมายัง xrOS, แนวทางการออกแบบสำหรับประสบการณ์ความจริงเสมือน

สรุปฟีเจอร์หลักใน rxOS

  • การออกแบบหน้าตาคล้ายกับ iOS
  • สามารถควบคุมด้วยท่าทางมือและตา
  • เชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นเพื่อทำงานร่วมกัน
  • เรียกใช้บางแอปจาก iPad ได้
  • มีแอปของ Apple ที่ปรับให้เหมาะกับการแสดงผล 3D
  • แสดงผลอวาตาร์เสมือนจริงในแอป FaceTime
  • ใช้งานร่วมกับทีวี การรับชมกีฬา และ Apple วางแผนเป็นพันธมิตรกับบริษัทผลิตสื่อ เช่น Disney

iPadOS 17

คาดว่า iPadOS 17 จะเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ให้ทำงานร่วมกับ Mac ได้ดีขึ้น เช่น เวลาเชื่อมต่อหน้าจอเสริม สามารถพักหน้าจอ iPad ได้ โดยที่หน้าจอเสริมยังคงแสดงอยู่, ตั้งค่าเสียง Output ได้ว่าจะให้เสียงออกที่อุปกรณ์ไหน เวลาที่สตรีมเนื้อหาไปยังอุปกรณ์อื่น

นอกจากนี้ ใน iPadOS 17 ยังคาดว่าจะรองรับกล้อง Webcam ของหน้าจอเสริมหรือรองรับ iPhone เป็นกล้องเสริมเหมือนกับฟีเจอร์ Continuty Camera บน macOS Ventura และสามารถปรับขนาด Dock ได้เหมือนกับ Mac

คาดว่า iPadOS 17 สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อค iPad ให้เหมือนกับ iPhone ที่สามารถปรับแต่งการแสดงผลและเพิ่มวิดเจ็ตต่าง ๆ ได้เช่นเดียวกับ iOS 16 รวมถึง iPadOS 17 จะมีแอปสุขภาพ (Health) เหมือนกับบน iPhone

watchOS 10

คาดว่า Apple Watch ที่จะเปิดตัวในช่วยปลายปีนี้ จะไม่ได้รับการอัปเดตใหญ่มากนัก Apple อาจจะชดเชยด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน watchOS 10 แทน

watchOS 10 จะยกเครื่องหน้าปัดใหม่ที่มีวิดเจ็ตคล้ายกับบน iPhone ปรับแต่งและแสดงข้อมูลได้มากขึ้น และอาจจะรองรับการแสดงผลวิดเจ็ตซ้อนที่แสดงผลวิดเจ็ตเป็นกลุ่มและเลือกสลับดูวิดเจ็ตได้

นอกจากนี้ ใน watchOS 10 เราอาจจะสามารถปรับแต่งปุ่มด้านข้างและปุ่ม Digital Crown ได้ ทำให้เข้าถึงวิดเจ็ตได้ง่ายขึ้น

สรุปฟีเจอร์หลักใน watchOS 10

  • ยกเครื่องการแสดงผลหน้าใหม่
  • เน้นการแสดงผลวิดเจ็ต เพื่อโต้ตอบและเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น
  • อาจแสดงผลวิดเจ็ตซ้อนได้บนหน้าปัดเหมือนกับ iPhone
  • ปุ่มด้านข้างกับปุ่ม Digital Crown ปรับแต่งการทำงานได้

macOS 14

ก่อนหน้านี้ไม่ค่อยมีข่าวลือเกี่ยวกับ macOS 14 มากนัก สิ่งแรกก็มีการคาดเดาเกี่ยวกับชื่อ macOS 14 โดยใช้ชื่อสถานที่สำคัญในแคลิฟอร์เนีย มีชื่อที่เคยจดเครื่องหมายการค้าและพร้อมให้ใช้งานอยู่ ได้แก่  Rincon, Mammoth, Shasta, Farallon, Diablo, Sequoia, Sonoma, Grizzly และ Redwood แต่บางที Apple อาจจะไม่ได้ใช้ชื่อที่เคยจดเครื่องหมายการค้าก็ได้

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ ตามรายงานเผยว่า เราอาจจะได้เห็นแอป Journal บันทึกข้อมูลประจำวันเหมือนกับ iOS 17 และมีการอัปเกรดแอป Find My‌, SharePlay และฟีเจอร์ข้ามแพลตฟอร์มอื่น ๆ

tvOS 17 และ HomePod Software 17

ซอฟต์แวร์สำหรับอุปกรณ์ Apple TV และ HomePod ก็จะได้รับการเปิดตัวซอฟต์แวร์ด้วยเช่นกัน เน้นการอัปเกรดเล็ก ๆ น้อย ๆ และปรับปรุงประสิทธิภาพของซอฟต์แวร์

คาดการณ์ฮาร์ดแวร์ที่จะเปิดตัวในงาน WWDC23

นอกจากจะเปิดตัวซอฟต์แวร์ใหม่แล้ว บางครั้ง Apple ก็เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ด้วย ซึ่งในปีนี้คาดว่าอุปกรณ์ใหม่ที่เป็นไฮไลท์ในงานนี้ก็คือ แว่นตา AR/VR ที่เป็นอุปกรณ์ความจริงเสมือนชิ้นแรกของ Apple และในงานนี้ก็คาดว่าจะมี Mac รุ่นอื่น ๆ เปิดตัวด้วย

Reality Pro แว่นตา AR/VR ใหม่

แว่นตา AR/VR เป็นอุปกรณ์ที่มีข่าวลือและรอคอยการเปิดตัวกันมานาน และในปีนี้คาดว่า Apple จะเปิดตัวแว่นตาชื่อว่า Reality Pro ในงาน WWDC23 นี้ เป็นแว่นตาพร้อมชุดหูฟังที่ให้ประสบการณ์ความจริงเสมือนและความจริงเสริม (AR/VR) มาพร้อมฟีเจอร์และสเปคฮาร์ดแวร์ระดับไฮเอนด์

แว่นตาหรือชุดหูฟัง Reality Pro ตัวแรกของ Apple คาดว่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับพรีเมียมที่ขายในราคาประมาณ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาพร้อมนวัตกรรมกการตั้งค่า 3 หน้าจอ ใช้หน้าจอ Micro-LED ระดับ 4K

Reality Pro นี้จะใช้ซอฟต์แวร์ xrOS ใหม่ รองรับการทำงานหลากหลาย อย่างเช่น การโทร FaceTime การรับชมเนื้อหาบนทีวี การเล่นเกม แว่นตานี้จะช่วยสร้างโลกเสมือนจริง ส่งมอบประสบการณ์ใหม่ให้กับผู้ใช้

นอกจากนี้ Reality Pro ยังมาพร้อมการสลับโหมด AR และ VR ด้วยการหมุนปุ่มสลับที่คล้าย ๆ Digital Crown โดย VR จะให้ประสบการณ์สมจริง เมื่อสลับเป็นโหมด AR แว่นตาก็จะค่อย ๆ ปรับให้ผู้ใช้มองเห็นโลกความจริงเสมือน

ในงาน WWDC23 นี้เราจะเห็นการเปิดตัวแว่นตาหรือชุดหูฟัง Reality Pro แต่คาดว่า Apple ยังไม่เปิดขายในช่วงนี้ อาจจะเป็นช่วงปลายปีแทน

MacBook Air 15 นิ้ว

ปัจจุบัน MacBook Air ที่วางจำหน่ายอยู่มี 2 รุ่นด้วยกัน คือ MacBook Air 13″ ชิป M1 และ MacBook Air 13″ ชิป M2 และในงาน WWDC นี้ มีข่าวลือว่า Apple อาจจะเปิดตัว MacBook Air 15″ นิ้วใหม่ โดยยังคงใช้ชิป M2 อยู่ เนื่องจากชิป M3 ยังไม่พร้อมเปิดตัว คาดว่าการเปลี่ยนแปลงหลัก ๆ คือ จอแสดงผลที่ใหญ่ขึ้น

สรุปฟีเจอร์หลักใน MacBook Air 15 นิ้ว

  • มาพร้อมขนาดหน้าจอ 15.5 นิ้ว
  • การออกแบบและมีฟีเจอร์คล้ายกับ MacBook Air 13″ ชิป M2
  • คาดว่าจะใช้ชิป M2 และมีมี GPU แบบ 8 คอร์และ 10 คอร์

Mac Studio

รายงานจาก Mark Gurman เผยว่า Apple กำลังทดสอบคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปที่ใช้ชิป M2 Ultra ใหม่และ M2 Max โดยคาดว่าน่าจะเป็น Mac Sudio รุ่นอัปเกรดใหม่ จากตัวเดิมที่ใช้ชิป M1 Ultra และ M1 Max ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นก็อาจจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่สำหรับ Mac Studio นอกจากอัปเกรดชิป

Mac Pro ชิป Apple Silicon

Mac Pro เป็น Mac รุ่นเดียวที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็นชิป Apple Silicon เปิดตัวครั้งแรกในปี 2019 ในงาน WWDC19 เป็น Mac ระดับไฮเอนด์ที่มีประสิทธิภาพสูง

ในงาน Peek Performance ช่วงเดือนมีนาคม ปี 2022 หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฮาร์ดแวร์ของ Apple กล่าวว่า Mac Pro รุ่นชิป Apple Silicon อยู่ในระหว่างการพัฒนาและคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2022 แต่ผ่านมาแล้วก็ยังไม่มีการเปิดตัว ดังนั้นก็คาดว่าในงาน WWDC23 นี้เราอาจจะได้เห็นการเปิดตัวของ Mac Pro ที่มาพร้อมชิปทรงพลังอย่าง ชิป M2 Ultra ใหม่ (หรืออาจจะเป็นชิปใหม่ระดับไฮเอนด์)

iMac Pro

iMac Pro เป็นตัวระดับไฮเอนด์เช่นกัน ซึ่ง Apple เลิกขาย iMac Pro นานแล้ว แต่ก็มีข่าวลือระบุว่า Apple อาจจะนำ iMac Pro กลับมาพัฒนาใหม่ โดยมีขนาดหน้าจอใหญ่ และมาพร้อมชิป Apple Silicon ประสิทธิภาพสูง ซึ่งข่าวลือระบุว่าอาจจะเป็นชิป M3 Pro หรือ M3 Max แต่ถ้าหากเปิดตัวในงาน WWDC23 นี้ เป็นไปได้ว่าอาจจะใช้ชิป M2 Max และ M2 Ultra ใหม่

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงการคาดการณ์สิ่งใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัวในงาน WWDC23 ในคืนนี้จะมีอะไรเปิดตัวบ้างนั้น ก็ต้องรอติดตามชมไปพร้อม ๆ กัน

ช่องทางการรับชมงาน WWDC 2023 และการอัปเดตข้อมูล

รับชมการถ่ายทอดสด (Live) งาน WWDC 2023 กับทีมงาน iMoD พร้อมบรรยายไทยกันได้ในคืนวันจันทร์ที่ 5 มิ.ย. ย่างเข้าคืนวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 23.23 น. เป็นต้นไป ตามเวลาประเทศไทยนะคะ

ที่มา macrumors, 9to5mac

ความคิดเห็น - Like เพจ iPhoneMod.net

เขียนโดย Zakura Kim

Bachelor degree of science, Software engineering major, Payap University